"ศ.พิเศษ วิชา" เผยทิศทางดำเนินงานมูลนิธิฯ จัดตั้ง "หมู่บ้านช่อสะอาด" ทั่วประเทศครบถ้วน ยกเว้น กทม. หลังพบหมดสิ้นความเป็นชุมชนดั้งเดิม ถูกชุมชนเมืองเเทนที่ "นิติบุคคล" เข้ามาเกี่ยวข้อง ห้ามไม่ให้ใครยุ่ง เเม้กระทั่งพระสงฆ์-งิ้ว หวั่นทำไม่ทัน จิตวิญญาณถูกขายให้ซาตาน คิดถึงประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม
วันที่ 6 ก.ค. 2562 ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานกรรมการมูลนิธิต่อต้านการทุจริต เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรหมู่บ้านช่อสะอาด โล่หมู่บ้านช่อสะอาดดีเด่น และโล่รางวัลแก่หน่วยงาน องค์กร และบุคคลให้การสนับสนุนมูลนิธิต่อต้านการทุจริต เนื่องในโอกาสงานวันครบรอบ 4 ปี การจัดตั้งมูลนิธิต่อต้านการทุจริต จัดโดยมูลนิธิต่อต้านการทุจริต
ศ.พิเศษ วิชา ได้กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ในการมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการต่อต้านทุจริต บางช่วงบางตอน ระบุว่าสิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยดีขึ้น ต้องเริ่มต้นในระดับชุมชน หมู่บ้าน แม้จะเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่เรามองข้าม แต่มูลนิธิฯ เห็นว่าเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นหัวใจสำคัญของประเทศและสังคมไทย จะลืมเลือนไม่ได้เลยกับคำว่า “คำตอบอยู่ที่หมู่บ้าน” ฉะนั้นการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกชุมชนที่ไหลบ่ามาเหมือนกระแสน้ำ ในที่สุดรวมกันที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมูลนิธิฯ ถือเป็นส่วนหนึ่งของคำว่า “เจ้าพระยา” แต่แท้จริงแล้ว รากเหง้ามาจากแม่น้ำสายเล็ก ๆ ปิง วัง ยม น่าน ก่อให้เกิดสิ่งที่ดีงาม
ทั้งนี้ การจัดทำ “หมู่บ้านช่อสะอาด” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560-2562 ภายหลังมูลนิธิฯ กำเนิดขึ้นเพียง 1 ปี โดยคิดทำต้นแบบดีงามให้ครบใน 76 จังหวัด ได้แก่ ภาคกลาง 18 จังหวัด ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ภาคเหนือ 13 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และภาคใต้ 14 จังหวัด และยังได้อีก 4 ตำบลช่อสะอาด แตกแขนงมาจากหมู่บ้านช่อสะอาดอีกด้วย
ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เชื่อว่าไม่เคยมีใครหรือองค์กรใดในประวัติศาสตร์หลอมรวมพลังของไทยเข้าไว้ด้วยกันและจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ว่า “จะซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐาน” ไม่มีวันทนต่อการทุจริตต่อไปอีกแล้ว อาจไม่ครบถ้วนทุกหมู่บ้านที่ถือว่าเป็นแหล่งสร้างคนขึ้นมา ทั้งหมดมีเกือบ 8,000 หมู่บ้าน ถึงกระนั้นได้ทำในสิ่งที่ยากมากและลำบากยากเข็ญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เริ่มต้นทำความเข้าใจและติดต่อให้ผลงานเกิดขึ้นเพื่อความยั่งยืน
ทั้งนี้ สิ่งที่ทำในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปีที่มีความสำคัญ เพราะจะแสดงให้เห็นศักยภาพว่าครบหรือไม่ เป็นปีที่อาจเรียกว่า ยากลำบากเช่นกัน เพราะจะเป็นภาคใต้ส่วนใหญ่ เนื่องจากเก็บความยากลำบากไว้ในปีสุดท้ายว่าจะเผชิญหน้าได้หรือไม่ ซึ่งปีนี้ลงไปสู่ จ.นราธิวาสได้จริง ๆ และรอดปลอดภัยมาได้ ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ไม่มีข่าวถูกลอบโจมตี
คำว่า “ช่อสะอาด” จึงเหนือความคาดหมายที่ว่า มิได้หมายถึง ความสะอาดภายนอกเท่านั้น แต่สะอาดไปถึงจิตใจ จะทำอย่างไรให้สันติภาพเกิดขึ้นให้ได้ในประเทศไทย เพราะเราพูดภาษาเดียวกัน คนไทยด้วยกัน จิตวิญญาณของเราเป็นไทย ด้วยเหตุนี้ ทำให้ 24 หมู่บ้านในปี พ.ศ. 2562 จึงจัดการได้ครบถ้วนบริบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ยังระบุมีสิ่งที่เหลืออยู่และท้าทายอย่างมาก ศ.พิเศษ วิชา ระบุคือ กรุงเทพฯ เป็นแหล่งสุดท้ายที่ต้องเผชิญ โดยจะเห็นว่ากรุงเทพฯ หมดสิ้นความเป็นหมู่บ้านและชุมชนดั้งเดิมแล้ว แต่ได้ขยายตัวเป็นชุมชนเมือง เราจะเรียกวิญญาณชุมชนอันเป็นที่รักกลับคืนมาได้หรือไม่ นั่นคือคำถามและคำตอบว่า ทำไมจึงยังไม่เปิดชุมชนช่อสะอาดที่กรุงเทพฯ
“เมื่อคืนนี้ได้พูดคุยกับหัวหน้าศาลและผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการว่าจะทำอย่างไรดี หัวหน้าศาลจังหวัดมีนบุรีบอกว่าจะไปแสวงหาหมู่บ้านที่พอจะทำให้มีจิตวิญญาณได้ที่คลองสามวา หนองจอก หรือแหล่งรอบข้างนั้น ถึงแม้จะไม่มีหมู่บ้านนั้นแล้ว อาจเปลี่ยนเป็นชุมชน คณะกรรมการชุมชน ประธานชุมชน และคำว่า บ้าน วัด โรงเรียน แทบไม่เหลือแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งน่าตกใจมาก ทำลายจิตวิญญาณของเราจริง ๆ”
ประธานกรรมการมูลนิธิฯ กล่าวว่า หากอนาคตยังเปลี่ยนแบบนี้และเราทำหมู่บ้านช่อสะอาดไม่ทัน จิตวิญญาณของเราจะถูกขายให้ “ซาตาน” ทั้งหมด (ซาตาน=การทุจริตคอร์รัปชัน) ซึ่งมากับเมือง ไม่ใช่มากับชาวบ้าน “ชาวบ้านไม่เคยคิดทุจริตใด ๆ ทั้งสิ้น”
โดยระยะเวลาสามปีที่ดำเนินการกับหมู่บ้าน เขาเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า ชาวบ้านไม่มีทางทุจริตหรือไม่ตอบแทนคุณแผ่นดิน แต่เป็นความคิดของคนเมืองต่างหากที่เข้าไปครอบงำและทำให้สิ่งที่เป็นจิตวิญญาณของมนุษย์ต้องเสื่อมสลายไป
“ขายจิตวิญญาณให้ทุจริตคอร์รัปชัน คิดเอาเล็กเอาน้อย คิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตนยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนรวม”
คำว่า “ช่อสะอาด” จึงเป็นการพยายามทำให้ทัศนคติของชุมชนยังคงอยู่ คิดถึงว่าจะช่วยเหลือเกื้อกูล ผนึกกำลังได้อย่างไร ซึ่งได้คำตอบจากกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฮ่องกง ถือว่าเป็นหลักที่มีความสำคัญที่สุดว่า “ไม่มีทางเอาชัยชนะกับการต่อสู้กับการทุจริตได้ หากไม่ปรับทัศนคติให้แก่ชุมชน ฉะนั้นต้องรักษาชุมชนไว้ให้ได้ อย่าทำลายชุมชนเป็นอันขาด”
อีกทั้งยังบอกพวกเราอยู่ในเมือง จะเห็นว่า ถ้าเป็นเมืองแล้วจะเกิดสิ่งที่ซ้อนเข้ามากับชุมชน คือ คำว่า “นิติบุคคล”
นิติบุคคลหมู่บ้านสมัยใหม่หรือนิติบุคคลอาคารชุด ถือเป็นการทำลายความเป็นชุมชน เพราะมอบอำนาจสิทธิ์ขาดให้นิติบุคคล ห้ามไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว แม้แต่พระสงฆ์ หรือโรงงิ้วที่อยู่ด้านข้าง เคยเล่นงิ้วประจำทุกปี คณะกรรมการคอนโดบอกให้เลิก เจ้าหน้าที่ตำรวจและกทม.กลับปฏิบัติตาม
ศ.พิเศษ วิชา มองว่า นั่นเป็นคำสั่งทำลายชุมชนอย่างชัดเจน ทำลายวัฒนธรรม ทนไม่ได้กับเสียงดังแค่เพียง 1 วัน แต่ก่อสร้างทั้งวันที่ทำลายความสงบของชุมชน อย่างไรก็ตาม ยืนยันตนเองไม่ใช่คนล้าสมัย นำของเก่าเป็นสนิมขึ้นมาเพื่อทำให้ใหม่ แต่นั่นคือจิตวิญญาณของคนจริง ๆ
พร้อมตอกย้ำว่า เราไม่ได้อาศัยในแผ่นดินนี้คนเดียว แต่เราอาศัยโดยเป็นเครือข่ายเหมือนพี่น้อง รู้ด้วยกัน ทำด้วยกัน ปฏิบัติด้วยกัน ทำความดีด้วยกัน เห็นอกเห็นใจกัน จิตใจของคนไทยจะไม่มีการละเลยขนบธรรมเนียบวัฒนธรรมประเพณีเด็ดขาด เพราะหากลบเลือนในเรื่องดังกล่าวแล้ว วัฒนธรรมในการทุจริตจะเข้ามาครอบงำแทนที่โดยทันที
“วัฒนธรรมทุจริต คือ การเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม เพราะฉะนั้นสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สอนนักศึกษาแพทย์ โดยมีกระแสพระราชดำรัสตักเตือนไว้ตลอดเวลา ให้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่หนึ่ง ซึ่งสืบทอดมาถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งสอนให้ประชาชนทุกคนรักในแผ่นดินไทย และเสียสละเพื่อความสุขของคนไทยทุกคน”
“ช่อสะอาด” จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมจึงรวมกันเป็นช่อ เพราะความสะอาดเกิดขึ้นในคนเดียวไม่ได้ แต่ต้องสะอาดทั้งหมด มารวมกันเหมือนช่อดอกไม้สวยงาม เราอยู่ที่ไหนต้องรวมพลังกัน อย่าแตกความสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน หลอมรวมดวงใจด้วยชาติไทยสีธงชาติ และสร้างพื้นฐานของชุมชนให้ได้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จะไม่มีวันทำให้พื้นฐานแตกแยกทรุดลงไป แต่เมื่อไหร่นำความทุจริตเข้ามา เหมือนกับกำลังสร้างถนน ใช้เงินไม่คุ้มค่า ฝนตกมานิดเดียว พังทลาย เพราะเงินส่วนใหญ่เข้ากระเป๋าผู้มีอำนาจ ดังนั้น ทุกอย่างต้องทำเพื่อส่วนรวม เสาหลัก 4 เสา ต้องมั่นคง ได้แก่ กายสะอาด พฤติกรรมสะอาด จิตสะอาด และปัญญาสะอาด .
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/