"...ถึงจุดนี้ อำนาจตรวจสอบ ทั้งของนายกรัฐมนตรี, ของคณะกรรมาธิการสภา , ขององค์กรอิสระ ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน และ ปปช. ก็มีความชอบธรรมที่จะล่วงเข้ามาตรวจสอบ การใช้อำนาจดุลพินิจนี้ได้แล้ว และจะอ้างสิทธิส่วนตัวของนักโทษมาปกปิดข้อมูลจากการตรวจสอบไม่ได้เลย..."
ถาม : ถ้าพ้น 120 วันไปแล้ว นช.ทักษิณ จะนอนโรงพยาบาลตำรวจต่อไปอีกได้ไหม?
ตอบ : ระเบียบบอกไว้ว่า ถ้ายาวนานถึง 90 วัน ให้ ผบ.เรือนจำรายงานอธิบดีราชทัณฑ์ ถ้าถึง 120 วัน ก็ให้อธิบดีรายงานรัฐมนตรี บทบัญญัติอย่างนี้ ผู้รับรายงานจะทำแค่ลงนาม “ทราบ”เท่านั้นไม่ได้ เพราะนี่เป็นการมอบหมายหน้าที่ให้ต้องตรวจสอบอย่างจริงจังว่า นช.ทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่ เรื้อรังหนักหนาถึงขั้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ดูแลไม่ไหวจริงหรือเปล่า
ถาม :ถ้าเขาไม่ยอมตรวจสอบเลย จะเกิดอะไรขึ้น
ตอบ : ถึงจุดนี้ อำนาจตรวจสอบ ทั้งของนายกรัฐมนตรี, ของคณะกรรมาธิการสภา , ขององค์กรอิสระ ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน และ ปปช. ก็มีความชอบธรรมที่จะล่วงเข้ามาตรวจสอบ การใช้อำนาจดุลพินิจนี้ได้แล้ว และจะอ้างสิทธิส่วนตัวของนักโทษมาปกปิดข้อมูลจากการตรวจสอบไม่ได้เลย
ถาม : ถ้ากลัวการตรวจสอบก็ต้องหาทางใช้ช่องทางใหม่ จะได้ไม่ต้องกลับไปนอนคุก
ตอบ : สองช่องทางแรกก็ คือ พักโทษ กับ อภัยโทษในคราว 5 ธันวา เรื่องพักโทษนั้นไม่เข้าเงื่อนไข เหลือลุ้นอภัยโทษ ก็กลับไม่มีชื่อในประกาศ ดังนั้น พอวันที่ 6 ธันวา จึงเกิดช่องทางใหม่ตามขึ้นมาเลย นั่นก็คือ การออกระเบียบราชทัณฑ์ว่าด้วย การคุมขังในสถานที่นอกเรือนจำ ที่ครอบคลุมถึงการให้นักโทษไปอยู่ตามที่พักอาศัยได้
ถาม : ระเบียบนี้เขาออกมาเพื่อ นช.ทักษิณ จริงหรือครับ เพราะเรื่องคุมขังนอกเรือนจำนี้ มีกฎหมายใหม่รับรองไว้ตั้งแต่ปี 2560 กฎกระทรวงก็ตามมาในปี 2563 มันเป็นไปได้หรือ ที่พวกเขาจะวางแผนช่วยกันมาตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว
ตอบ : ผมไม่ได้ยืนยันอย่างนั้น ผมเห็นแต่ตัวระเบียบนี้เท่านั้น ที่ดูแล้วน่าจะลนลานเร่งรัดจนตกหล่นสาระสำคัญไปหมด กฎกระทรวงปี 63 ระบุให้วางระเบียบการบริหาร แนวทางปฏิบัติงาน การปฏิบัติตัวของผู้ต้องขังแต่ละประเภท ที่อยู่ในสถานที่คุมขังนอกเรือนจำ ทั้งหมดนี้ต้องวางระเบียบให้เห็นชัดเจน เช่นถ้าเราจะเลือกเอานักโทษคดีติดยาเสพติด มาฟื้นฟูให้อยู่ในวัดหรือมัสยิดแห่งหนึ่ง หรือถ้าจะเอานักโทษที่ร่างกายทรุดโทรมมาพักฟื้นในไร่ข้าวโพดที่วังน้ำเย็นเหล่านี้ต้องทำอย่างไร บริหารอย่างไร ระเบียบอย่างนี้ต้องมีให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ แต่กลับไม่ปรากฏในระเบียบ 6 ธันวาเลย มีกำหนดเพิ่มขึ้นมาในเรื่องตั้งคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกนักโทษ กับคุณสมบัติกว้างๆ และกระบวนการคัดเลือก เพื่อเสนอ ผบ.เรือนจำอนุมัติเท่านั้น มันชัดเจนว่าเร่งรัดตกหล่นจริงๆ
ถาม : เขาจะเอาบ้าน “จันทร์ส่องหล้า” เป็นสถานที่คุมขังนอกเรือนจำได้ไหม
ตอบ : นี่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ในข้อแรกนั้นกฎกระทรวง ปี 63 ข้อ 8 ระบุไว้ชัดเจนว่า เมื่อออกระเบียบ 6 ธันวา แล้ว อธิบดีจะต้องประกาศต่อไปว่า ในแต่ละเรือนจำจะมีสถานที่คุมขังนอกเรือนจำที่ใดบ้าง ประเภทใดบ้าง เช่นประเภทฟื้นฟูฝึกอาชีพผู้ติดยา, ประเภทเตรียมตัวก่อนพ้นโทษ, ประเภทพยาบาลผู้ป่วยเรื้อรัง ฯลฯ
ถาม : บ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นประเภทไหนได้บ้าง
ตอบ : ได้ทั้งนั้น อาจจะรวมนักโทษคดีคอรัปชั่นทั้งเรือนจำคลองเปรมมาฟื้นฟูนิสัยให้เลิกคดโกงก็ได้ หรือเพื่อเตรียมตัวก่อนพ้นโทษก็ได้ พยาบาลก็ได้ ที่สำคัญคือจะต้องเปิดรับนักโทษที่ผ่านการคัดเลือกแล้วเป็นการทั่วไป จะรับแต่นักโทษเจ้าของบ้านคนเดียวไม่ได้ ผู้คนในบ้านก็ต้องย้ายออกให้หมด เพราะบ้านกลายเป็นที่คุมขังไปแล้ว
ถาม : อธิบดีราชทัณฑ์จะประกาศตามกฎกระทรวง ปี 63 ให้บ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นสถานที่คุมขัง เพียงสถานที่เดียว จากนั้น คณะทำงานตามระเบียบ 6 ธันวา ก็เลือก นช.ทักษิณ มาอยู่เพียงคนเดียวได้หรือไม่
ตอบ : ถ้าอธิบดีกับคณะทำงานอยากติดคุก ก็เชิญเลย ติดแน่นอน...รับรองได้