"...การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เป็นผลสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการละเมิดทางแพ่ง และผลสอบระบุว่า การจัดหากล้าไม้มีราคาแพงกว่าราคากลาง โดยมีส่วนต่างอยู่ที่ 30-40 ล้านบาท ทำให้ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเพื่อสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อไป..."
................................
โครงการเพาะชำกล้าไม้บรรเทาวิกฤตโลกร้อน ปี 2553 ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณกว่า 109 ล้านบาท กำลังถูกจับตามอง!
เมื่อสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายเดือนพ.ย.2563 ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงนามในคำสั่งที่ 379/2563 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง กับเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนนับร้อยราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีข้าราชการระดับสูงรวมอยู่ด้วย
หลังถูกสอบสวนพบว่าการดำเนินงานโครงการมีปัญหาทำให้ราชการได้รับความเสียหาย ในการทำกิจกรรม 2 ส่วน คือ บำรุงรักษากล้าไม้ทั่วไป จำนวน 54,120,000 กล้า ค่าบำรุงรักษา 0.40 บาท ต่อกล้า รวมเป็นเงิน 23,648,000 บาท และกิจกรรมบำรุงรักษากล้าไม้ขนาด จำนวน 972,300 กล้า ค่าบำรุงรักษา 1.723 บาท ต่อกล้า รวมเป็นเงิน 1,675,272.90 บาท รวมวงเงิน 2 กิจกรรม 23,323,272.90 บาท
ทั้งนี้ ในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงกรณีนี้ ระบุว่า การเพาะชำกล้าไม้ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการไม่น้อยกว่า 6 เดือน จะได้กล้าที่มีคุณภาพเพื่อแจกจ่ายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
แต่ปรากฎว่าตามแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินประจำปี พ.ศ.2553 ของหน่วยปฏิบัติงานโครงการฯ ดำเนินการในเดือนส.ค.2553 - ก.ย.2553 มีระยะเวลาดำเนินการไม่ถึง 2 เดือน ไม่สอดคล้องกับแผนปฏิบัติงานปกติสำหรับดำเนินการเพาะชำกล้าไม้ตามที่กำหนดไว้
เมื่อโครงการดังกล่าว มีระยะเวลาดำเนินงานไม่ถึง 2 เดือน กิจกรรมที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในปี 2553 คือ การเพาะชำกล้าอ่อน และการย้ายชำกล้าอ่อน จะยังไม่มีกิจกรรมบำรุงรักษาและการแจกจ่ายกล้าไม้
ดังนั้น ควรกำหนดอัตราราคางานต่อหน่วยกล้าไม้ทั่วไป 1.53 บาท ต่อกล้า โดยไม่ร่วมกิจกรรมบำรุงรักษา ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 0.40 บาท ต่อกล้า และควรกำหนดอัตราราคางานต่อหน่วยกล้าไม้ขนาดใหญ่ 3.277 ต่อกล้า โดยไม่รวมกิจรรมบำรุงรักษา ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 1.723 บาท ต่อกล้า
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้
นายจตุพร ระบุว่า กรณีนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ข้าราชการระดับสูง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นหลัก 100 คน จริง
"การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เป็นผลสืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการละเมิดทางแพ่ง และผลสอบระบุว่า การจัดหากล้าไม้มีราคาแพงกว่าราคากลาง โดยมีส่วนต่างอยู่ที่ 30-40 ล้านบาท ทำให้ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเพื่อสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อไป"
นายจตุพร กล่าวย้ำว่า อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่ถือว่าข้าราชการระดับสูง และเจ้าหน้าที่อีกเป็นจำนวน 100 คนเป็นผู้กระทำความผิด และคณะกรรมการจะเข้าไปดูข้อเท็จจริงหรือเจตนาในการดำเนินการเป็นอย่างไร โดยคาดว่าอีก 1-2 เดือนน่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเรื่องนี้
“อยากย้ำว่า การตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ยังไม่ได้หมายความว่าผู้ที่เกี่ยวข้องมีความผิด ซึ่งท้ายที่สุดเขาอาจจะผิดหรือไม่ก็ได้ ซึ่งต้องรอดูผลสอบในอีก 1-2 เดือนข้างหน้าเสียก่อน” นายจตุพรระบุ
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage