"...ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดเช่นนี้ คนในประเทศทุกคนก็มีความยากลำบากไม่น้อย ทั้งเรื่องการเงิน การงาน อาหารการกิน ที่อยู่อาศัย แต่เราก็จำเป็นต้องจัดหาสถานที่ที่ดีและรัดกุมเพียงพอในการให้พี่น้องชาวไทยจากต่างประเทศมาพำนักเพื่อกักตัว โดยใช้ทรัพยากรรัฐมาจัดการ ในขณะเดียวกัน พี่น้องไทยที่กำลังเดินทางกลับจากต่างประเทศรวมถึงครอบครัวที่อยู่ในประเทศไทย ก็คงต้องร่วมด้วยช่วยกัน ทำความเข้าใจถึงความจำเป็นต้องกักตัว และให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้แน่ใจว่า ตอนเรากลับมาแล้วจะไม่นำเชื้อไวรัสมาแพร่แก่คนที่เรารัก และพี่น้องชาวไทยในประเทศ..."
ตัวเลขล่าสุดที่เราเห็นผ่านทางสื่อสังคมเมื่อคืนนี้ว่า มีผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 จำนวน 42 คนจากกลุ่มผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ
รัฐบาลคงต้องยอมรับความจริงว่า เป็นสิทธิของพลเมืองไทย ที่จะกลับมายังประเทศบ้านเกิด ด้วยเหตุผลคือ ถิ่นฐานที่พวกเค้าอาศัยอยู่ในตอนนี้นั้นอาจมีปัญหาโรคระบาดรุนแรงมากกว่าไทย หรืออาจมีปัญหาในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลมาตรฐาน รวมถึงปัญหาค่าใช้จ่ายในต่างแดน และที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาเหล่านั้นเป็นพลเมืองไทยของเรา
กลุ่มนี้มีทั้งผู้ที่ไปทำงาน ไปเรียน ไปทำกิจกรรมฝึกอบรมดูงาน ไปกิจกรรมทางศาสนา รวมถึงไปท่องเที่ยว
แต่โจทย์หลักที่รัฐต้องตอบคือ จะให้กลับมาอย่างไรโดยดำรงความเป็นธรรมทั้งต่อคนที่กลับมาจากต่างประเทศ และคนที่อยู่ในประเทศ?
หากกลับมา จะรับมือด้วยวิธีใดที่จะไม่ให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคในประเทศมากขึ้น?
หนึ่ง แผนการขนส่งคนจากต่างประเทศกลับมาในประเทศไทยท่ามกลางสถานการณ์สายการบินพาณิชย์ที่หยุดการบิน
สอง แผนการรับคนที่สนามบินไปยังที่กักตัวที่รัฐจัดหาไว้ให้โดยตรง ซึ่งมีขั้นตอนชัดเจน ไม่ยืดเยื้อยาวนาน และควรเป็นแบบ one-stop process ไม่ต้องอาศัยการตีความหรือถามไถ่กันระหว่างหน่วยงานให้สับสนวุ่นวาย
สาม แผนการสื่อสารสาธารณะ ทั้งต่อสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา และต่อคนอื่นๆ ในสังคม เพื่อบรรเทาความกลัว ความกังวลเป็นห่วง และป้องกันความเข้าใจผิด
สี่ แผนการติดตามกำกับดูแลระเบียบวินัยของผู้ที่อยู่ในสถานที่กักกันตัวเพื่อเฝ้าระวังโรค ตรวจรักษาอย่างทันท่วงที มิให้เกิดปัญหาหนีหายไป หรือปฏิบัติตนระหว่างกักกันอย่างไม่ถูกไม่ควร
ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดเช่นนี้ คนในประเทศทุกคนก็มีความยากลำบากไม่น้อย ทั้งเรื่องการเงิน การงาน อาหารการกิน ที่อยู่อาศัย
แต่เราก็จำเป็นต้องจัดหาสถานที่ที่ดีและรัดกุมเพียงพอในการให้พี่น้องชาวไทยจากต่างประเทศมาพำนักเพื่อกักตัว โดยใช้ทรัพยากรรัฐมาจัดการ
ในขณะเดียวกัน พี่น้องไทยที่กำลังเดินทางกลับจากต่างประเทศรวมถึงครอบครัวที่อยู่ในประเทศไทย ก็คงต้องร่วมด้วยช่วยกัน ทำความเข้าใจถึงความจำเป็นต้องกักตัว และให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้แน่ใจว่า ตอนเรากลับมาแล้วจะไม่นำเชื้อไวรัสมาแพร่แก่คนที่เรารัก และพี่น้องชาวไทยในประเทศ
แม้จะไม่มีอาการผิดปกติ แต่ก็มีโอกาสติดเชื้ออยู่ได้โดยอยู่ในช่วงที่ไม่มีอาการ ดังนั้นการกักตัวจึงเป็นการแสดงความรัก ความเอาใจใส่ ทั้งต่อตัวเอง ต่อครอบครัว และต่อทุกคนในสังคม
เราลำบากกันทุกคน แต่เชื่อว่าทุกคนเต็มใจที่จะแบ่งปัน อดทน และร่วมสู้สงครามโรคระบาดนี้ไปด้วยกัน
แล้วเราจะผ่านมันไปได้ในไม่ช้านี้ครับ...
#อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ
#StayHome #อยู่บ้านด้วยกันนะครับ
#โรคติดต่อจะไม่ติดต่อถ้าเราไม่ติดต่อกัน
#ไทยต้องทำได้
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และรศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก thumbsup