‘ปิดเทอมใหญ่’ช่วงโควิด! สจ๊วตหนุ่ม-แอร์โฮสเตสสาว ‘คู่รัก’ ขายไอติม ตลาดน้ำ

“...จริงๆพอเกิด COVID 19 ที่เห็นชัดมากๆคือ ความไม่เเน่นอนในชีวิต ไม่เคยคิดว่าอาชีพหลักที่ตัวเองทำมานานเกือบ 20 ปี จู่ๆจะมีเหตุให้ต้องหยุดพักเเบบกระทันหันเเบบนี้ เเต่ก็เข้าใจว่ามันกระทบไปทั่วโลก เเต่โชคยังดีว่าเราทั้งคู่ไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย ไม่ได้ติดทานของหรู ซื้อของราคาเเพงกันอยู่เเล้ว ก็เลยไม่ได้มีปัญหากับเรื่องอะไรเเบบนั้น...”

............................................................... 

ผลพวงจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส หรือ โควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงขณะนี้สั่นคลอนทุกชีวิต  ธุรกิจ‘เล็ก-ใหญ่’ สั่นสะเทือนถ้วนหน้า

สายการบินทั่วโลกถูกชัตดาวน์ พนักงานถูกปลด ถูกเลิกจ้างทันทีนับแสนคน

การบินไทย สายการบินแห่งชาติ ไม่ได้รับการยกเว้น จากรัฐวิสาหกิจชั้นนำแปรสภาพเป็นบริษัทเอกชนด้วยหนี้ก้อนมโหฬารและกำลังเดินเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ พนักงาน 20,000 ชีวิต ลูกเรือ 6,000 คน ยังไม่รู้อนาคตว่าจะได้กลับเข้าทำงานเมื่อไหร่

ในช่วงเฝ้ารอ! ชีวิตต้องก้าวเดิน ‘เซี้ยง’ สจ๊วตหนุ่ม กับ ‘หน่อย’ แอร์โฮสเตสสาว 2 ลูกเรือ ‘คู่รัก’  ไม่จำนนต่อการว่างงาน (ชั่วคราว) ทั้งคู่ใช้เวลาที่เรียกว่า ‘ปิดเทอมใหญ่’ สลัดลุค ขายไอศรีม (ไอติม) ใกล้หมู่บ้านในซอยร่วมพัฒนา ถนนขุมทอง-ลำต้อยติ่ง เขตลาดกระบัง ช่วงวันจันทร์-พุธ และ แพตลาดน้ำวัดใหม่สุปดิษฐาราม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ 

ช่วงสายวันที่ 1 ส.ค.2563 เจอทั้งสองคนที่นั่น ตลาดน้ำวัดใหม่สุปดิษฐาราม อ.นครชัยศรี  หลังติดตามผ่านสื่อโซเชียลสักระยะ  

นี่คือคำบอกเล่าของคนทั้งคู่ 

หน่อย: ส่วนตัวเป็นคนชอบทานไอติมอยู่แล้ว ทานแล้วชื่นใจ จำได้ว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย จะปั่นจักรยานไปทานไอติมร้านประจำบ่อยมาก ไล่ๆกินไปทุกเมนู แล้วก็นั่งวาดฝันกันแบบเด็กๆว่าอยากเปิดร้านไอติม แต่พอเรียนจบทำงานมาเป็นลูกเรือ ความฝันนี้ก็หายไป

จนมาช่วงโควิด หยุดบิน เดือนแรกก็ชวนกันเล่นๆกับสามี ว่าเอามะม่วงที่บ้านที่กินไม่ทันแจกจนทั่วหมดแล้ว งั้นเอามาขายดีกว่า ขายมะม่วงหมด ก็ว่างงาน ก็ชวนกันปลูกผักกินเอง ปลูกกันแบบจริงจัง ทำปุ๋ยหมักใช้เอง แต่พอทำจริงๆ ก็ทำแค่ช่วงเช้า กับช่วงเย็น แต่ตอนกลางวันก็นอนเล่นกันซะมากกว่า! หน่อยเลยอยากหาอะไรทำสนุกๆ มีรายได้นิดหน่อย แค่ดีกว่านอนอยู่บ้านเฉยๆ เลยชวนสามีมาขายไอติม แต่ตัวเนื้อไอติมเราไม่ได้ทำเองนะคะ ไปทานเจ้าอร่อยที่นครชัยศรีมาแล้วติดใจ เป็นไอติมกะทิสด มะพร้าวน้ำหอม เลยไปติดต่อขอเอามาขาย เค้าใจดีมาก คิดราคาให้พิเศษช่วงโควิด ต้องขอบคุณเค้าจริงๆ

“ แต่ก่อนขายก็มานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรให้ไอติมเราแตกต่าง เลยตัดสินใจทำบัวลอย เป็นท็อปปิ้ง บัวลอยก็หัดทำกับย่ามาตั้งแต่เด็กๆ ทำได้แบบสบายๆ แต่ก็มาคิดว่าต้องมากกว่าบัวลอยธรรมดา เลยเอามาอบด้วยเทียนหอม จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของร้านเรา ‘พักร้อน’ ไอติมมะพร้าวน้ำหอม+บัวลอย หอมๆหวานๆกำลังดีค่ะ”

เซี้ยง: ผมกับหน่อยชอบเข้าร้านไอติมครับ การได้ทานไอติมคือการเติมความสุขอย่างหนึ่ง ทานเเล้วอารมณ์ดี ก็ได้เเต่คุยกันเล่นๆเวลาไปนั่งตามร้านไอติมว่า อยากเปิดร้านเเบบนี้บ้าง กลายเป็นว่าวันหนึ่งต้องมาขายไอติมจริงๆ ตอนมาขายก็ไม่ทันได้คิดถึงต้นทุนกำไรเลยครับ คิดเเค่ว่าขายอันนี้เเหละ ลองดู ถึงได้รู้ว่า การค้าขายไม่ง่ายเลย มีเรื่องให้ต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย

@เพราะเป็นความสุข - ความชอบส่วนตัว ? ขณะที่บางคนคิดว่าทำไมไม่ทำอะไรที่มีผลตอบแทนที่สูงกว่า เพราะมีประสบการณ์จากการทำงานการเดินทางรู้เห็นสิ่งต่างๆเกือบทั่วโลก

หน่อย: เอาจริงนะคะ ตอนแรกไม่รู้จริงๆว่ารายได้จากขายไอติมได้ไม่เยอะ คิดทำเพราะสนุก อยากทำอะไรฆ่าเวลา แต่ทำแล้วต้องมีความสุข ถ้าไม่สนุก ไม่มีความสุขจะไม่ทำ เลยไม่ได้คิดเรื่องรายได้ก่อน ซึ่งจริงๆคิดแบบนี้ไม่น่ามาเป็นแม่ค้า

เซี้ยง: ส่วนตัวของผมคือ ถ้าหน่อย(ภรรยา) ทำอะไร สนุกกับอะไร เราจะขอเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย ไปเป็นส่วนหนึ่ง คือถ้าเป็นเรือก็ช่วยกันพายครับ เค้ามีความสุขเราก็มีความสุขกับสิ่งที่เค้าทำด้วย....ส่วนเรื่องผลตอบเเทนไม่ได้คิดว่าต้องกำไรมาก เอาเเค่พออยู่ได้ เเล้วก็อยากให้คนได้ทานของอร่อยที่ราคาจับต้องได้ครับ สิ่งที่ประสบการณ์งานเดิมที่เคยทำอยู่ ยังเอามาใช้คือต้อง ยิ้มเเย้ม เป็นมิตร สุภาพกับลูกค้าทุกคนครับ service mind ขาดไม่ได้

@ มันเป็นงานบริการที่ คล้ายๆกับอาชีพที่ทำอยู่ ? รักในการบริการ มันเป็นตัวตนของเรา?

เซี้ยง: น่าจะเรียกว่า เป็นธรรมชาติของเราทั้งคู่ครับ

หน่อย: มีคนรู้จักเราเดินมาบอกว่า มีลูกค้าที่ซื้อไอติมจากเราไปพูดว่า “ร้านไอติมพูดเพราะมากกกก” นี่ก็คงเป็นเพราะติดมาจากการทำงานเป็นลูกเรือสายการบินมานานนะคะ

@ ที่มาของชื่อร้าน – รสชาติของไอติม ที่นี่ มันพิเศษหรือแตกต่างจาก ที่อื่นอย่างไร? ตอนนี้ขายที่ไหนบ้าง

หน่อย : ที่มาของชื่อร้าน ก็มาจากช่วงนี้ไม่ได้ทำงาน ไม่มีบิน บางคนเรียกว่าปิดเทอมใหญ่ แต่หน่อยเรียก ‘พักร้อน’ เพราะ สินค้าหลักของเราที่ขายคือไอติม ทานแล้วเย็น ชื่นใจ คลายร้อน เวลาทานแล้วจะยิ้มๆ มีความสุข

แถมมีความหมายแฝง คือเวลาคนนึกถึงช่วงเวลาพักร้อน ก็จะนึกว่าเป็นช่วงเวลาดีๆ จะได้ไปเที่ยวไปพักผ่อนกับคนรัก กับครอบครัว อยากให้เป็นความหมายดีๆ ที่มีแต่ความสุข

ตอนนี้ขายอยู่ 2 ที่คือ ที่แพตลาดน้ำวัดใหม่สุปดิษฐาราม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ กับวันหยุดนักขัตฤกษ์ แล้วกลับมาขายที่กรุงเทพฯ ในซอยร่วมพัฒนา ถนนขุมทอง-ลำต้อยติ่ง เขตลาดกระบัง วันจันทร์-พุธ เป็นทำเลใกล้บ้านค่ะ

@นอกจากไอติม ทำไมไม่ขายอย่างอื่นเสริมด้วย?

หน่อย: เพราะเชื่อว่าคนที่มาซื้อไอติมเพราะอยากมากินไอติม ไม่อยากกินอย่างอื่น

@หลังจากขายได้สักระยะ นอกจากรายได้ เราได้อะไร ความสุข ? ได้เรียนรู้อะไร ?

เซี้ยง: คือเคยเป็นเเค่ลูกค้าเป็นคนซื้อไอติม รู้เเค่ว่าตอนเราทานไอติมเรายิ้ม เราสดชื่น เรามีความสุขจากการได้ทาน พอเปลี่ยนมาทำหน้าที่เป็นพ่อค้า-เป็นคนขายไอติมบ้าง ได้เห็นคนกินไอติมเเล้วยิ้มอยู่ตรงหน้า ผมว่ามันมีความสุขนะ...ยิ่งได้ยินคำพูดของลูกค้าพูดว่า...หอมจัง...อร่อยจัง มันทำให้เรายิ้มไปด้วย คือเป็นกำลังใจให้คนขายครับ

@ หากการบินไทยกลับมาบินได้ปกติ จะทำธุรกิจแบบนี้อยู่ไหม แพลนอย่างไร?

หน่อย: ทำค่ะ คุยกันไว้แล้วว่าจะไม่ทิ้ง อยากขายไปเรื่อยๆ แต่..อาจปรับเปลี่ยนการขายบ้าง อาจจะมีขายส่ง อันนี้ก็คิดๆกันไว้ค่ะ

@การใช้ชีวิต ณ ตอนนี้ เปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนหรือไม่ มองโลกเปลี่ยนไปไหม ?

เซี้ยง: การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปไหม? เปลี่ยนพอสมควรครับ จริงๆพอเกิด COVID 19 ที่เห็นชัดมากๆคือ ความไม่เเน่นอนในชีวิต ไม่เคยคิดว่าอาชีพหลักที่ตัวเองทำมานานเกือบ 20 ปี จู่ๆจะมีเหตุให้ต้องหยุดพักเเบบกระทันหันเเบบนี้ เเต่ก็เข้าใจว่ามันกระทบไปทั่วโลก เเต่โชคยังดีว่าเราทั้งคู่ไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย ไม่ได้ติดทานของหรู ซื้อของราคาเเพงกันอยู่เเล้ว ก็เลยไม่ได้มีปัญหากับเรื่องอะไรเเบบนั้น....เเต่ยังไงตอนนี้ก็ต้องระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้นครับ

สถานการณ์เเบบนี้ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน เพราะมันทำให้เราได้มีโอกาสลองทำในสิ่งที่เคยฝันกันไว้ คือถ้าไม่มีวิกฤติเเบบนี้ ร้านไอติม ‘พักร้อน’ อาจจะไม่มีโอกาสได้เกิดขึ้นมาเลยอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังพยายามจะผ่านพ้นวิกฤตินี้นะครับ .... ท้อได้ เเต่ อย่ายอมเเพ้ กำลังใจจากคนรอบๆตัวสำคัญมากๆ เเต่ที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจของตัวเราเอง เเล้ววันหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้เราทุกข์ก็จะผ่านไปครับ

หน่อย: ขอส่งกำลังใจให้กับเพื่อนร่วมงาน และทุกคนที่ได้รับผลกระทบในช่วงนี้ บางเรื่องถ้าเราไม่สามารถควบคุมได้ด้วยตัวเราเอง ก็ต้องทำใจยอมรับ อย่ามัวแต่กังวล หรือหมดกำลังใจ ให้กำลังใจตัวเองเยอะๆ และส่งต่อกำลังใจให้คนรอบข้าง อยากให้มีความสุขกันในทุกวันค่ะ

ข้อมูลของ ‘เซี้ยง’กับ ‘หน่อย’

เซี้ยง-ชัยวิทย์ ชัยสิงหาญ พนักงานตอนรับบนเครื่อง อายุงานที่การบินไทย 19 ปี

หน่อย- ปานรดา ชัยสิงหาญ พนักงานตอนรับบนเครื่อง อายุงานที่การบินไทย 23 ปี

,,,,,,