"...ละครเรื่องนี้ เป็นการเดินบทละครการว่าความในกระบวนการยุติธรรม ต้องทำให้ถูกต้องตามกระบวนการที่มีการประกอบวิชาชีพตามกฎหมายที่ปฎิบัติตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ ไม่ใช่จะสามารถเดินเรื่องตามความคิดของผู้เขียนบทละคร..."
.......................
หมายเหตุ : นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ(ก.อ.) ได้เขียนคำชี้แจงถึงละคร ‘ให้รักพิพากษา’ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ว่า บทละครและการแสดงไม่เป็นไปตามตัวยทกฎหมาย ทำให้สำนักงานอัยการสูงสุดเสียหาย
การเดินบทละครเรื่องนี้
การแสดงของหัวหน้าอัยการใช้วาจาไม่สำรวม ตามจีบทนายสาว ชวนทนายสาวมาเป็นอัยการโดยไม่ผ่านการสอบตามกฎหมายของสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นการเขียน เดินบทละคร บิดเบือนจากตัวบทบทกฎหมายการเข้าสู่เข้าวิชาชีพเป็นพนักงานอัยการไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
การใช้วาจาดูแคลนทนายความ ความเป็นจริงแบบนี้ถ้าเกิดขึ้นจริง พนักงานอัยการผู้ใดประพฤติเช่นนี้จะต้องถูกลงโทษทางวินัย ไม่รักษาเกียรติศักดิ์ของการเป็นพนักงานอัยการ แม้กระทั่งการถ่ายทำบทบาทการว่าคดีในศาลยุติธรรม ความเป็นจริงศาลผู้พิจารณาคดีโดนปกติ ผู้พิพากษาจะนั่งพิจารณาเป็นองค์คณะ 3 ท่าน
การอ้างอิงการสืบพยานในศาลจะต้องทำตามกระบวนพิจารณาเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การอ้างอิงพยานหลักฐานต้องเป็นไปตามวิธีพิจารณา ตามบัญชีพยานที่คู่ความยื่นอ้างไว้ต่อศาล ไม่ใช่จะไปเรียกขอให้ศาลส่งเอกสารพยานได้ตามใจชอบของคู่ความ
ละครเรื่องนี้ เป็นการเดินบทละครการว่าความในกระบวนการยุติธรรม ต้องทำให้ถูกต้องตามกระบวนการที่มีการประกอบวิชาชีพตามกฎหมายที่ปฎิบัติตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ ไม่ใช่จะสามารถเดินเรื่องตามความคิดของผู้เขียนบทละคร
หากยังเดินเรื่องบทละครตามสภาพการแสดงนี้ต่อไป จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานอัยการสูงสุด เกิดภาพลักษณ์เสียหายต่อพนักงานอัยการทั่วประเทศ และจะทำให้ประชาชน เข้าในบทบาทหน้าที่การรักษากฎหมายของพนักงานอัยการที่ผิดและเสื่อมเสียแก่พนักงานอัยการในปัจจุบันเป็นอย่างมาก
ประธานคณะกรรมการอัยการ และพนักงานอัยการทั่วประเทศไม่อาจที่จะยอมรับบทละครเรื่องนี้ได้ต่อไป และขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 / ผู้ผลิต ผู้เขียนบทละครเรื่องนี้ และ ผู้แสดงบทละครเรื่องนี้ที่แสดงในบทบาทการเป็นพนักงานอัยการที่ผิดๆ ตามกฎหมายต่อไป