จนท.พัสดุโต้ ผอ.สถาบันวิทยาลัยชุมชน ปมเงินทอน‘ไม่เคยถูกตั้ง กก.สอบ-ไม่เคยขอบัญชี ผอ.’

piuyhtgtgtgt12 7 63

จนท.พัสดุ งัดหลักฐานโต้คำให้สัมภาษณ์ ผอ.สถาบันวิทยาลัยชุมชน ปมเงินทอน 10-55% ยันไม่เคยขอบัญชีผู้บริหาร แต่เคยบอกให้ไปคุยเรื่องเปอร์เซ็นกับเอกชนเอง แถมบิ๊กส่งข้อความไปทวงถามจากบริษัทด้วยตนเอง ไม่เคยถูกตั้ง กก.สอบก่อนไม่ถูกต่อสัญญาจ้าง ทั้งไม่เคยทำผิด ตอนนี้เดือดร้อนหนัก ร้องขอความเป็นธรรมหลายแห่ง

.........................................

“ดิฉันไม่เคยขอบัญชี ผอ. ไม่ว่าจะเป็น ผอ.คนใดก็ไม่เคยขอบัญชีของ ผอ. ดิฉันเคยแต่แจ้ง ผอ.ว่าทางบริษัทขอคุยเรื่องเปอร์เซ็นต์ ดิฉันก็ประสาน ผอ.ให้กับทางบริษัท และให้ ผอ.คุยเรื่องเปอร์เซ็นต์กับบริษัทและร้านค้าต่างๆเอง”

สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ลงบทสัมภาษณ์ นายนำชัย กฤษณาสกุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันวิทยาลัยชุมชน กรณีเงินทอนจัดซื้อแบบเรียนวิทยาลัยชุมชน ส่วนหนึ่งของคำให้สัมภาษณ์ได้กล่าวว่า จะต้องมีการลงลึกในรายละเอียดด้วยเช่นกันว่าในกระบวนการกระทำความผิดนั้น ผู้ที่ทำความผิดอยู่ในระดับผู้บริหารวิทยาลัยชุมชน หรือเป็นพนักงานในระดับล่างที่ดำเนินการเอกสารหรือพัสดุกันแน่และบอกอีกว่าที่ได้รับทราบมาก็คือว่าพนักงานพัสดุคนนี้เขาก็อาจจะไม่พอใจที่ตัว ผอ.ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้วส่งผลทำให้ไม่สามารถต่ออายุการเป็นพนักงานพัสดุต่อไปได้

(เรื่องเกี่ยวข้อง:คดีเงินทอนหนังสือพิจิตร : ถ้ามีจ่ายกันแบบนี้จริง ต้องเจอโทษวินัย-อาญา! )

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2563 พนักงานราชการที่ทำหน้าที่พัสดุวิทยาลัยชุมชนซึ่งถูกพาดพิงจากคำให้สัมภาษณ์ของ นายนำชัย กฤษณาสกุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันวิทยาลัยชุมชน ชี้แจงมายังสำนักข่าวอิศรา ดังนี้

ประเด็นที่ 1 กรณีนายนำชัย กฤษณาสกุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันวิทยาลัยชุมชน ให้สัมภาษณ์ว่า

“เท่าที่ผมฟังข่าว เห็นว่ามีพนักงานคนที่โดนออก เขาอยู่พัสดุ เขาเคยขอบัญชีผู้อำนวยการ ผอ. แต่ทาง ผอ.ก็ไม่ได้ให้บัญชีไป แต่บอกว่าถ้าหากมันจะมีเงินกลับมา ก็ให้เงินมันกลับเข้ามาที่ทางวิทยาลัยเสียสิ และปรากฎว่าไม่ได้มีการเอาเงินเอาเข้าวิทยาลัยจริง แต่ทีนี้เงินมันจะไปเข้าใครอย่างไรเนี่ย ผมว่าเรื่องนี้คงต้องมีการสอบให้ชัด ถ้ามันมีเงินตรงนี้มันเข้าใคร

“สมมติว่าถ้าไปเข้า ตามที่สำนักข่าวอิศราระบุว่าเป็นคนไร่อ้อย (เจ้าของรถตัดอ้อย) ก็ต้องไปดูว่าจริงไหมที่ไปเข้าไร่อ้อย และก็ต้องไปสอบคนนอกที่เขาโอนให้ว่ามันเป็นค่าอะไรกันแน่

พนักงานราชการที่ทำหน้าที่พัสดุ ชี้แจงว่า

ดิฉันไม่เคยขอบัญชี ผู้อำนวยการ (ผอ.) ไม่ว่าจะเป็นผอ.คนใดก็ไม่เคยขอบัญชีของ ผอ.

ดิฉันเคยแต่แจ้ง ผอ.ว่า ทางบริษัทขอคุยเรื่องเปอร์เซ็นต์ ดิฉันก็ประสาน ผอ.ให้กับทางบริษัท และให้ ผอ.คุยเรื่องเปอร์เซ็นต์กับบริษัทและร้านค้าต่างๆเอง

picbookmoney963009633 12 63

picbookmoney96963963003 12 63

ส่วนการโอนเงินนั้น ผอ.ส่งข้อความไปทวงถามจากบริษัทด้วยตนเอง ดังหลักฐานทางไลน์ที่ปรากฏในข่าว

ประเด็นที่ 2 กรณีนายนำชัย กฤษณาสกุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันวิทยาลัยชุมชน ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ได้รับทราบมาก็คือว่าพนักงานพัสดุคนนี้เขาก็อาจจะไม่พอใจที่ตัว ผอ.ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้วส่งผลทำให้ไม่สามารถต่ออายุการเป็นพนักงานพัสดุต่อไปได้

ดิฉันไม่พอใจที่ ผอ.ตั้งกรรมการสอบดิฉันนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะดิฉันยังไม่เคยถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใดๆทั้งสิ้น ตั้งแต่ดิฉันปฏิบัติงานราชการมาเป็นเวลา 18 ปีเศษ ดิฉันไม่เคยถูกตั้งกรรมการสอบสวนใดๆ รวมทั้งกรณีดิฉันถูกแจ้งไม่ต่อสัญญาในรอบที่ 5 นี้ก็ไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแต่อย่างใด และ ผอ.สั่งให้หยุดการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา ซึ่งการสั่งให้หยุดงานครั้งนี้ ผอ.ได้แจ้งให้ทราบวันที่ 28 กันยายน 2563 (ตามหลักฐาน การแจ้งไม่ต่อสัญญาลงวันที่ 28 กันยายน 2563 )

picbookmoney096303 12 63

ขอเรียนว่า วิทยาลัยชุมชนแห่งนี้ มีพนักงานราชการทั้งหมดจำนวน 21 คน ถูกต่อสัญญาทุกคน ยกเว้นดิฉันเพียงคนเดียวที่ ผอ. ไม่ต่อสัญญาให้ ต่อมาวันที่ 29 กันยายน 2563 ดิฉันได้เดินทางไปยืนหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ ผอ.สถาบันวิทยาลัยชุมชน สถาบันวิทยาลัยชุมชนด้วยตนเอง ทางสถาบันก็ไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแต่อย่างใด ต่อมาในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ผอ.สถาบันได้ส่งหนังสือแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบว่า การที่ ผอ.วิทยาลัยชุมชน ไม่ต่อสัญญาจ้างให้ดิฉันนั้น เป็นการใช้อำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เนื่องจากสัญญาจ้างได้สิ้นสุดลง (ตามหลักฐาน หนังสือสถาบันตอบข้าพเจ้า 13 พฤศจิกายน 2563 )

picbookmoney96396ccc3003 12 63

ปัจจุบันดิฉันได้ทำหนังสือขอทบทวนผลการพิจารณาอุทธรณ์ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม โดยร้องขอให้ ผอ.สถาบันวิทยาลัยชุมชน นายกสภาสถาบันวิทยาลัยชุมชน และปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขอความอนุเคราะห์ทบทวนและพิจารณาถึงหลักคุณธรรมและประโยชน์ต่อทางราชการ มาประกอบการต่อสัญญาจ้างให้แก่ดิฉัน ไม่พิจารณาการต่อสัญญาจ้างเพียง การใช้อำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่เพียงอย่างเดียว โดยให้คำนึงถึงการใช้อำนาจอย่างมีคุณธรรม อีกทั้งสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเนื่องจากสถานการณ์โรคโควิค19 (Covid 19) ทำให้การหางาน ในช่วงเวลานี้หาได้ยาก เนื่องจากกิจการต่าง ๆ ได้รับผลกระทบ และประกาศปิดกิจการทำให้เกิดความเดือดร้อนเป็นอย่างมากต่อการดำรงชีพ (ตามหลักฐาน หนังสือ 1 ธันวาคม 2563)

picbookmone9635y963003 12 63