"...จะให้ดีอยากชวนให้เราหยุดสื่อสารหรือ ละเว้นการเล่นสื่อสังคม เฉพาะที่เขย่าขวัญกันเอง ที่วิพากษ์วิจารณ์คนที่กำลังทำงาน ละเว้นการวิพากษ์วิจารณ์มาตรการต่างๆ แต่แน่นอนหากมีความคิดอะไรดีๆ ให้เสนอได้ และควรจะหาอะไรที่ทำเองได้ หรือร่วมกันทำเองได้ ละเว้นการชี้นิ้วกล่าวผิดคนอื่น หันมาเข้มงวดตัวเอง กันเถิด มีวินัยให้มากขึ้น ใช้ธรรมะกับตัวเองกับสังคม แล้วเราจะฝ่าข้ามไป ด้วยกัน ! ธรรมะนั้น ไม่ได้มีไว้คุยไว้สนทนาไว้สอนในยามปกติเท่านั้น หากต้องเอามาใช้ในยามวิกฤต นี่เอง! ..."
ประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตโควิด-19 แล้ว !
ในภาวะเช่นนี้ ปัญหาเศรษฐกิจจำต้องหล่นลงมาเป็นรองแล้ว การว่างงาน ปิดร้านรวง ปิดโรงงาน ปิดธุรกิจ อัตราการเติบโตที่อาจเป็นศูนย์หรือติดลบ ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวลเฉพาะหน้านี้ จะต้องลดความสำคัญลง เหลืออยู่วาระเดียว: จะให้ทั้งชาติอยู่รอดอย่างไร ?
รัฐบาลต้องคิดว่าจะช่วยคนตกงานให้มีกินอย่างไร ลูกหลานได้เรียนต่อไปอย่างไร พ่อแม่ปู่ย่า ซึ่งอยู่ในวัยเสี่ยงชีวิต ได้ปลอดจากเชื้อโควิด-19 มากที่สุดอย่างไร สังคม โดยเฉพาะผู้มีอันจะกินและธุรกิจใหญ่ จะต้องช่วยคิด ร่วมทำ ร่วมเสียสละ ช่วยให้คนที่ลำบาก ตกงาน เป็นหนี้ พออยู่ไปได้ ระหว่างที่ไวรัสระบาดในอีกสามสี่เดือนข้างหน้านี้
ไทย ทุกคน ทุกระดับ พึงสามัคคี ช่วยกัน เพราะไวรัสเล่นงานเราได้หมดไม่ว่าจะคิดอะไร คิดอย่างไร ยืนอยู่ ณที่ไหน วิกฤตครั้งนี้จะเป็นวิกฤตองค์รวม ที่ครบถ้วน และ ครอบคลุมทุกองคาพยพของสังคม
ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะเชิญฝ่ายค้านเข้ามาร่วมคิดร่วมทำ และฝ่ายค้านพึงตอบรับเข้ามาร่วม เพื่อให้บ้านเมืองฝ่าวิกฤตที่ร้ายแรงที่สุดในครั้งนี้ไปให้ได้ !
วิกฤตนี้ หากตั้งรับให้ดี คนตายจะไม่มาก คนที่จะตายมาก คือคนแก่หรือคนเป็นโรคอื่นหนักอยู่แล้ว แต่คนส่วนอื่นจะไม่ถึงตาย ส่วนไม่น้อยจะติดเชื้อ ไม่รู้ตัว แต่ไม่มีอาการ ข้อที่ต้องเป็นห่วงคือคนเหล่านี้ถึงอย่างไรก็แพร่เชื้อต่อไปได้ จำต้องลดโอกาสให้เขาได้แพร่เชื้อน้อยที่สุด
ข้อที่เบาใจสักหน่อยคือ ในเวลาไม่นานนัก เราก็จะเกิดภูมิต้านทานโควิด-19 ขึ้นมาในหมู่คนที่มากพอ ที่จะหยุดเชื้อนี้ได้ หรือ ดีกว่านั้น คืออาจพบยาหรือวัคซีนที่ออกมาเร็ว ไม่ต้องรอภูมิต้านทานมาช่วย
จุดอันตรายคืออย่ารวมกลุ่ม อย่ากินข้าวร่วมกัน อย่าเฮฮาดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ อย่าประชุม พยายามอยู่บ้านใครบ้านมัน งดสังสรรค์ สันทนาการ และอย่าเข้าใกล้ผู้สูงวัยที่อายุ 60-70 ขึ้นไป คนเหล่านั้นเสี่ยงภัยถึงชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุด
จะให้ดีอยากชวนให้เราหยุดสื่อสารหรือ ละเว้นการเล่นสื่อสังคม เฉพาะที่เขย่าขวัญกันเอง ที่วิพากษ์วิจารณ์คนที่กำลังทำงาน ละเว้นการวิพากษ์วิจารณ์มาตรการต่างๆ แต่แน่นอนหากมีความคิดอะไรดีๆ ให้เสนอได้ และควรจะหาอะไรที่ทำเองได้ หรือร่วมกันทำเองได้ ละเว้นการชี้นิ้วกล่าวผิดคนอื่น หันมาเข้มงวดตัวเอง กันเถิด มีวินัยให้มากขึ้น ใช้ธรรมะกับตัวเองกับสังคม แล้วเราจะฝ่าข้ามไป ด้วยกัน ! ธรรมะนั้น ไม่ได้มีไว้คุยไว้สนทนาไว้สอนในยามปกติเท่านั้น หากต้องเอามาใช้ในยามวิกฤต นี่เอง !
เอนก เหล่าธรรมทัศน์
ภาคีสมาชิก ราชบัณฑิตยสภา
ที่มา : https://www.facebook.com/914519875360345/posts/2121124188033235/?d=n