"...คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติว่า นายพรชัย โค้วสุรัตน์ เมื่อครั้งดำรงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ร่ำรวยผิดปกติ และส่งรายงานการไต่สวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ขอให้ศาลสั่งทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน และส่งคำวินิจฉัยพร้อมด้วยข้อเท็จจริงโดยสรุปไปยังผู้มีอำนาจสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง และให้ถือว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ ..."
สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 แถลงผลชี้มูล 'พรชัย โค้วสุรัตน์' อดีตนายก อบจ.อุบลราชธานี ร่ำรวยผิดปกติ 93 ล้าน ทุจริตซุกที่ดินในบริษัทเอกชนเพียบ ส่งเรื่องอสส.ฟ้องศาล สั่งทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
ป.ป.ช. ตีตกข้อกล่าวหา ‘อาภาภรณ์ พุทธปวน’ อดีตรองนายกเทศฯ ตำบลต้นธง จ.ลำพูน คดีร่ำรวยผิดปกติ 2 รายการ 'ที่ดิน-รถ' หลังไต่สวนพบเงินที่นำมาซื้อผ่อนชำระเป็นรายเดือนมาจากรายได้ดำรงตำแหน่ง -ก่อนหน้านี้โดนโทษจําคุก 2 เดือน ยื่นบัญชีฯเท็จ ใช้‘ลูกน้อง’เป็น‘นอมินี’ แต่รอลงอาญา 1 ปี ไปแล้ว
"...มีผู้ชายรายหนึ่งรับสาย พร้อมยืนยันว่า หอพักแห่งนี้ ไม่ใช่ทรัพย์สินของ นายบรรเจิด สอพิมาย เมื่อถามถึงกรณีที่ ป.ป.ช. มีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินส่วนนี้เอาไว้ ผู้ชายรายนี้ ตอบว่า ยังไม่เห็นมีหนังสืออะไรแจ้งมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเรื่องนี้ก็เป็นเพียงเรื่องที่มีการกล่าวหากันมาเท่านั้น ส่วนข้อมูลอื่นๆ ยังไม่สะดวกที่จะตอบคำถาม ..."
เผยมติ ป.ป.ช.ออกคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ บรรเจิด สอพิมาย นายกอบต.ในเมือง อำเภอพิมาย นครราชสีมา หลังลงมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดคดีร่ำรวยผิดปกติ ส่งสำนวนเอกสารหลักฐานให้อสส.ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนไปแล้ว ตั้งแต่เดือน ต.ค.65
"...น่าสังเกตว่า นายบุญทรง มีรายได้เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด เห็นได้จากช่วงรับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ มีรายได้ 1,451,960 บาท ช่วงพ้นตำแหน่ง 1 ปี รมช.คลัง 2,114,123 บาท พ้นตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ 2,433,530 บาท จนกระทั่งล่าสุดช่วงพ้นตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ 1 ปี จึงมีรายได้ลดลงเหลือ 1,603,926 บาท ..อย่างไรก็ดีกลับมีรายได้จากค่าจ้าง เมื่อเดือน ม.ค. 2557 – มิ.ย. 2557 ถึง 6 แสนบาท โดยไม่ได้ระบุไว้ว่า เป็นค่าจ้างในส่วนใด. ...
"...เกี่ยวกับเรื่องเงินที่นําไปซื้อตั๋วแลกเงิน 2 ฉบับนี้ ผู้ถูกกล่าวหาเบิกความว่าเป็นเงินที่นางแน่งน้อย สุทธิศักดิ์ มารดาของผู้ถูกกล่าวหามอบให้เก็บไว้ ซึ่งหากเป็นเงินของนางแน่งน้อยที่ฝากให้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้เก็บรักษาไว้จริง ผู้ถูกกล่าวหาก็ควรนําเงินไปฝากธนาคารมิใช่นําเงินจํานวนมากเช่นนี้ไปฝากไว้แก่นายวีระยุทธซึ่งเป็นเพียงคนรู้จักกันโดยอ้างเหตุผลเพียงว่าไม่มีตู้นิรภัยอันเป็นการผิดปกติวิสัยของวิญ ...
"...นายสถาพัฒน์ สุทธิศักดิ์ ชำระเงินจอง 120,000 บาท และชำระเงินค่าห้องชุด 2 ห้อง จำนวน 4,818,760 บาท เป็นตั๋วแลกเงิน 2 ฉบับ ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขานราธิวาส โดย บริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูล บริษัท เอส.โอ.เอ็น. เอ็นจิเนียริ่ง จํากัด พบว่า เป็นผู้รับเหมางานก่อสร้างถนน และสะพานในช่วงที่ นายสถาพัฒน์ สุทธิศักดิ์ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทนรา ...
"...ต่อไปนี้ เป็นข้อมูลทรัพย์สินในส่วน เงินค่าเช่าซื้อรถยนต์หรูจำนวน 13 คัน มูลค่า 53 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินส่วนสุดท้ายในคดีนี้ ซึ่งในจำนวนรถยนต์หรูทั้ง 13 คันดังกล่าว มี 4 คัน ที่พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล มีการโอนกรรมสิทธิ์เปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองเป็นบุคคลอื่นไปแล้ว..."
"...เป็นที่น่าสังเกตว่า รถยนต์ยี่ห้อดังบางคันราคาไม่สูงมากนัก อาทิ รถยนต์ ยี่ห้อ BENZ ราคา 80,000 บาท , รถยนต์ ยี่ห้อ AUDI ราคา 180,000 บาท ,รถยนต์ ยี่ห้อ PORSCHE ราคา 1,000,000 บาท เป็นต้น ขณะที่ในจำนวนรถยนต์ทั้ง 15 คันนี้ มีอยู่ 7 คัน ที่แจ้งสถานะปัจจุบันว่ามีการโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อบุคคลอื่นไปแล้ว ในจำนวนนี้มีนายตำรวจยศ "ร้อยตำรวจตรี" อยู่ 1 รายด้วย ..."