"...สารคัดหลั่งจากตัวคน น้ำมูกน้ำตาน้ำลาย กระจายติดมือ เผลอปนเปื้อนแปะไปยังที่ต่างๆ เช่น ลูกบิดประตู เสา ที่โหนรถไฟฟ้า แก้วน้ำ ช้อนกลาง บนโต๊ะเก้าอี้ ซึ่งมองไม่เห็น เราจึงต้องป้องกัน ถ้ายังไม่ล้างมือ ห้ามจับหน้า ห้ามขยี้ตา ห้ามแคะจมูก ไม่งั้นจะเสร็จทันที ถ้ามีเชื้อติดเข้าไป..."
Social distance คือ การเพิ่มระยะห่างในการเข้าสังคม เป็นมาตรการสำคัญ ในการลดการระบาด ของเชื้อโควิด 19 ที่ทั่วโลกใช้ ที่สำคัญคือ การจัดประชุมชุมนุมต่างๆ การจัดอีเว้นท์ สวดมนต์ ทำบุญ กิจกรรมสนุกสนาน ทำให้เกิด การระบาดของโรคนี้ได้อย่างรุนแรง ควรต้องพักไปก่อน การติดต่อจริงทำได้หลักเป็น 2 ทาง
.
1. สารคัดหลั่งจากตัวคน น้ำมูกน้ำตาน้ำลาย กระจายติดมือ เผลอปนเปื้อนแปะไปยังที่ต่างๆ เช่น ลูกบิดประตู เสา ที่โหนรถไฟฟ้า แก้วน้ำ ช้อนกลาง บนโต๊ะเก้าอี้ ซึ่งมองไม่เห็น เราจึงต้องป้องกัน
.
ถ้ายังไม่ล้างมือ ห้ามจับหน้า ห้ามขยี้ตา ห้ามแคะจมูก ไม่งั้นจะเสร็จทันที ถ้ามีเชื้อติดเข้าไป
.
**ถ้าเราอยู่ห่างกัน มากพอ ก็จะไม่ติดสารคัดหลั่ง
.
2. หน้ากากผ้าช่วยอะไร? ช่วยให้เราไม่สัมผัสกับเสมหะ จากไอ จาม คนไข้ (ที่อาจไม่มีอาการอื่น)ในระยะประชิด ลดการติดเชื้อได้ แต่ต้องใช้ให้ถูกต้อง และทิ้งให้ถูกที่ทางด้วย แม้ว่าการกั้นจะได้น้อยกว่าหน้ากากอนามัย แต่จัดได้ว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และยังไม่มีรายงานการติดจากหน้ากากผ้า
.
**นั่นคือถ้าเราอยู่ห่างกันมากพอ ไอจามก็จะไม่ถึง
.
แพทย์จะได้ขอคืนหน้ากากอนามัยให้หมอและคนป่วย เขาไปใช้ ในโรงพยาบาลในห้องผ่าตัด เพราะเชื้อโรคจะได้ไม่กระจายออกจากโรงพยาบาลครับ
.
ข้อสังเกตอีกอย่างคือ ไวรัสใจร้าย มีผลบวกในคนบางคนแต่ไม่มีอาการเจ็บป่วยไม่มีไข้ แต่แพร่เชื้อได้แล้ว เรารู้ว่าถ้า คนใด สัมผัสมา แพร่เชื้อได้ 14 วัน ก่อนมีไข้ จึงชวนกันกักตัวไว้ สำหรับผู้มีประวัติ สัมผัสมา เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ขอให้อยู่ในบ้านจริงๆ อย่าออกงาน อย่าไปติดคนในบ้าน เท่านี้ก็ปลอดภัยด้วยกันแล้วครับ
.
แค่ 2 ข้อนี้ไวรัสจอมโหด ก็เสร็จเราแล้วครับ
.
สุดท้ายอย่าเครียดมากเกินไป ไวรัสไม่ร้าย เท่าความเครียดที่ เกิดจาก ความกลัวโรคนี้ จนตกใจกักตุนทั้งหน้ากากและอาหาร เกิดความโกลาหลไปทางสังคม
.
เชื่อมั่นใน แพทย์ไทยได้ครับ เราทำได้ดีกว่าหลายชาติในโลกแน่นอน เพียงแต่ขอเครื่องมือเราให้พร้อมเท่านั้น และขอพี่น้องประชาชนช่วยมีวินัย ปฏิบัติตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เราจะต้องร่วมใจ ข้ามสงครามไวรัสครั้งนี้ และจะชนะร่วมกัน เมื่อสภาวะระบาดหมดไป
.
สู้ๆนะครับ ขอให้กำลังใจ หมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ แถวหน้าทุกท่าน นักรบในชุดขาว ภายใต้หน้ากากป้องกันเชื้อโรค..ทุกคน
พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา
16.03.2020