"...ขืนตอบอย่างนี้ ก็เข้าล๊อคทันทีว่า นายกฯมีนิสัยยอมให้บุคคลในครอบครัว (พ่อ)เอาอะไรมาซุกในชื่อตนเองมาตลอด จนวันนี้จากที่เคยแค่ใช้ชื่อซุกหุ้น ก็กำเริบถึงขั้นเป็น นายกฯหุ่น ยอมให้ใช้ชื่อซุกตำแหน่ง นายกฯแล้ว เมื่ออำนาจกับความรับผิดชอบไม่อยู่ในที่เดียวกันอย่างนี้ รัฐบาลที่ทำงานได้ และรับผิดชอบต่อประชาชนได้จริงๆจึงมิได้เกิดขึ้นเลยจนทุกวันนี้..."
ถาม : ญัตติฝ่ายค้านที่ขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯอุ๊งอิ๊งด้วยเหตุผลว่า ถูกบุคคลในครอบครัว ( พ่อ )ครอบงำนั้น ญัตติอย่างนี้จะอภิปรายไปได้อย่างไรครับ
ตอบ : ก็ต้องถามให้ตอบ เพื่อแสดงว่าแท้จริงแล้วราชการงานเมืองทุกวันนี้เธอไม่ได้คิด ได้รู้อะไรเลย เช่นถามนายกฯว่า ความคิดจะซื้อหนี้ชาวนา หรือแจกเงินหมื่นเด็ก มศ.3 นี่ รัฐจะเอาเงินมาจากไหน แจกเงินจนเสียเด็กกันทั้งประเทศเลยอย่างนี้ ทำได้ยังไง ใครเป็นคนคิด วันนี้งบลงทุนเหลือเท่าใด เงินคงคลังยังมีอยู่ไหม ได้ข่าวจะหาเงินโดยขายพันธบัตรรัฐบาลไทยเป็นดอลลาร์หรือ รู้ไหมว่าบริษัทบางจาก กำลังจะถูกทุนต่างชาติเทคโอเวอร์ไปร่วมทุนสัมปทานในพื้นที่ทับซ้อน
ถาม : นายกฯโยนให้รัฐมนตรีคลังตอบแทน ก็สิ้นเรื่อง
ตอบ : ฝ่ายค้านเขากำลังทดสอบว่านายกฯถูกครอบงำจริงหรือไม่ ได้คิดได้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้างหรือเปล่า นายกฯจะให้ใครโผล่มาตอบข้อสอบแทนอย่างนี้ไม่ได้
ถาม : ผมว่า งานนี้ คงได้ประท้วงกัน เถียงกันยับเยิน แน่ๆ
ตอบ : พอเริ่มซา เราก็ถามต่อไปเลยว่า ใครเป็นคนคิดจะให้ท่านเป็นนายกฯรัฐมนตรี ท่านเห็นว่าตัวท่านเหมาะสมที่ตรงไหน ครั้นเป็นนายกฯแล้ว ท่านเคยสั่งรัฐมนตรีคนไหนให้ทำราชการอะไรอย่างเป็นรูปธรรมบ้าง จงตอบมาโดยละเอียด อย่างน้อยสี่เรื่อง
ถาม : น่าจะถามด้วยนะครับว่า ในการให้สัมภาษณ์แต่ละครั้ง ใครวางพล้อตและเตรียมโพยให้นายกฯ ทำไมทุกครั้งต้องมีพี่เลี้ยงทั้ง 7 ยืนพิทักษ์อยู่รอบข้างราวกับนายกฯเป็นสโนว์ไวท์ คนแคระพวกนี้ยืนอยู่ทำไม ช่วยอะไรได้ ทำไมไม่รีบกลับกระทรวงไปทำงาน
ตอบ : ถามได้ดี...คุณจับทางถูกแล้วนี่ครับว่า งานนี้มันเป็นเรื่องแฉให้ชาวบ้านเห็นความจริงเท่านั้น ไม่ยากอะไรเลย
ถาม : แล้วญัตติว่า นายกฯเป็นคนไม่ซื่อสัตย์นี่ จะยกเรื่องถือหุ้นอัลไพน์กอล์ฟ มาอ้างได้ไหมครับว่า นายกฯทนถือหุ้นบริษัทหากินกับที่ธรณีสงฆ์มากว่า 23 ปี ได้อย่างไร ศาลก็ตัดสินไว้ชัดเจนแล้วว่าบริษัทได้ที่ดินนี้มาโดยทุจริต
ตอบ : ข้อนี้ยากอยู่นะครับ เพราะตอนคุณพ่อซื้อบริษัทอัลไพน์นี้มาในปี 2541 นั้น ก็มีการปกปิดโดยใช้ชื่อคนขับรถกับแม่บ้าน ถือหุ้นทั้งหมดก่อน ( ดูคำรับคุณพ่อในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 20 /2544 หน้า 19 ) ครั้นตั้งพรรคไทยรักไทย และมีกฎหมาย ปปช.ใหม่ตรวจสอบทรัพย์สินและการถือหุ้นอย่างเข้มงวด คุณพ่อท่านจึงให้เปลี่ยนมาเป็นชื่อลูกกับภรรยา ทำเป็นว่าคนใช้ขายหุ้นคืนให้เจ้านาย เมื่อ 11 มกราคม 2544
ในวันนั้น ผมดูชื่อในบัญชีผู้ถือหุ้นใหม่แล้ว นายกฯยังเป็น ดญ.แพทองธาร อยู่เลย แล้วอย่างนี้คุณจะว่าท่านรู้เรื่องดี และไม่ซื่อสัตย์ได้อย่างไร ในเมื่อท่านเป็นเด็ก ที่ถูกใช้ชื่อเพื่อซุกหุ้นเท่านั้น
ถาม : อาจารย์ดูบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ปปช. ของนายกฯแล้วหรือยัง
ตอบ : ดูแล้วครับ ไม่มีหุ้นอัลไพน์อีกแล้ว อธิบายกันว่า ขายให้มารดาไปแล้ว
ถาม : เห็นว่า นายกฯมีทรัพย์สินเป็นหมื่นล้าน หนี้สินสี่พันกว่าล้าน รู้ไหมครับว่าท่านทำมาหากินอะไร
ตอบ : ทรัพย์สินหลักเป็นหุ้นของบริษัทในเครือชินวัตร 9 บริษัท ที่เปลี่ยนชื่อจากพ่อแม่มาเป็นพี่กับน้าอาของนายกฯก่อน จากนั้นในปี 2559 และ 2566 จึงทะยอยเปลี่ยนมาเป็นชื่อ นายกฯทั้งหมดเลย โดยทำเป็นการซื้อขายหุ้น มีหลักฐานการชำระค่าหุ้น เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่ นายกฯออกตั๋ว ให้พี่และแม่ กับน้า ถือไว้เป็นค่าหุ้นรวมสี่พันกว่าล้าน
โดยสรุปแล้ว ผมจึงตอบคุณได้ว่า ฐานะการเงินเป็นหมื่นล้านของนายกฯ ไม่ได้มาจากการทำมาหากินอะไร
ถาม : เห็นสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ตั๋วสัญญาใช้เงินเหล่านี้ ไม่มีกำหนดชำระ จะทวงเมื่อไหร่ หรือไม่ทวงเลยก็ได้ อย่างนี้เราจะเชื่อได้อย่างไรว่ามีการซื้อขายกันจริง หุ้นบริษัทเหล่านี้แท้จริงยังอาจเป็นของพ่อแม่ ที่ซุกไว้ในชื่อลูก แล้วเปลี่ยนชื่อคนรับซุกหุ้น จากพี่เป็นน้องเท่านั้นก็ได้นะครับ
ตอบ : คุณพ่อท่านอาจจะจัดการโอนให้ นายกฯจริงๆก็ได้ แต่ทำเป็นพี่ยกให้น้องไม่ได้ เพราะการได้สินทรัพย์มาจากการยกให้ เกิน 10-20 ล้านนั้น คนที่ได้ต้องเสียภาษีทันที เขาก็เลยจำเป็นต้องทำเป็นซื้อขายหุ้นกัน เพื่อหนีภาษีตัวนี้
ถาม : ไม่ว่าจะเป็นรับซุกหุ้นให้พ่อ หรือพ่อยกให้จริง มันก็มีปัญหาเรื่องความซื่อสัตย์ให้ต้องถามในสภาได้อยู่ดีว่า ในการเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อปี 2559 และ 2566 นั้น มีการซื้อขายหุ้นกันจริง ดังที่อ้างหรือไม่ ใช่มั้ยครับ
ตอบ : เป็นเช่นนั้น นี่เป็นการถามตรงตามญัตติเลยว่า คนคนนี้ ซื่อสัตย์จริง มีคุณสมบัติสมเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
ถาม : นายกฯจะตอบว่า ไม่รู้เรื่องอะไร การทั้งหมดนี้ เลขามารดาเป็นคนจัดการตามที่พ่อแม่สั่งลงมาทั้งนั้น นายกฯตอบแบบนี้ได้ไหมครับ
ตอบ : ขืนตอบอย่างนี้ ก็เข้าล๊อคทันทีว่า นายกฯมีนิสัยยอมให้บุคคลในครอบครัว (พ่อ)เอาอะไรมาซุกในชื่อตนเองมาตลอด จนวันนี้จากที่เคยแค่ใช้ชื่อซุกหุ้น ก็กำเริบถึงขั้นเป็น นายกฯหุ่น ยอมให้ใช้ชื่อซุกตำแหน่ง นายกฯแล้ว
เมื่ออำนาจกับความรับผิดชอบไม่อยู่ในที่เดียวกันอย่างนี้ รัฐบาลที่ทำงานได้ และรับผิดชอบต่อประชาชนได้จริงๆจึงมิได้เกิดขึ้นเลยจนทุกวันนี้...นี่คือเข็มมุ่งแท้จริงของญัตติไม่ไว้วางใจนี้
"ท่านประธาน ที่เคารพ..ผมขอปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจได้แล้วครับผม"
ถาม : อย่าพึ่งจบครับ ผมยังติดใจเรื่องไม่มีวุฒิภาวะ แต่งตัวไม่มีกาละเทศะอยู่นะครับ
ตอบ : คุณไม่รู้อะไร...นั่นเป็นการสร้างภาพว่าเธอเป็นนายกฯ GEN Y ที่ถืออิสระเสรีเหนืออื่นใด นี่คือกลยุทธทางการเมืองมุ่งสร้างภาพแอนตี้ แบบแผน วัฒนธรรมโบราณให้นายกฯเพื่อดึงเสียงเลือกตั้งหนุ่มสาวให้จงได้ ทุกวันนี้เจ้าหน้าที่ทำเนียบก็เริ่มใส่กางเกงช้างมาทำงานแล้ว เรื่องแจกเงินนั้นเขาก็จะซื้อเสียงล่วงหน้าแจกเงินหมื่นเด็ก มศ.3 แล้วด้วย คุณไม่เห็นหรือ ทุกอย่างที่บุคคลในครอบครัว(พ่อ) ท่านทุ่มเททำในทุกวันนี้ คือการหาเสียงหาเงินเพื่อชนะเลือกตั้งครั้งหน้าให้เด็ดขาดทั้งสิ้น
“เราพวกเดียวกันด้วย แถมใจดีด้วย แล้วอย่างนี้จะไม่เลือกอุ๊งอิ๊งได้อย่างไร บ้านเมืองจะวายวอดก็ไม่เห็นเป็นไร เรา GEN Y มี AI คอยช่วยอยู่แล้ว GEN อื่นแก่แล้ว ไม่มีอนาคตแล้ว ก็อยู่เงียบๆ...อย่ามาซ่านนนน ”
บทความโดย :
แก้วสรร อติโพธิ