It’s a Summer Film! เชื่อมปัจจุบันและอดีตผ่านจอขนาดใหญ่

เท้าเปล่า เด็กมัธยมที่รสนิยมการดูหนังไม่เหมือนใคร ในขณะที่สมาชิกคนอื่นในชมรมภาพยนตร์ ร่วมมือ กันทำหนังรักโรแมนติก เท้าเปล่า ใฝ่ฝันอยากทำหนังซามูไร วันหนึ่งเธอไปเจอ รินทาโร เธอจึงชวนเขามาเป็นนักแสดงในหนังของตนเอง พร้อมกับลากเพื่อนซี้จำนวนหนึ่งมาเป็นทีมงานในกองถ่าย ยังไม่ทันที่ภารกิจ อันแสนขลุกขลักสุดทะเยอทะยาน ของ เท้าเปล่า จะสำเร็จ พวกเธอกลับต้องมาเจอจุดพลิกผันที่คาดไม่ถึง และหน้าร้อนปีนั้นชีวิตของทุกคนก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

It’s a Summer Film! เป็นผลงานกำกับและเขียนบทเรื่องแรกของ มัตซึโมโตะ โซชิ ที่ถ่ายถอดความรักที่มีต่อวงการณ์หนังออกมา โดยเฉพาะ "หนังซามูไรย้อนยุค" ที่เคยสร้างชื่อให้กับญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก เช่น เจ็ดเซียนซามูไร เรื่องราวเกี่ยวกับหมู่บ้านชาวนาและซามูไรไร้ไม่กี่คน ที่ลุกขึ้นต่อสู้กับกลุ่มโจรปล้นสะดม หรือ ซันจูโร่ ซามูไรปริศนาที่มาช่วย ซามูไรหนุ่มทั้ง 9 คน เพื่อความสงบยุติธรรมแล้วก็จากไปเงียบๆ หนังซามูไร หลายเรื่องที่เรารู้จักกันมักมาจากผลงานของ ผู้ชายผู้เป็นที่เคารพกันในวงการภาพยนตร์ อย่าง อากิระ คุโรซาว่า เจ้าของ หนังอมตะอย่าง ราโชมอน และนักแสดงคู่บุญของเค้าอย่าง โทชิโระ มิฟุเนะ ที่มารับบทเป็นตัวละครเอกจนหลายๆคนจำได้อย่างแน่นอน

(โทชิโระ มิฟุเนะ และ อากิระ คุโรซาว่า)

ปัจจุบันหนังซามูไรย้อนยุคกลายเป็นประเภทหนังที่ตายไปแล้ว เช่นเดียวกับ หนังคาวบอยตะวันตก ยุค 60-70 เหตุมาจากการผลิตออกมามากเกินไปของหนังประเภทนี้ จนเกิดอาการเบื่อ และซ้ำซากขึ้นมา เช่นเดียวกับประเด็นในเรื่อง It’s a Summer Film! ที่ว่าถึง หนังสาย Mainstream อย่างหนังรักที่ผลิตออกมาเยอะจนล้นตลาด และ หนัง Art House เช่นหนังซามูไร ที่แทบจะไม่มีการผลิตแล้วในปัจจุบัน จนทำให้ เท้าเปล่า ตัวละครเอกของเรื่องเกิดความเบื่อหน่าย หนังรักและต้องการแสดงให้คนอื่นๆเห็นถึงว่า หนังซามูไรนั้นก็ไม่ได้เป็นหนังตกยุค อย่างที่ใครว่ากัน

ตัวหนังเล่าเรื่องสไตล์ หนังชีวิตวันรุ่นกลุ่มหนึ่ง ที่รวมตัวกันมาเพื่อทำหนัง ที่ดูแล้วก็ถึงสมัยที่ผมยังเรียนและรวมตัวกับเพื่อนเพื่อทำหนังซักเรื่องกัน ในส่วนของการแสดง ถึงแม้จะมีติดภาพจำแบบหนังญี่ปุ่นที่เล่นเกินเบอร์ไปบ้าง แต่มันกลับเข้ากับธีมเรื่องนี้เป็นอย่างดี ดูแล้วไม่มีความรู้สึกประดักประเดิดเท่าไหร่ อาจจะเพราะว่านี่เป็นหนังของชีวิตวัยรุ่นด้วยก็เป็นได้

ตัวหนังไม่ใช่เพียงแค่มีการเล่าชีวิตวัยรุ่นเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกประเด็นความรักและปรัชญา เกี่ยวกับหนังไว้ได้อีกด้วย ในพาร์ทของความรักหนังเรื่องนี้ มีการล้อเลียนตั้งแต่ต้นเรื่องถึงว่า เท้าเปล่า ไม่ชอบหนังรักที่มีแต่ฉากพระเอกนางเอกพูดคำว่ารักกัน จึงเกิดเป็นการแสดงออกมาโดยที่ไม่เคยพูดแม้แต่ครั้งเดียวถือว่าเป็นอะไรที่ใช้ได้เลย โดยภาพรวมมันกลมกล่อม ทำให้คิดถึงสมัยที่เรายังเรียน รวมกลุ่มทำอะไรซักอย่าง เป็นหนังที่ดูจบแล้วให้ความรู้สึกที่ดีแก่ผู้ชมอย่างแน่นอน  

ประเด็นหลักของเรื่องที่น่าคิดของ It’s a Summer Film!  คือ หนังสามารถเดินทางข้ามกาลเวลาได้แม้จะเก่าแค่ไหนก็ตาม ใน It’s a Summer Film! ตัวละครพระเอกอย่าง รินทาโร่ เป็นคนที่มาจากอนาคตอันไกลที่ ยุคนั้น หนัง 1 เรื่อง มีเวลาต่อเรื่องแค่เพียงไม่กี่วินาที เหตุเพราะคนในยุคนั้นเริ่มเสพสื่อที่มีความยาวน้อยลง หนังจึงต้องปรับตัวให้เหลือเพียงไม่กี่วินาที แต่ เท้าเปล่านั้น ในอนาคต อันไกล เธอเป็นผู้กำกับในตำนาน ที่ยังคงทำหนังยาว ออกมา แต่หนังเรื่องแรกของเธอกลับไม่มีใครเคยได้ชม รินทาโร่จึงข้ามกาลเวลามาเพื่อดูหนังเรื่องแรกของเธอ นั้นเพราะว่า หนังสามารถเชื่อมโยงปัจจุบันและอดีตไว้ด้วยกันผ่านจอขนาดใหญ่ได้ มีหนังหลายเรื่องที่เราเกิดไม่ทันด้วยซ้ำ มีหนังหลายเรื่องที่ล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา แต่ทุกครั้งที่มีคนเปิดขึ้นมาคนเหล่านั้นจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และ คนในอดีตเองก็คาดหวังว่าคนในอนาคตก็จะยังเปิดดูหนังของพวกเค้าต่อไป