"...เนื่องจากรถตู้โดยสารที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับใช้โดยสารแต่ใช้สำหรับบรรทุกสิ่งของ ดังที่เราจะเห็นได้จากในประเทศที่พัฒนาแล้วนั้นจะไม่นำรถตู้มาใช้เป็นรถโดยสารสาธารณะกันทั้งสิ้น แต่ในประเทศไทยนั้นผู้นำเข้าและผู้ประกอบชิ้นส่วนรถตู้กลับนำเบาะนั่งติดตั้งเข้าไปเพื่อใช้เป็นรถโดยสาร เมื่อนำไปใช้งานแล้วจึงทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอยู่บ่อยครั้ง..."
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศยกเลิกมาตรการบังคับให้รถตู้โดยสารสาธารณะต้องเปลี่ยนจากรถตู้เป็นรถไมโครบัสภายในวันที่ 13 ส.ค. นี้และให้เลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด อีกทั้งยังยกเลิกข้อกำหนดอายุรถตู้ที่ห้ามเกิน 10 ปีเสียอีกด้วย
ฟังข่าวแล้วรู้สึกสมเพช
นักการเมืองเมื่อเข้าบริหารประเทศแล้วควรคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยคำว่า "ประชาชน" ในที่นี้ย่อมหมายถึงประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ใช่เพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อีกทั้งสวัสดิภาพและความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนย่อมเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมควรจะมีสำนึก
แต่จากการยกเลิกมาตรการดังกล่าวนี้ทำให้มีข้อสงสัยในการปฏิบัติราชการของรัฐมนตรีว่ามีสำนึกในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด
เนื่องจากรถตู้โดยสารที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับใช้โดยสารแต่ใช้สำหรับบรรทุกสิ่งของ ดังที่เราจะเห็นได้จากในประเทศที่พัฒนาแล้วนั้นจะไม่นำรถตู้มาใช้เป็นรถโดยสารสาธารณะกันทั้งสิ้น แต่ในประเทศไทยนั้นผู้นำเข้าและผู้ประกอบชิ้นส่วนรถตู้กลับนำเบาะนั่งติดตั้งเข้าไปเพื่อใช้เป็นรถโดยสาร เมื่อนำไปใช้งานแล้วจึงทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอยู่บ่อยครั้ง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นประชาชนได้พยายามผลักดันให้รัฐบาลมีมาตรการบังคับให้ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารต้องเปลี่ยนไปใช้รถไมโครบัสทั้งหมด ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้เริ่มถูกบังคับใช้และจะครอบคลุมทั้งประเทศในทุกเส้นทางภายในกำหนดระยะเวลาอีกแค่ 4 วัน
แต่กลับต้องมาเริ่มต้นใหม่ ซ้ำร้ายยังถอยหลังเข้าคลองด้วยรถตู้เก่า ๆ ที่ผ่านการการใช้งานมามากกว่าเดิมโดยคำสั่งรัฐมนตรีอีกด้วย
ประชาชนทั้งหลายจึงควรบันทึกและจดจำไว้ว่า ทั้งหมดนี้คือผลงานอัปยศของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือไม่?
ที่มา : Noppanan Arunvongse Na Ayudhaya
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก https://mgronline.com