“…เกิดเหตุการณ์นี้แล้ว หมอ (นพ.ชลน่าน) และเพื่อน ๆ คงรู้ว่าผมต้องยึดหลักการไว้ เราทุกคนจะได้ไม่ถูกตำหนิ และได้รับการยอมรับจากประชาชนว่าสภาไม่ใช่ที่เด็กเล่น เหลวไหล หรือเห็นแก่พวกพ้อง มากกว่ายึดกติกา ทำอย่างนั้นไม่ได้...”
ที่อาคารทีโอที แจ้งวัฒนะ ที่ประชุมรัฐสภาชั่วคราว การประชุมร่วมรัฐสภาอภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 26 ก.ค. 2562 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายถามถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ระบุว่า ขอให้วินิจฉัยกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ว่า ช่วงบ่ายที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขออภิปรายต่อ และท่านประธานรัฐสภา (นายชวน หลีกภัย) วินิจฉัยเด็ดขาดไปแล้วว่าเรื่องจบ อย่างไรก็ดีเป็นสิ่งที่มีข้อกังวลว่า คำวินิจฉัยนี้จะมีผลสืบเนื่องในโอกาสต่อไปหรือไม่ อยากให้ประธานรัฐสภาช่วยวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐาน เพราะสมาชิกหลายคนเห็นว่าการแสดงความเห็นเป็นเอกสิทธิ์ ไม่สามารถบังคับหรือครอบงำได้ โดยขอให้ท่านประธานรัฐสภาวินิจฉัย 2 ประเด็น ได้แก่
1.การวินิจฉัยที่ผ่านมา สิทธิสมาชิกที่เวลาเหลืออยู่ ได้ขาดหายไปแล้ว จะสามารถส่งประเด็นที่เตรียมไว้ ให้บุคคลอื่นอภิปรายแทนได้หรือไม่
2.การให้สมาชิกถูกลงโทษโดยการเชิญออกนอกห้องประชุม ถือว่าเป็นโทษที่รุนแรงที่สุด ก่อนที่จะถึงขั้นนั้น สมาชิกควรได้รับโอกาส หรือเกลี้ยกล่อม ตนเชื่อในทักษะความสามารถของประธานรัฐสภาแต่ละท่าน ทำให้สมาชิกได้ผ่อนคลาย สามารถแจ้งล่วงหน้า แล้วตกลงเป็นสัญญา หรือขอขมาก่อนได้หรือไม่ การเชิญออกนอกห้องประชุมเป็นเรื่องใหญ่ สมาชิกลำบากใจ โปรดวางแนวทางให้กลับมาทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาได้ต่อไป หรือสมาชิกรัฐสภาอภิปรายหรือแสดงความเห็นต่อได้หรือไม่
นายชวน หลีกภัย ระบุว่า ตนเห็นใจ และตัดสินใจฝืนความรู้สึกตัวเอง ตนกับท่าน (พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์) มีความผูกพันที่ดีต่อกันมา แต่ในความผูกพันนั้น หากทำให้หลักการของสภาเสียหาย ถือเป็นเรื่องเห็นแก่ตัว จึงตัดสินใจฝืนใจให้เรื่องนั้นจบลง ในตอนที่ท่าน อภิปราย มีข้อความที่ประธานรัฐสภา (นายพรเพชร วิชิตชลชัย ปฏิบัติหน้าที่แทน) ขอให้ถอน แต่ท่านไม่ถอน ประธานก็ใช้มาตรการตามข้อบังคับ และไม่มีข้อกำหนดว่าออกนานเท่าไหร่ ไม่มีข้อตกลงว่ากลับมาอภิปรายได้หรือไม่ ตามหลักปฏิบัติ เมื่อประธานให้ผู้อื่นอภิปรายต่อ เรื่องจบ
“ผมได้เรียนถามท่านประธานสภาที่ทำหน้าที่ขณะนั้นว่า เรื่องของท่านเสรีพิศุทธ์จบแล้วหรือไม่ จะเข้ามาอภิปรายได้ตอนไหน ท่านประธานขณะนั้นบอกว่า กรณีนี้ถือว่าจบแล้ว ท่านเสรีพิศุทธ์เข้ามาอภิปรายได้อีกต่อเมื่อเป็นญัตติเรื่องอื่น จึงขอเรียนหลักการอันนี้ไว้ว่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ผมได้อนุมัติให้ท่าน (พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์) ทำเอกสารตามที่เลขาธิการรัฐสภาเสนอให้แสดงได้ เปิดโอกาสให้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว หมอ (นพ.ชลน่าน) และเพื่อน ๆ คงรู้ว่าผมต้องยึดหลักการไว้ เราทุกคนจะได้ไม่ถูกตำหนิ และได้รับการยอมรับจากประชาชนว่าสภาไม่ใช่ที่เด็กเล่น เหลวไหล หรือเห็นแก่พวกพ้อง มากกว่ายึดกติกา ทำอย่างนั้นไม่ได้” นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวด้วยว่า เห็นใจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตราบใดที่ญัตติยังอยู่ จะพูดประเด็นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อเปลี่ยนประเด็นสามารถดำเนินการต่อไปได้ ขอให้รับทราบหลักการนี้ ขอได้โปรด เรียนด้วยความเคารพทุกคน ขอรักษาหลักการของสภาเอาไว้ เพื่อว่าเราได้สามารถทำให้สภาเป็นที่ยอมรับ คนได้รู้ว่าเราทำงานหลักการ ไม่เอาความผูกพันส่วนตัวมาเห็นใจ โปรดเข้าใจตรงนี้ ขออนุญาตดำเนินการต่อ
นพ.ชลน่าน อภิปรายอีกว่า สิ่งที่ตนฟัง และเพื่อนสมาชิกได้ฟัง หมายความว่าหากเป็นญัตตินั้นจะไม่สามารถอภิปรายได้อีก ความหมายคือในการอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลครั้งนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่มีสิทธิ์อภิปรายในประเด็นหลัง ๆ ได้เลย แม้มีสิทธิ์อยู่ ขออนุญาตด้วยความเคารพว่า น่าจะเป็นประเด็น ๆ ไป ในการหารือ ในการปรึกษาแต่ละครั้ง น่าจะเป็นอย่างนั้น น่าจะเป็นแต่ละประเด็น ไม่งั้นตีความกว้าง ด้วยความเคารพ
นายชวน ตอบว่า “หลักการคือ กรณีของการแถลงนโยบายถือว่าจบ เรียนด้วยความเคารพ นี่คือความรู้สึกจริง ๆ ไม่ต้องการตัดสิทธิ์ผู้ใด แต่ว่าต้องรักษาหลักการที่เราปฏิบัติไว้”
หลังจากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ อภิปรายถึงกรณีนี้ว่า ด้วยความเคารพประธานสภา เห็นว่าประเด็นที่ นพ.ชลน่าน พูดเมื่อสักครู่ เกี่ยวกับบรรทัดฐานและการปฏิบัติของสภา ไม่ใช่คราวนี้เท่านั้น น่าจะเป็นคราวต่อ ๆ ไป ด้วย ไม่ได้คิดว่าต้องโต้แย้งคำวินิจฉัยของประธาน แต่ต้องแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นในฐานะที่เป็นสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งเท่านั้น
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวอีกว่า เมื่อวาน (25 ก.ค. 2562) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ความร่วมมือกับประธานสภา (นายพรเพชร) เมื่อประธานให้ถอน แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ถอน ประธานจึงเชิญออกนอกห้อง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็ให้ความร่วมมือโดยการออกไปนอกห้องโดยดี แต่ประธานไม่ได้บอกว่าออกไปตลอด หรือออกจนกว่าญัตตินี้จะจบ หรือออกไปสัปดาห์นี้ เมื่อออกไปเมื่อวาน ก็เข้ามาได้ แต่การอภิปรายญัตติใด ๆ ไม่สามารถทำได้
“ด้วยความเคารพประธานประธาน คนหนึ่งอาจอภิปรายกี่ครั้งก็ได้ ถ้ายังอยู่ในประเด็นญัตตินั้น แล้วไม่ซ้ำซาก สมมติอภิปรายไปแล้ว เมื่อวานพูดเรื่องประชาธิปไตย วันนี้ขอยกมือพูดอีกประเด็นการศึกษา ก็มีสิทธิ์พูดถ้าประธานอนุญาต ไม่มีการบอกว่าครั้งเดียวจบ เห็นได้จากคณะรัฐมนตรีพูดกี่ครั้งก็ได้ ดังนั้นญัตติเดียวกันสมาชิกรัฐสภาพูดได้หลายครั้งถ้าประธานอนุญาต จึงอยากให้ประธานได้ลองวินิจฉัยว่า ควรเป็นอย่างนั้นหรือไม่ เพราะประธานบอกว่าให้ออก เขาก็ออก วันนี้เข้ามาใหม่ ถ้าจะพูดมีข้อบังคับข้อใดว่าพูดไม่ได้แล้ว เมื่อวานพูดแล้ว คณะรัฐมนตรีพูดได้หลายรอบ แต่สมาชิกรัฐสภาพูดไม่ได้” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
นายชวน กล่าวว่า กรณีแถลงนโยบาย ได้ตกลงแต่ละฝ่ายในการเสนอรายชื่อบุคคลเข้ามา มีการเสนอชื่อซ้ำหรือไม่ มีคนหนึ่งลงชื่อขออภิปราย 2 ครั้งหรือไม่ ไม่มี เพราะเรียงลำดับกันไป วาระผู้ใดจบ ถือว่าวาระผู้นั้นจบ นี่คือสิ่งที่อยากเรียนให้ทราบ ประเด็นนี้จบแล้ว ตนเคารพทุกคน แต่ขอเชิญชวนทุกคนให้รักษาหลักของสภาไว้ให้ดี ตอนนี้เวลามีอยู่อย่างจำกัด เพื่อให้เป็นตามที่คณะกรรมการประสานงานฝ่ายรัฐบาล (วิปรัฐบาล) มาพบตนเมื่อเย็นว่า ขอให้บัญชีรายชื่อที่มีผู้ขออภิปรายผ่านไปโดยเร็ว จึงขอดำเนินการต่อ
อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ลุกขึ้นขอใช้สิทธิถูกพาดพิง ระบุว่า ตนรักษากติกา หลังจากนั้นนายชวน ตอบว่า ประท้วงเรื่องใด ถ้าจะอภิปรายขอให้ท่านนั่งลง แต่ถ้าประท้วงต้องระบุตามข้อบังคับด้วยว่า ประท้วงเรื่องใด แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบไม่ได้ จึงเดินกลับไปนั่งที่ และการอภิปรายดำเนินการต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
'เสรีพิศุทธ์'อดอภิปรายต่อ-เตรียมใช้สิทธิ์ทาง กม.หลัง'ชวน'ลั่นจบแล้ว-ขออภัยหากไม่พอใจ
'บิ๊กตู่'วอล์คเอาท์-'พรเพชร'เชิญ'เสรีพิศุทธ์'ออกนอกห้อง ปมไม่ถอนคำพูดกล่าวหาโกงเลือกตั้ง
วินาทีถูกเชิญออกนอกห้องประชุม! เสรีพิศุทธ์:"เสียใจที่วันนี้ต้องเสียน้องชายไปคนหนึ่ง"
ไขข้อมูล 'เหรียญรามมาลา' ก่อน 'บิ๊กตู่' หัก 'เสรีพิศุทธ์' ตัดขาดรุ่นพี่รุ่นน้อง