"...สำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตไม่เคยมีความรู้เรื่องนี้มาก่อน ประธานในที่ประชุมวันนั้น คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด จึงให้ทางสำนักงานสาธารณสุขชี้แจงว่าสเปคของเครื่องพ่นเป็นอย่างไร และได้มอบหมายให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้ที่นำเอาเอกสารเกี่ยวกับสเปคของเครื่องมาให้ทางสำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดในการที่จะออกหนังสือสำหรับจัดซื้อจัดหา...”
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบฐานข้อมูลสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต พบว่า มีการเผยแพร่หนังสือจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 17 ก.พ.2563 แจ้งเวียนให้ นายอำเภอ ทุกอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เทศมนตรีเมืองป่าตอง และเทศมนตรีเมืองกะทู้ เร่งรัดการจัดซื้อเครื่องพ่นสารเคมีชนิดฝอยละออง และน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริเวณสถานที่สำคัญและสถานที่ท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ในการแจ้งเวียนหนังสือดังกล่าว จังหวัดภูเก็ต ยังได้มีการแนบรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะเครื่องพ่นสารเคมีชนิดฝอยละออง และข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ผ่านการตรวจสอบจากกรมวิทยาศาศตร์การแพทย์ รวมถึงข้อมูลราคาสินค้า ที่ต่ำกว่าราคากลางราชการกว่าครึ่งหนึ่ง อาทิ เครื่องพ่นละอองฝอย SOLO ราคาราชการอยู่ที่ 85,000 บาท ราคาเอกชนซื้อสด อยู่ที่ 50,000 บาท เครื่องพ่นละอองฝอย U260 ราคากลางราชการอยู่ที่ 50,000 บาท ราคาเอกชนซื้อสด 25,000-38,000 บาทไว้ให้ด้วย (อ่านประกอบ : ข้อมูลใหม่เครื่องพ่นกันโควิด! 'ภูเก็ต' สั่งซื้อยกจว.-แนบเอกสารชื่อบ.โบรชัวร์สินค้าครบ)
ล่าสุด นายวิญญ์ สิทธิเชนทร์ ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ยอมรับกับสำนักข่าวอิศราว่า มีการนำข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ไปใส่แนบท้ายในหนังสือแจ้งเวียนหน่วยงานราชการในจังหวัดภูเก็ตดังกล่าวจริง ซึ่งเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่ไม่รอบคอบในการตรวจสอบข้อมูลเอกสารต่างๆ ที่ได้รับมาจากฝ่ายสาธารณสุข หลังจากการประชุมผู้บริหารท้องถิ่นเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา ที่มีการหยิบยกประเด็นเรื่องการจัดซื้อเครื่องพ่นสารเคมีชนิดฝอยละออง มาใช้งานเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิดในพื้นที่ภูเก็ต และได้รับคำแนะนำจากฝ่ายสาธารณสุข ในเรื่องสเปคของเครื่องที่จะมีการจัดซื้อดังกล่าว
นายวิญญ์ กล่าวชี้แจงว่า ในการประชุมผู้บริหารท้องถิ่นเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มมีปัญหามากขึ้น ที่ประชุมได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาว่าจะมีการสร้างความมั่นใจให้กับคนภูเก็ตรวมทั้งนักท่องเที่ยวอย่างไร และได้มีการพูดกันว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดเริ่มมีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบนรถโดยสารสาธารณะแล้วถ้าหากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)สามารถจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์เหล่านี้มาใช้งานได้ด้วยก็จะเป็นประโยชน์กับภาพลักษ์ของ จ.ภูเก็ต
"แต่เนื่องจาก สำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตไม่เคยมีความรู้เรื่องนี้มาก่อน ประธานในที่ประชุมวันนั้น คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด จึงให้ทางสำนักงานสาธารณสุขชี้แจงว่าสเปคของเครื่องพ่นเป็นอย่างไร และได้มอบหมายให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้ที่นำเอาเอกสารเกี่ยวกับสเปคของเครื่องมาให้ทางสำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดในการที่จะออกหนังสือสำหรับจัดซื้อจัดหา”
“ส่วนสาเหตุที่มีข้อมูลผลิตภัณฑ์สินค้าแนบท้ายไปกับหนังสือแจ้งเวียนด้วย เป็นความบกพร่องของทั้งสองฝ่าย ทั้งในฝ่ายสาธารณสุขที่เอาเอกสารทั้งหมดมาให้โดยมีชื่อของบริษัทด้วยและทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่นก็ไม่ได้ดูให้รอบคอบในประเด็นที่เกี่ยวกับผู้ประกอบการ เพราะเอกสารมีหลายแผ่น ก็เลยนึกว่าเป็นแค่สเปก มาตรฐานกลางๆ ไป ซึ่งเรื่องนี้ สันนิษฐานว่าสาธารณสุขจังหวัดอาจจะเคยซื้อหาสินค้ากับบริษัทนี้มาก่อนหรือเปล่า เขาจึงมีเอกสารทั้งปึกมาให้ได้" นายวิญญ์ระบุ
นายวิญญ์ ยังย้ำด้วยว่า การที่สำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่นนำเอาข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขมาประกอบเรื่อง โดยนัยความหมาย ก็เพื่อให้เห็นว่าสเปกของเครื่องเป็นอย่างไร แต่เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบให้รอบคอบรัดกุม ว่ามีชื่อผู้ประกอบการเข้าไปเกี่ยวข้องในเอกสาร หรือไม่ เพราะเอกสารมีจำนวนมากกว่า 20 แผ่น
เมื่อสำนักข่าวอิศรา ถามว่า มีข้อมูลหรือไม่ว่า มี อปท. หรือหน่วยงานราชการแห่งใด ในหนังสือเวียน ที่จัดซื้อเครื่องพ่นสารเคมีหรือน้ำยาฆ่าเชื้อของบริษัทที่ระบุในหนังสือเวียนไปแล้วบ้าง
นายวิญญ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเริ่มให้มีการตรวจสอบอยู่ว่ามีการจัดซื้อของใครไปบ้าง ในราคาเท่าไหร่
“เร่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่ ยังไม่ได้ข้อสรุป หากมีอะไร อาจจะมีการติดต่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม เราจะตรวจสอบว่าตามที่มีการสั่งการไป มีของที่ไหน ซื้อจากใคร ในราคาเท่าไหร่ และด้วยวิธีการแบบไหน” นายวิญญ์ระบุ
ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตรายนี้ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คำสั่งตรวจสอบเรื่องการจัดซื้อเครื่องพ่นเพิ่งเริ่มขึ้นในช่วงบ่ายวันนี้ (15 เม.ย.2563) เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยได้เอะใจเรื่องนี้เนื่องจากเห็นว่าเป็นการส่งคุณสมบัติเครื่องมือทั่วไป จนกระทั่งสำนักข่าวอิศรา นำเสนอข่าวเรื่องนี้ และเห็นรายละเอียดของเอกสารว่ามีการระบุชื่อบริษัทไว้ด้วย
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ก่อนหน้านี้ ได้พยายามติดต่อไปยังเลขานุการผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพื่อขอสัมภาษณ์ผู้ว่าฯ ถึงกรณีหนังสือเวียนดังกล่าว แต่เลขานุการแจ้งว่าผู้ว่าฯ อยู่ในระหว่างลงพื้นที่ และได้แนะนำให้ผู้สื่อข่าวสอบถามนายวิญญ์ซึ่งเป็นหัวหน้าส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตโดยตรง
อ่านประกอบ :
จังหวัดภูเก็ต
ข้อมูลใหม่เครื่องพ่นกันโควิด! 'ภูเก็ต' สั่งซื้อยกจว.-แนบเอกสารชื่อบ.โบรชัวร์สินค้าครบ
เทศบาลหลักหก
ยื่น ป.ป.ช.แล้ว! 'เชาว์' พาสมาชิกหลักหกร้องสอบบิ๊กเทศบาล-พวก 6 ราย ซื้อเครื่องพ่นกันโควิด
คืนเงินเทศบาลแล้ว! เปิดตัวผู้ขายเครื่องพ่นกันโควิดตัวละ 8.5 หมื่น แจงของหายากทำราคาแพง
โชว์ใบส่งเครื่องพ่นกันโควิดตัวละ 8.5 หมื่น-ซื้อชุดใส่ด้วย1.7 แสน- เทศบาลหลักหก ยันโปร่งใส
เผยโฉม 'เครื่องพ่นกันโควิด' เทศบาลหลักหกตัวละ 8.5 หมื่น-ผู้แทนจำหน่ายยันราคาส่งแค่ 1.7 หมื่น
'เชาว์' โต้ข้ออ้างกักตัว14 วัน! ยันมีหลักฐาน นายกฯหลักหก เซ็นเช็คซื้อเครื่องพ่นกันโควิดเอง
ไปกักตัวมา14 วัน ไม่รู้ใครทำ! นายกเทศมนตรีหลักหก เรียกจนท.แจงซื้อเครื่องพ่นกันโควิดแพงเวอร์
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/