"...คนเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ควรพูดเองบ่อยๆ ไม่ควรให้สัมภาษณ์ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ กลายเป็นนักข่าวไปกลุ้มรุมทุกหนแห่ง และนักข่าวกำหนดหัวข้อสัมภาษณ์..."
........................
เรียนท่านนายกมาแล้ว 4 เรื่อง เริ่มตั้งแต่ 28 06 2021 ครบเดือนแล้ว ขอเรียนเรื่องสุดท้ายมาพร้อมนี้
1. วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์กำลังจะมา สิ่งที่ได้มาเป็นของเหลือใช้ของอเมริกาหรือเปล่า (คือใกล้หมดอายุหรือเปล่า) ต้องจัดการเตรียมพร้อมอย่างไรกับวัคซีนดูแลยากตัวนี้ และจะฉีดใคร เหล่าหมอที่เรียกร้อง mRNA ก็ปรากฏตัวอยู่ มอบให้เขาเป็นคนลงมือทำดีไหมตั้งแต่รับวัคซีนจนถึงใส่วัคซีนเข้าไปในตัวคนทั่วประเทศ เขาจะได้เห็นกับตา และมีประสบการณ์ตรงกับงานกระจายวัคซีน ถ้าเขาทำได้ดีก็จะดีมาก และถ้าเขาเห็นอะไรไม่มีประสิทธิภาพ เขาจะได้เสนอแก้ได้ถูกจุด
2. การให้ข่าว
1. รัฐบาลนี้ให้ข่าวสับสนแถมชวนให้โดนวิจารณ์ ยกตัวอย่างเรื่องวัคซีนมาเมื่อไหร่ ไปไหนบ้าง รมต. สาธารณสุขวันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้พูดอย่าง และไม่ตอบคำถามที่คนอยากรู้ เช่น ฉีดวัคซีนที่บางซื่อทำไม ในเมื่อคนที่รับการฉีดดั้นด้นมาจากต่างจังหวัด (มีทั้งภาพและเรื่องเล่าที่ผู้เล่าฟังมาจากหมอหน้างาน) ซึ่งตามลอจิกง่ายๆ คือวัคซีนต้องไปให้ถึงคนให้เร็วที่สุด จะเอาหน้า จะหาเสียงหรืออะไร ก็ยังดูไม่เข้าท่าอยู่นั่นเอง
2. คนเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ควรพูดเองบ่อยๆ ไม่ควรให้สัมภาษณ์ไม่เลือกเวลา ไม่เลือกสถานที่ กลายเป็นนักข่าวไปกลุ้มรุมทุกหนแห่ง และนักข่าวกำหนดหัวข้อสัมภาษณ์
ไม่ควรพูดมาก นักข่าวรู้ว่านายกฯ อารมณ์เสียง่าย เสียแล้วก็หลุด จึงสนุกที่จะแหย่ให้หลุด กลายเป็นเหยื่อข่าวอันโอชะ
ไม่ควร “เล่น” กับคนทำข่าว จะให้ตลกจะกลับเป็นตัวตลกเสียเอง ไม่เป็นผลดีต่อใคร เว้นแต่เป็นหัวข้อวิจารณ์ในทางเสียหาย
3. ให้คนอื่นเป็นผู้ให้ข่าวบ้าง หรือให้คนอื่นรับภาระงานข่าวไปเลย ไม่ต้องห่วงเรื่องคนแย่งซีน เพราะถึงอย่างไรสุดท้ายผลลัพธ์ไม่ว่าบวกหรือลบ ก็ไม่พ้นท่านนายกฯ
ประธานาธิบดีทุกคนของสหรัฐอเมริกา ไม่มีวันเสียละจะมีนักข่าวไปกลุ้มรุมไม่เลือกเวลาไม่เลือกสถานที่ เวลาให้ข่าวก็เป็น press conference เป็นทางการ นักข่าวมีที่มีทางของตน ผู้ให้สัมภาษณ์ก็มีที่มีทางของตน ต่างคนต่างมีศักดิ์ศรี ต่างคนต่างเล่นบทในหน้าที่ของตน และสถานที่ยังเตือนให้รู้จักบทบาทของแต่ละฝ่ายด้วย
พลเอกเปรมฯ พูดน้อย นักข่าวให้ฉายาท่านว่า พระเตมีย์ใบ้ แต่ท่านไม่เปลืองตัว ท่านมีคุณไตรรงค์ รับหน้า โดนด่าทุกเรื่อง แต่สื่อสารได้เพราะรู้เรื่อง ใครมากลุ้มรุมถามท่าน จำได้ว่าท่านบอกว่า “กลับบ้านเถอะลูก” นักข่าวรุมเป็นเรื่องของนักข่าว แต่คนรุมไม่ได้ข่าว (ถ้าคนรุมได้ข่าว ต่อไปคนรุมจะมากขึ้นๆ)
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เล่นเอาเถิดเจ้าล่อกับนักข่าวก็มี แต่ที่จำได้แม่นยำคือคุณนุกูล ประจวบเหมาะ ท่านเว้นระยะห่างกับนักข่าว เพราะท่านไม่ชอบพูด และท่านพูดสั้นมาก นักข่าวให้ฉายาท่านว่า “ติงลี่” (ไม่รู้ว่าแหล่งข่าวต่างๆ ให้ฉายานักข่าวบ้างหรือเปล่า) ท่านตั้งคนชอบพูด มารยาทดี ความรู้แน่น บุคคลิกเป็นมิตร ให้เป็นหัวหน้าสำนักประชาสัมพันธ์มีหน้าที่พูดกับนักข่าว ให้สัมภาษณ์ ฯลฯ คนนั้นดังไปเลย (ดร. ศุภชัย พานิชภักดิ์) แต่ท่านไม่เดือดร้อน เพราะคนละวัย ไม่ใช่คู่แข่ง
เท่าที่พอรู้ ท่านผู้ว่าการจะให้นโยบายในเรื่องที่จะเป็นข่าว และให้แนวว่าจะสื่ออะไรบ้าง ที่เหลือหัวหน้าสำนักไปดำเนินการเอง แต่ไม่ออกนอกลู่ที่พูดกันไว้ เท่ากับว่าทำงานกันเป็นทีม คนหนึ่งให้คิว อีกคนหนึ่งปฏิบัติการ บางครั้งหัวหน้าสำนักก็จะขอให้ฝ่ายต่างๆ บางฝ่าย เป็นผู้ออกข่าวบ้าง สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป นักข่าวจึงได้ข่าวใหม่ๆ ทุกสัปดาห์ ไม่ต้องตั้งประเด็นซ้ำๆ ซากๆ มาถาม
จึงขอเล่าประสบการณ์มา เผื่อว่าท่านหรือคนรอบตัวท่านนายกฯ จะประยุกต์ใช้ได้บ้างตามควรแก่บุคลิกและอัธยาศัย
3. หาคนมาร่วมทีม
ทีมงานเศรษฐกิจตอนนี้ ขาดคนมองผลกระทบระยะยาว และขาดคนมองไกล แต่ไม่สามารถช่วยเสนอแนะได้ จึงขอเสนอโดยอ้อม
คุณสมบัติ
1. คนหนุ่ม ที่มีสมองคิดริเริ่ม และคิดเองเป็น
2. ฟังเป็น รู้จักฟังคนอื่น ไม่ใช่ฝังตัวอยู่ในโลกที่ตัวสร้างขึ้นมาเองราวกับพวกเหยื่อ social media
3. ทำเป็น คือออกเดินหน้าเป็น ปฏิบัติเป็น ไม่ใช่แค่พูดเก่ง และไม่ใช่คนหิวแสง
4. กล้าหาญในสิ่งที่ถูกต้อง กล้าเสนอ กล้าเดินหน้า ไม่ทำแค่นั่งรอคำสั่ง
5. รู้เรื่องเศรษฐกิจฐานราก และเศรษฐกิจระดับมหภาค พร้อมๆ กัน และสามารถ มองทะลุจากทุกข์ ไปถึงสมุทัย และแก้ที่ต้นเหตุ ไม่ใช่เห็นแต่ตลาดเงิน ตลาดทุนหรือตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเท่านั้น หรือเก่งเฉพาะการลดแลกแจกแถม
ถ้าหาคนที่ต้องใจไม่ได้ ก็ขอให้มีความเป็นหัวหน้าทีม ที่ตั้งธงเป็น และกล้าถือธงนำ ข้าราชการประจำระดับหัวกะทิมีมากมาย เดี๋ยวเขาช่วยกันตั้งแท่นให้ได้
ถ้าจะถามว่าสมัยก่อนทำไง หาใครมาจากไหน
มีบุคคลหนึ่งที่รู้ชัดว่าสมัยก่อนเขาทำยังไง ตั้งแต่เรื่องตั้ง ปตท. ถึงกำเนิด eastern seaboard และ การปรับคุณภาพนำ้มันดีเซลเพื่อลดมลภาวะในอากาศ ท่านนายกฯ ชวนท่านนั้นมาคุยเพื่อสอบถามสิคะ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรคเล็กๆ ที่ร่วมรัฐบาลน่ะค่ะ ถ้าไม่อยากคุย ก็ให้เจ้าหน้าที่หาหนังสือชื่อ สดุดี(คนอื่น) ที่ท่านผู้นี้เคยเขียนไว้มาอ่านดู แต่พูดกันน่าจะได้แง่คิดที่กระจ่างกว่าอ่านเอง