‘เศรษฐา’ เปิดวิสัยทัศน์แก้เศรษฐกิจ ขอทุกฝ่ายร่วมมือ ลำพังใช้อำนาจสำเร็จยาก

‘เศรษฐา’ ร่ายยาววิสัยทัศน์แก้เศรษฐกิจ เปรยอำนาจรัฐบาลมี แต่ต้องพึ่งพาความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งเป้าใน 4 ปี รายได้สุทธิเกษตรกรต้องเพิ่ม 3 เท่า ตั้งใจแก้หนี้นอกระบบ หวังดึงคนไทยกลับมามีแรง ส่วนโจทย์พลังงานเตรียมไปฝรั่งเศสดูงาน ‘พลังงานนิวเคลียร์’ ไม่ทิ้งท่องเที่ยวเดินต่อฟรีวีซ่า จีบศิลปินโลกมาไทยปลายปีนี้ แก้กฎหมายเอื้อธุรกิจ ลดขั้นตอนตรวจตรา ก่อนตั้งความหวังรื้อใหญ่การบินประเทศ แถลงกลางเดือน มี.ค. 67

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 เมื่อช่วงเช้าทีผ่่านมา ณ ห้อง Meeting Room ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน iBusiness Forum 2024 หัวข้อ RESHAPING THAILAND FOR A SUSTAINABLE FUTURE พลิกเศรษฐกิจไทย ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน

@ใน 4 ปียกระดับรายได้สุทธิเกษตรกรให้ได้ 3 เท่า

นายกรัฐมนตรีเริ่มต้นว่า ปัญหารากฐานของประเทศไทย ต้องพูดถึงพีระมิด ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะหลัง โดยเฉพาะภายหลังการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 การฟื้นตัวแบบ K-Shaped Recovery (การฟื้นตัวในรูปแบบตัว “K” หมายถึงคนบางกลุ่มฟื้นตัวได้เร็ว และคนบางกลุ่มจะยังไม่ฟื้นตัวหรือไปจนถึงแย่ลงเรื่อยๆ) เป็นสิ่งที่ทุกคนใช้กันบ่อย คนรวยรวยขึ้น คนจนจนลงเยอะ ฐานของพีระมิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ ความเหลื่อมล้ำทางด้านสิทธิ์และฐานะก็เป็นปัญหาที่หมกหมมในสังคมไทยอย่างยาวนาน แต่วันนี้ไม่ได้มาหาตัวว่าใครทำ ต้นตอมาจากไหน แต่เข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหา วันนี้ต้องยอมรับก่อนว่ามีปัญหานี้เยอะมาก แล้วก็อยากให้ทุกภาคส่วน ไม่ใช่แค่รัฐบาลคนเดียวที่จะมีหน้าที่แก้ไขปัญหาในส่วนนี้

การเป็นรัฐมนตรี รัฐบาลก็ถือว่ามีอำนาจเยอะพอสมควร แต่ว่าเราเองก็ไม่สามารถทำคนเดียวได้ หน่วยงานรัฐ ราชการ ความมั่นคง องค์กรอิสระต่างๆ ต้องช่วยกันอย่างเต็มที่และก็ต้องสามัคคีที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหา และเมื่อเข้ามาอยู่ตรงนี้ ตนก็จะทำให้ได้

สำหรับฐานรากของพีระมิดจริงๆแล้วคิดเป็นสัดส่วนถึง 99%ของประชากรทั้งหมดของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหนี้สิน ยาเสพติด เงินในกระเป๋าไม่เพียงพอ ค่าแรงขั้นต่ำไม่เหมาะสม ก็ได้พูดไปแล้วในหลายๆเวที แต่ว่าถ้าเกิดไม่เอามาพูดอีก คิดว่าพวกเราเองก็คงไม่เข้าใจถึงปัญหาเหล่านี้ เกษตรกรไทยมีหลายสิบล้านคน ปัญหาราคาสินค้า Know-How ในการทำการเกษตร ปัญหาราคาพืชผล ก็ทราบดีอยู่แล้วว่า หลายๆรัฐบาลมีทั้งจำนำ รับประกัน จ้างผลิต วันนี้ถือว่ามาเซ็ตซีโร่ใหม่แล้วกัน เพราะทุกนโยบายที่พูดไปใช้เงินงบประมาณหมด และส่งผลต่อหนี้สาธารณะสูงขึ้นเรื่อยๆตลอด 20 ปีทีผ่่านมา ไม่มีการแก้ไขปัญหาจริงๆ การบิดเบือนราครตลาดก็ไม่ถูกต้องตามหลักเศรษฐศาสตร์ ถ้าจะมีการจำนำ ประกัน จ้างผลิต หรือกำหนดราคาตลาดที่หลายๆฝ่ายพอใจและผู้คนอยู่ได้ จริงๆแล้วก็จะทำในช่วงเวลาที่วิกฤติจริงๆ เช่น การเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติ น้ำท่วม เป็นต้น ไม่ใช่ทำตอนจะเอาคะแนนเสียง

“รัฐบาลนี้มีความเชื่อในการทำให้รายได้สุทธิของเกษตรกรขึ้นไป 3 เท่าภายใน 4 ปี ถามว่าทำได้ไหม ทำได้ ถามว่ายากไหม ก็ต้องยอมรับว่า ยาก ที่เราบอกว่าจ้างผลิต จำนำ ประกันเนี่ย พูดถึงแค่ Top Line คือรายได้อย่างเดียว ถ้ารายได้เยอะ รายจ่ายเยอะ รายได้สุทธิที่เข้ากระเป๋าก็ไม่เยอะอยู่ดี เพราะฉะนั้น เรื่องบิดเบือนราคาตลาด เพื่อให้รายได้ที่ไม่สุทธิเข้ากระเป๋าประชาชน ก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีงาม สิ่งที่ดีที่สุดคือ รายได้สุทธิ รัฐบาลต้องเปิดตลาดใหม่ สร้างดีมานด์ให้เกิดขึ้น ทำให้ราคาสูงขึ้น เรื่องของ Productivity (ผลผลิต) ที่ยังเป็นรองหลายประเทศ โดยเฉพาะเรื่องข้าวที่เราต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านและประเทศที่มีเทคโนโลยีทางการเกษตรถึง 2-3 เท่า ถ้าเกิดในพื้นที่เท่าเดิม ต้นทุนเท่าเดิม แค่ว่ามีผลผลิตมากกว่า 2 เท่า รายได้ก็เด้งไป 2 เท่าแล้ว ไม่ต้องจ้างผลิต จำนำ ประกันหรอก” นายกรัฐมนตรีระบุ

@ตั้งใจสางหนี้นอกระบบ - สานต่อ ‘ประยุทธ์’ พัฒนาพลังงานสะอาด

นายเศรษฐา กล่าวต่อไปว่า นอกจากการสร้างรายได้สุทธิแล้ว อีกปัญหาสำคัญคือ ปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ถึงแม้จะมีการพักหนี้ไปแล้ว 13 ครั้งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พักแล้วพักอีก แต่ไม่ได้ควบคู่ไปกับการให้องค์ความรู้แก่เกษตรกร เพราะฉะนั้น พักหนี้จำเป็น เพราะถ้าไม่พัก ก็เหมือนทำงานใช้หนี้ไป ไม่มีขวัญกำลังใจในการทำงาน ส่วนตัวก็หวังว่า การพักหนี้ครั้งนี้จะเป็นการพักหนี้ครั้งสุดท้าย ทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น ทำให้ฐานบนของพีระมิดมาอุดหนุนชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรอีก

ขณะที่ประเด็นน้ำ ก็เป็นเรื่องสำคัญ หลายๆพื้นที่เจอทั้งท่วมและแล้ง แสดงว่ารัฐบาลต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานต้องทำมากกว่า เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมและน้ำแล้ง หากลงทุนพอสมควรไม่ทำให้แล้งและท่วมเพียงอย่างเดียว ผลิตผลที่ได้จะสูงขึ้นอย่างมโหฬาร

ถัดมา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการแก้หนี้นอกระบบว่า ในการลงพื้นที่ครั้งหนึ่ง มีโอกาสเจอคนมีหนี้นอกระบบ 80,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยวันละ 4,000 บาท และจ่ายแบบนี้มา 8 ปีแล้ว ซึ่งไม่ได้มีคนเดียว แต่มีแบบนี้หลายคนมาก ปัญหาหยั่งลึกทั้งผู้มีอิทธิพล ดอกเบี้ยที่คิดโหดมากทั้งๆที่กฎหมายระบุแล้วว่า ควรคิดดอกเบี้ยในอัตราเท่าไหร่ ถ้าแก้ปัญหานี้ไม่ได้ คนเหล่านั้นต้องทำงานเพื่อใช้ดอกเบี้ยสูงมากขนาดนี้ แล้วจะเอาแรงกายแรงใจจากไหนมาทำงาน ถ้าไม่มีความหวัง แรงบันดาลใจ ปัญหาสังคมทั้งการจี้การปล้น แต่ถ้าไม่อยากเบียดเบียนชาวบ้านก็ไปหายามาเสพคลายความกลุ้มใจ มันโยงกันหมด ทั้งเศรษฐกิจ หนี้ ยาเสพติดที่เป็นปัญหาเซาะกร่อนสังคมไทยมายาวนานมาก ถ้าไม่แก้ไข ก็ไม่สามารถ Reshaping ประเทศก็ไม่ต้องพูดถึง

“ผมพูดถึงปัญหา ก็เชื่อว่าหลายๆท่านน่าจะเข้าใจว่า ไม่ได้มาบอกว่า ปัญหามันเยอะแล้วทำงานไม่ได้ เราพยายามทำงานกันอยู่ แต่โอกาสมีเยอะมาก อย่างที่ได้กล่าวถึงเวทีพลังงานที่สามารถผลักดันการใช้พลังงานสะอาดได้ ก็มีส่วนทำให้อากาศไม่เลวร้ายกว่านี้ และดึงดูดนักลวทุนต่างประเทศได้ เพราะพวกเขาไม่ได้ดูแค่มาตราการ BOI, โรงเรียนนานาชาติ, ระบบสาธารณสุขที่ดี, รอยยิ้ม, ค่าครองชีพ แต่เรื่องพลังงานสะอาดกำลังเป็นเรื่องหลักในตอนนี้ การทำ Data Center จาก AWS Google huawei Microsoft คำถามแรกทุกคนถามถึงเรื่องพลังงานสะอาด ซึ่งเราผ่านมาแล้ว เรามีพลังงานสะอาดเยอะ รัฐบาลชุดก่อนก็มีส่วนทำให้ตรงนี้เจริญรุ่งเรืองมา รัฐบาลนี้ก็สานต่อนโยบายดีๆต่อไป และการที่ผมออกไปเป็นเซลล์แมนเนี่ย เรื่องพวกนี้ช่วยได้มาก” นายเศรษฐากล่าวอีกตอน

@เตรียมผุดไอเดีย ‘พลังงานนิวเคลียร์’

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อถึงประเด็นพลังงานว่า นอกจากนี้จะมีคิวเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสเร็วๆนี้ ในรูปผแบบทวิภาคีพบปะกับนายแอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยจะขอเข้าไปดูงานโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ว่าเป็นอย่างไร จะได้วางรากฐานเรื่องนี้ แน่นอน ความปลอดภัยของประชาชนสำคัญที่สุด แต่รัฐบาลเองก็หยุดไม่ได้ที่จะต้องหาโอกาสใหม่ที่จะสร้างอนาคตที่สดใสให้ภาคอุตสาหกรรมไทย

@ลุยฟรีวีซ่า-จีบศิลปินระดับโลกจัดโชว์ในไทยปลายปี 67

ต่อมา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการดำเนินงานตามนโยบายว่า ต้องยอมรับตลอด 5-6 เดือนทีผ่่านมา รัฐบาลไม่ได้ใช้เงินใดๆเลย เพราะงบประมาณปี 2567 ยังไม่บังคับใช้ ทุกวันนี้มีแต่การผลักดันนโยบายไป การท่องเที่ยวเป็นภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญ ประเด็นการให้ฟรีวีซ่าจีน รัฐบาลให้ไปก็มีเสียงต่อมาว่าเยอะมากว่า ศักดิ์ศรีประเทศอยู่ตรงไหน ยอมรับว่า ไทยเป็นประเทศเล็กกว่า แต่มั่นใจในศักดิ์ศรี กระทรวงการต่างประเทศ และความสามารถในการต่อรองกลับมา ซึ่งในที่สุด จีนก็ให้ฟรีวีซ่ากับไทยเช่นกัน และนโยบายฟรีวีซ่าจะทำต่อไปกับอีกหลายๆประเทศ ไม่ใช่แค่จีนอย่างเดียว

นอกจากนี้ นายเศรษฐายังพูดถึงกรณีที่เทย์เลอร์ สวิฟต์จัดทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกโดยไม่ได้มาประเทศไทยว่า ได้คุยกับผู้จัดว่า หากเทเลอร์มาประเทศไทยคนมาดูถล่มถลาย เพราะไม่นานนี้ ColdPlay หรือ Ed Sheeran ก็เพิ่งมาจัดคอนเสิร์ตและคนมาดูล้นหลาม และ 70% ของคนดูคือนักท่องเที่ยว แต่ส่วนตัวสงสัยว่า ทำไมนักร้องดังอย่างเทเลอร์ หรือแม้แต่บียอนเซ่ยังไม่มา ทางผู้จัดคอนเสิร์ตก็ให้ข้อมูลว่า ก็เพราะว่า รัฐบาลสิงคโปร์อุดหนุนการแสดงให้ 2-3 ล้านเหรียญ/รอบ ซึ่งเทเลอร์จัด 5 รอบ เท่ากับรัฐบาลเสียเงินประมาณ 500 ล้านบาทไทย แลกกับเงื่อนไขว่า ห้ามจัดแสดงที่อื่นในทวีปเอเชีย รู้งี้ ดึงมาประเทศไทยดีกว่า แถมใช้เงินแค่ 2 ล้านเหรียญ เชื่อว่านักร้องดังท่านนี้จะดึงดูดสปอนเซอร์ นักท่องเที่ยวมาได้เยอะกว่ามาก ถึงแม้จะต้องอุดหนุนให้เขา 500 ล้านบาท ก็เชื่อว่าโรงแรมไปจนถึงคนขายหมูปิ้งข้างถนน จะได้ประโยชน์ และได้ให้โจทย์ไปแล้วว่า ช่วงปลายปีนี้ อากาศประเทศดีๆ ต้องเอาศิลปินสากลระดับ A-List มาให้ได้

@ย้ำแก้กม.ธุรกิจ - บ่นปัญหาด่านเข้าออกทำต้นทุนผู้ประกอบการเพิ่ม

นายเศรษฐา กล่าวต่อไปว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆทั้ง รถไฟความเร็วสูง หรืออะไรต่างๆ แต่ไม่อยากให้ใส่แค่เงิน เพราะทั้งรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือน้ำลึก แลนด์บริดจ์ เป็นโครงการที่ลงทุนระดับล้าล้านบาท ถ้าลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ไปแล้ว แต่ซอฟต์แวร์ยังไม่ได้รับการแก้ไขก็มีปัญหา โดยเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business)เป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของประเด็นนี้ ต้องแก้ไขกันไป แต่มีอีกหลายเรื่องที่ทำให้ Ease of Doing Business ดีขึ้นได้แบบมโหฬาร

“ถ้าผมลงทุนรถไฟความเร็วสูงจากโคราชไปหนองคาย เพื่อต่อไปลาวจีน เพื่อนำทุเรียนส่งออกไปซึ่งมีมูลค่ากว่า 250,000 ล้านบาท ถ้าเราสามารถเพิ่มปริมาณการกินทุเรียนจาก 0.7 กก./คน เป็น 7 กก./คน จะกวดารายได้กว่า 2 ล้านล้านบาท แค่นี้ก็รวยน่าดูแล้วครับ แต่การส่งออกผลไม้ เวลาสำคัญ รถไฟความเร็วสูงสำคัญ ถ้ารถไฟความเร็วสูงยังไม่ถึง งบไม่พอ ทางคู่ก็ยังดีครับ แต่เวลาเดินทางไม่ค่อยเป็นปัญหา ปัญหาคือตรงด่านครับ ผมจะไปนครพนม-สกลนครดูเรื่องด่าน ต้องผ่านกี่หน้าต่าง กี่ด่าน กรมศุลกากร กระทรวงเกษตร แรงงาน สาธารณสุข สินค้าถึง 08.00 น. ผ่านด่าน 13.00 น. ก็เลยเวลาแล้วครับ คนส่งออกเสียค่าเช่าห้องเย็นอีก ถ้าผมลงทุนเป็นล้านล้าน แต่ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้แก้ มันก็ไม่ได้ช่วยครับ ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เรื่องเหมือนดูง่าย แต่อำนาจนายกฯ จริงๆแล้ว มันก็ต้องพึ่งหลายๆภาคส่วน ต้องพยายามรวบทุกอย่างให้เหลือด่านเดียว โป้งเดียวออกได้เลย ใครๆก็อยากค้าขายกับประเทศที่ทำแบบนี้” นายกรัฐมนตรีระบุ

@เล็งรื้อใหญ่การบินประเทศ แถลงกลาง มี.ค. 67

สุดท้าย นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องสนามบิน ซึ่ง 20 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเลย นับตั้งแต่การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิที่มีขนาดโปรเจ็กต์ใหญ่มาก สำเร็จในรัฐบาลไทยรักไทย หลังเป็นแผนมากว่า 50 ปี วันนี้สนามบินดอนเมืองเต็มแล้ว รับผู้โดยสารเต็มแล้ว ถ้าวันนี้มีแค่สนามบินดอนเมืองจะเป็นอย่างไร แล้วสนามบินสุวรรณภูมิ ณ ตอนนี้ศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารก็เริ่มแน่นแล้ว การเช็กอินก็ช้า ต่างประเทศเข้ามากว่าจะผ่านด่านเข้าเมืองก็ใช้เวลา 2-3 ชม.อย่างน้อย ถ้าไปที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สนามบินที่นั่นเดินเข้าออกได้เลย แต่เข้าใจได้ที่เราตรวจนาน เพราะมีปัญหา 2 อย่างคือ 1.ป้องกันอาชญากร 2.อยู่เกินวีซ่า ดังนั้น นโยบายของรัฐบาลคือ จะต้องมีเครื่องสแกนใช้แทนการตรวจหนังสือลงตรา ไม่ต้องใช้คน ทำให้การเข้าออกลื่นไหลมากขึ้น โดยกลางเดือน มี.ค. 2567 จะประกาศความเป็น Aviation Upgrade

“หลายคนที่กังวลกับนักการเมืองและวิธีการทำงานในอดีตของรัฐบาล ก็จะ อ้าว เอาอีกแล้ว จัดซื้อจัดจ้างอีกแล้ว สร้างอาคารผู้โดยสารอีกแล้ว ไม่เสมอไปหรอกครับ แน่นอนครับเรื่องของการก่อสร้างเป็นส่วนหนึ่ง การใส่เงินก็เป็นส่วนหนึ่งครับแต่การใส่ใจก็เป็นอีกส่วนหนึ่งเหมือนกัน ที่ผมแอบไปดูที่สนามบินสุวรรณภูมิมาก็เห็นอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งจริงๆแล้วอาจจะไม่ต้องใส่เงินมากก็ได้ แต่เป็นเรื่องที่จำเป็นทั้งเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งสภาพห้องอยู่กันแย่มาก ทำงานเกินเวลาอย่างมโหฬาร เจ้าหน้าที่ต่างๆมีปัญหาหมดในสนามบิน เที่ยวบินที่มาแวะเปลี่ยนเครื่องในสุวรรณภูมิก็มีแค่ 1% มันหมายความว่าไงครับ มันน่าสงสัยนะครับว่าจุดยุทธศาสตร์ของประเทศไทยที่อยู่บนแผนที่โลกมีความสำคัญมาก เป็นจุดที่ควรเชื่อมต่อได้อย่างดีแต่กลายเป็นว่าไม่มีสายการบินไหนมา” นายเศรษฐากล่าว