ผ่า 4 นโยบายการเคหะฯ ช่วยผู้มีรายได้น้อย-ผู้สูงอายุมีบ้านเป็นของตัวเอง

"...ในปีงบประมาณ 2564 การเคหะแห่งชาติได้ตั้งเป้ากำไรสุทธิไว้ที่ 800 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักแต่อย่างใด เนื่องจากนโยบายสำคัญคือการสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อยโดยเฉพาะ ภาครัฐเล็งเห็นว่าจากวิกฤติโควิดนั้น สถานการณ์เศรษฐกิจอาจส่งผลให้ผู้มีรายได้น้อยไม่สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ในอีก 2-3 ปีนับจากนี้ ดังนั้นจึงจัดสร้างที่ให้เช่าเริ่มต้นเดือนละ 1,500 บาท และเมื่อมีศักยภาพทางการเงินแล้วก็สามารถมาซื้อเป็นเจ้าของได้

---------------------------------------------------

หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2563 นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม เพื่อเยี่ยมชมการบริหารจัดการโครงการบ้านเอื้ออาทรสมุทรสงคราม (แม่กลอง) พร้อมทั้งพูดคุยถึงแผนงาน 4 โครงการ ที่จะช่วยให้ผู้มีรายได้น้อย อาชีพอิสระ ผู้สูงอายุ ข้าราชการเกษียณ เข้าร่วมโครงการเพื่อให้มีบ้านเป็นของตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทางหนึ่ง

@'บ้านเคหะสุขประชา'ช่วยคนรายได้น้อย-อาชีพอิสระเป็นเจ้าของบ้าน
นายทวีพงษ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอีก 3 ปีข้างหน้า ประชาชนจะมีโอกาสพบกับปัญหาเศรษฐกิจค่อนข้างมาก โอกาสที่ประชาชนจะมีที่อยู่อาศัยก็ค่อนข้างยาก เพราะฉะนั้นการเคหะแห่งชาติจึงมีนโยบายที่จะสร้างบ้านให้เช่า โดยเป็นการจัดทำโครงการ 'บ้านเคหะสุขประชา' เป็นที่อยู่อาศัยประเภทเช่า เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2564-2569 จะเป็นการเช่าแบบเช่าซื้อ หมายความว่าในอนาคตประชาชนมีรายได้ที่มากขึ้นมีความมั่นคงมากขึ้นก็สามารถเปลี่ยนแปลงจากสัญญาเช่าเป็นสัญญาซื้อได้

โดยเงินที่จ่ายค่าเช่าบางส่วนสามารถนำมาหักเป็นเงินดาวน์เพื่อตัดยอดในการซื้อบ้านต่อไปได้ในอนาคต นอกจากนั้นการเคหะแห่งชาติมีเงินสนับสนุนอีกส่วนหนึ่ง ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระ 7 ประเภท สามารถเข้าถึงสินเชื่อและมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งประกอบด้วย 1.คนขับ Grab 2.แม่ค้าออนไลน์ 3.หมอนวดแผนไทย 4.แม่ค้าที่ขายอาหารสดในตลาด 5.พ่อค้าที่ขายอาหารสำเร็จรูป 6.ผู้ที่ขายของอยู่ในตลาดนัด และ 7.ลูกจ้างขายของตามร้านค้า

ส่วนพื้นที่ภายในโครงการฯ ได้จัดให้มีพื้นที่ 'เศรษฐกิจสุขประชา' อยู่ในทุกชุมชน เพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยประกอบอาชีพอิสระในชุมชน สนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนตามภูมิภาคสังคมของพื้นที่นั้นๆ เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย เช่น พื้นที่ในเขตเมืองจัดทำเป็นตลาดชุมชน เพราะประชาชนที่อยู่ในเมืองมักจะประกอบอาชีพอยู่แล้ว ส่วนโครงการในพื้นที่ภูมิภาคจัดให้มีการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และปศุสัตว์ เป็นต้น เรียกว่าในหนึ่งชุมชนสามารถพัฒนาและหมุนเวียนเศรษฐกิจได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

@บ้านผู้สูงอายุ 4 มุมเมือง รองรับสถานการณ์วัยเกษียณ
นายทวีพงษ์ กล่าวต่อว่า ในปี 2564 จะเดินหน้าโครงการบ้านผู้สูงอายุ 4 มุมเมือง ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครปฐม ลำลูกกา สมุทรปราการ ซึ่งจะเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จเพื่อรองรับผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้มีที่อยู่อาศัย ทั้งนี้การเคหะฯ จะทำงานร่วมกับกรมผู้สูงอายุในการที่จะเข้ามาดูแลผู้สูงอายุ ดูแลผู้ป่วยติดเตียง และมีที่อยู่อาศัยให้กับสำหรับลูกหลานในการดูแลผู้สูงอายุ

สำหรับบ้านพักข้าราชการทหารตำรวจในปีงบประมาณหน้าที่จะเกษียณในเดือนกันยายน 2564 ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่ไม่มีบ้านของตัวเอง ก็จะไปประจำอยู่ในกรมทหารตำรวจ ซึ่งการเคหะฯได้เตรียมสร้างบ้านรองรับไว้แล้วเช่นกัน

ส่วนโครงการ satellite home เนื่องจากประเทศไทยของเรามีรถไฟฟ้า 4 เส้นที่จะเข้าสู่ส่วนกลางเพื่อที่จะขยายเมืองออกมาด้านนอกที่มีการสร้างเครือข่ายเพื่อไม่ให้เป็นชุมชนแออัดและเราก็จะทำโครงการให้เหมือนระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งรอบสถานีขนส่งมวลชน (Transit-Oriented Development หรือ TOD) ที่เชื่อมกับสถานีรถไฟอีก 4 มุมเมืองที่อยู่ตามปลายทาง

@ตั้งเป้าทำกำไร 800 ล้านบาทในปี 2564
ในปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมา การเคหะฯมีกำไรสุทธิ 900 ล้านบาท ก่อนนำส่งคืนจำนวน 300 ล้านบาท จากรายได้จำนวน 8,000 ล้านบาท ซึ่งกำไรดังกล่าวเป็นจำนวนที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิกว่า 1,100 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเพราะจากผลกระทบของวิกฤติโควิด ทางการเคหะฯมีมาตรการในการเยียวยาลูกค้าในเรื่องของการพักชำระหนี้ค่าเช่าซื้อ ทำให้ไม่ได้รับดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อและต้องหยุดหนี้เรื่องของค่าเช่า ดังนั้นจึงทำให้กำไรหายไปกว่า 400 ล้านบาท

ขณะที่ในปีงบประมาณ 2564 การเคหะแห่งชาติได้ตั้งเป้ากำไรสุทธิไว้ที่ 800 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้เป็นเป้าหมายหลักแต่อย่างใด เนื่องจากนโยบายสำคัญคือการสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อยโดยเฉพาะในปี 2564 นั้นทางการเคหะฯมีแผนงานส่งมอบที่อยู่อาศัยรวม 32,787 หน่วย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการเช่าซื้อคือโครงการบ้านสุขประชาตามนโยบายรัฐบาลจำนวน 20,000 หน่วยเนื่องจากภาครัฐเล็งเห็นว่าจากวิกฤติโควิดนั้น สถานการณ์เศรษฐกิจอาจส่งผลให้ผู้มีรายได้น้อยไม่สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ในอีก 2-3 ปีนับจากนี้ ดังนั้นจึงจัดสร้างที่ให้เช่าเริ่มต้นเดือนละ 1,500 บาท และเมื่อมีศักยภาพทางการเงินแล้วก็สามารถมาซื้อเป็นเจ้าของได้

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage