"...เอกสารการอบรมมีลายมือชื่อผู้เข้ารับการอบรมไม่ตรงกับลายมือชื่อที่ลงลายมือชื่อรับเงินตามใบสำคัญรับเงิน และแบบสำรวจข้อมูลผู้ประสบปัญหาสังคม ผู้มีรายชื่อเข้ารับการอบรมส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งมีอายุ 70-92 ปี จากการตรวจสอบยืนยันตัวตน/เยี่ยมบ้านผู้มีรายได้น้อยดังกล่าว ยังพบว่ามีผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการขาไม่ดี เดินไม่ได้ บางรายตาบอด..."
................................
ประเด็นตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินในโครงการฝึกอบรมของนิคมสร้างตนเองและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ภายใต้การดูแลกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในช่วงปี 2559 และ 2560 จำนวน 6 โครงการ ที่กำลังถูกสอบสวนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ในขณะนี้
ภายหลังได้รับรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า มีปัญหาส่อไปในทางทุจริต ปลอมแปลงเอกสารลายมือชื่อบุคคลที่เข้ารับการอบรม เพื่อเบิกค่าใช้จ่าย ทั้งที่ ไม่ได้มีการจัดอบรมหรือจัดกิจกรรมจริง ทำให้ราชการได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 5.69 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อมูลเบื้องต้นมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้วว่า ในรายงานผลการตรวจสอบของ สตง. ระบุพฤติการณ์การกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องโครงการฝึกอบรมของนิคมสร้างตนเองและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งแห่งหนึ่ง จำนวน 6 โครงการ ว่า มีการปลอมแปลงเอกสาร ลายมือชื่อบุคคล เพื่อรับค่าตอบแทน ทั้งในส่วนของวิทยากร ผู้เข้ารับการอบรม ค่าพาหนะ ค่าอาหาร อาหารว่างเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ในส่วนของกลุ่มบุคคลที่ปรากฎชื่อเป็นผู้เข้ารับการอบรม นั้น จากการตรวจสอบยืนยันข้อมูลในเอกสารเบิกจ่ายเงินโครงการ สตง. พบว่า บางรายเป็นผู้ป่วยติดเตียง พิการทางขาเดินไม่ได้ ตาบอด บางรายเสียชีวิตไปแล้วด้วย
จึงทำให้ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเข้าร่วมการฝึกอบรมได้จริง
(อ่านประกอบ: ปลอมชื่อคนตายเบิกเงิน! ป.ป.ช. ลุยสอบ 6 โครงการฝึกอบรมนิคมสร้างตน-ศูนย์ฯคนไร้ที่พึ่ง (1))
ต่อไปนี้ เป็นข้อมูลรายละเอียดผลการสอบสวน 1 ใน 6 โครงการฝึกอบรมของนิคมสร้างตนเองและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ที่ สตง. ตรวจสอบพบการปลอมแปลงเอกสาร ลายมือชื่อบุคคล เพื่อรับค่าตอบแทน
มีชื่อว่าโครงการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพเครือข่ายเฝ้าระวังผู้ประสบปัญหาทางสังคม จัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน 2559 จำนวนเงิน 51,200 บาท
โดยเอกสารการอบรมมีลายมือชื่อผู้เข้ารับการอบรมไม่ตรงกับลายมือชื่อที่ลงลายมือชื่อรับเงินตามใบสำคัญรับเงิน และแบบสำรวจข้อมูลผู้ประสบปัญหาสังคม
ผู้มีรายชื่อเข้ารับการอบรมส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งมีอายุ 70-92 ปี
จากการตรวจสอบยืนยันตัวตน/เยี่ยมบ้านผู้มีรายได้น้อยดังกล่าว ยังพบว่ามีผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการขาไม่ดี เดินไม่ได้ บางรายตาบอด
จึงน่าเชื่อว่าไม่สามารถเข้ารับการอบรมได้ และไม่สอดคล้องกับโครงการอบรม ใบลงทะเบียนมีการลงลายมือชื่อที่ไม่ใช่ลายมือชื่อที่แท้จริงของผู้มีรายชื่อเข้าร่วมการอบรม ผู้มีชื่อเป็นวิทยากรในโครงการไม่ได้มาเป็นวิทยากรและไม่ได้รับเงินค่าตอบแทน ผู้ที่มีชื่อเป็นผู้รับจ้างประกอบอาหารอาหารว่างและเครื่องดื่ม ไม่ได้รับเป็นผู้รับจ้าง และไม่ได้รับเงินค่าจ้างแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในช่วงสายวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ได้ติดต่อไปยัง กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เพื่อขอให้ชี้แจงข้อมูลเรื่องนี้เพิ่มเติมได้รับการแจ้งจากเจ้าหน้าที่นิติกรกรมฯ ว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของกรมฯ ยังไม่เสร็จสิ้นขั้นตอนเป็นเรื่องลับไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลอะไรได้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้ข้อมูลยืนยันสำนักข่าวอิศราเพิ่มเติมว่า นิคมสร้างตนเองและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ที่ถูกตรวจสอบพบปัญหาการทำโครงการฝึกบอบรม ทั้ง 6 โครงการ อยู่ในพื้นที่จังหวัดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก ทราบว่าในระหว่างขั้นตอนการสอบสวน ได้มีการยินยอมคืนเงินเพื่อชดใช้ค่าเสียหายบางส่วนแล้ว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage