ทำไมคดีกำนันนกจึงมีหน่วยงานร่วมทำคดีมากที่สุดในประวัติศาสตร์

"...เจ้าหน้าที่รัฐไม่น้อยที่ก้มหัวเข้าหาผู้มีอิทธิพลเพื่อผลประโยชน์และความก้าวหน้าในอาชีพ ส่งผลให้ประชาชนหวั่นเกรงอิทธิพลพวกเขามากขึ้น..."

ประวัติศาสตร์จะบันทึกคดีกำนันนกว่าเป็นคดีคอร์รัปชันที่มีหน่วยงานรัฐร่วมทำคดีมากที่สุด และหากไม่ลูบหน้าปะจมูกคดีนี้จะสาวไปถึงผู้มีอิทธิพลระดับจังหวัดผู้อยู่เบื้องหลัง รวมถึงเป็นต้นแบบในการปราบปรามคอร์รัปชันของผู้มีอิทธิพลและบ้านใหญ่ระดับจังหวัดทั่วประเทศ

1.คดีนี้มีหน่วยงานร่วมสอบสวนคดีมากที่สุดคือ ป.ป.ช., ป.ป.ท., ป.ป.ง., ตำรวจ ปปป. เสริมทัพด้วย ตำรวจสอบสวนกลาง กรมสรรพากร และ ก. มหาดไทย ส่วน ดีเอสไอ ที่เกาะติดพฤติกรรมของเครือข่ายนี้ต่อเนื่องมาหลายปีประกอบกับใช้ ACT Ai เก็บข้อมูลการประมูลงานราชการได้รวดเร็ว ทันทีที่เกิดเหตุจึงให้ข้อมูลต่อประชาชนได้ก่อนใครว่าเครือข่ายนี้ทำธุรกิจฉ้อฉลอย่างไร

2.คดีกำนันนกเป็นเครื่องยืนยันว่า “คอร์รัปชันทำให้ระบบราชการอ่อนแอ เจ้าหน้าที่รัฐที่คดโกงอาศัยจุดอ่อนที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องมือตักตวงผลประโยชน์ใส่ตน”

2.1 เจ้าหน้าที่รัฐไม่น้อยที่ก้มหัวเข้าหาผู้มีอิทธิพลเพื่อผลประโยชน์และความก้าวหน้าในอาชีพ ส่งผลให้ประชาชนหวั่นเกรงอิทธิพลพวกเขามากขึ้น

2.2 การแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะระบบอุปถัมภ์ที่ไร้คุณธรรม

2.3 ข้าราชการน้ำดีมักถูกกลั่นแกล้ง ทำให้เสียกำลังใจ เสียโอกาสทำงานพัฒนาบ้านเมือง

2.4 ส่วยและธุรกิจสีเทาสร้างความร่ำรวยให้คนโกงมีเงินไปซื้อเจ้าหน้าที่รัฐ แล้วยกระดับตนเองเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ผันตัวเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เป็นนักการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ เมื่อมีอำนาจรัฐอยู่ในมือจึงโกงกินเป็นกอบกำแถมมีเจ้าหน้าที่รัฐมาสวามิภักดิ์มากขึ้น กลายเครือข่ายใหญ่สร้างหายนะให้บ้านมืองไม่จบสิ้น

2.5 ล็อกสเปก ฮั้วประมูล ซื้อขายใบเสร็จ โกงภาษี ฟอกเงิน ข่มขู่ผู้รับเหมารายอื่นมิให้ร่วมประมูล ส่วยรถบรรทุก การเลี้ยงมือปืนและปืนผิดกฎหมาย เป็นเรื่องเห็นตำตาทุกหนแห่งทั่วไทย

3. คอร์รัปชันในการจัดซื้อจัดจ้างเป็นปัญหาใหญ่ที่นับวันจะรุนแรงขึ้น สาเหตุสำคัญเพราะเอกชนจำนวนมากเกี่ยวข้อง หน่วยงานเจ้าของโครงการแม้รู้ทั้งรู้แต่มักอ้างว่าเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว เมื่อถูกเปิดโปงก็โยนให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. หรือ สตง. ดังนั้นคดีกำนันนกจึงเหมาะสมแล้วที่จะระดมสรรพกำลังจากหลายหน่วยงาน พร้อมนำกลไกภาษีและการฟอกเงินมาใช้เพื่อทุบทำลายเครือข่ายให้ครอบคุมและเร็วยิ่งขึ้น

ประวัติศาสตร์บทนี้จะทวีคุณค่าอีกมากหากคดีไปได้สุด ไม่หยุดแค่กำนันนกและคดีสังหารนายตำรวจ แต่ทุกหน่วยงานจับมือกันเดินหน้าใช้โอกาสนี้ขุดคุ้ยเอาผิดเอกชนทุกรายที่ร่วมฮั้วประมูลให้เข็ดหลาบ ปราบเครือข่ายผู้มีอิทธิพลในนครปฐมและทุกจังหวัดทั่วประเทศ

เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศเฝ้าจับตาและเชียร์สุดใจครับ

 ดร.มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) 25 กันยายน 2566