"...ราคาเรือตามโครงการฯ ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อในราคาสูงสุดเท่ากับราคากลาง ลำละ 80,000 บาท และจัดซื้อในราคาต่ำสุดราคาลำละ 72,000 บาท ซึ่งมีความแตกต่างกันของราคาต่อหน่วยสูงถึง 8,000 บาท ในจำนวนนี้ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 78 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 65.54 ของจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด จัดซื้อเรือตามโครงการฯ ในช่วงราคา 79,000 - 79,900 บาท ใกล้เคียงกับราคากลางที่กำหนดไว้ 80,000 บาท และมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สามารถจัดซื้อเรือได้ในราคาต่ำกว่าราคากลาง อยู่ในช่วงราคา 72,000 - 72,900 บาท จำนวน 19 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 16.10 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด..."
การจัดซื้อเรือเพื่อนำมาใช้ในงานโครงการกำจัดผักตบชวาอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ 2560 รวมวงเงิน 63.68 ล้านบาท ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหาการจัดซื้อในราคาที่แตกต่าง ทั้งที่เป็นครุภัณฑ์ที่มีคุณลักษณะเหมือนกัน ในส่วนของ จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 130 แห่ง เรือ จำนวน 172 ลำ งบประมาณรวมจำนวน 13.76 ล้านบาท และมีเอกชนรายหนึ่ง ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญาขายเรือให้กับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนมากด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในการดำเนินงานโครงการกำจัดผักตบชวาอย่างยั่งยืนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของเรือที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องจัดซื้อ เพื่อนำมาใช้กำจัดผักตบชวาในพื้นที่ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ จะต้องเป็นเรือท้องแบนไฟเบอร์กลาสขนาด 17 ฟุต ความยาวไม่น้อยกว่า 5.30 เมตร ความกว้างไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร พร้อมเครื่องยนต์แก๊สโซลีนขนาดไม่น้อยกว่า 13 แรงม้า แบบหางยาว พร้อมอุปกรณ์ประกอบการใช้งาน ได้แก่ เสื้อชูชีพ สีส้ม จำนวน 3 ตัว ไม้พายท้าจากพลาสติกจำนวน 2 อัน เชือกสำหรับผูกเรือจ้านวน 1 เส้น และชุดเครื่องมือประจำเรือจำนวน 1 ชุด และกำหนดงบประมาณในการจัดซื้อลำละ 80,000 บาท
แต่จากการตรวจสอบการดำเนินการจัดซื้อเรือตามโครงการฯ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 119 แห่ง พบข้อสังเกตในเรื่องความแตกต่างของราคาต่อหน่วยในการจัดซื้อ ทั้งที่เป็นสินค้าที่มีคุณลักษณะเหมือนกัน และมีการจัดซื้อจากผู้ประกอบการเดียวกัน
โดยราคาเรือตามโครงการฯ ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อในราคาสูงสุดเท่ากับราคากลาง ลำละ 80,000 บาท และจัดซื้อในราคาต่ำสุดราคาลำละ 72,000 บาท ซึ่งมีความแตกต่างกันของราคาต่อหน่วยสูงถึง 8,000 บาท
ในจำนวนนี้ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 78 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 65.54 ของจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด จัดซื้อเรือตามโครงการฯ ในช่วงราคา 79,000 - 79,900 บาท ใกล้เคียงกับราคากลางที่กำหนดไว้ 80,000 บาท และมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สามารถจัดซื้อเรือได้ในราคาต่ำกว่าราคากลาง อยู่ในช่วงราคา 72,000 - 72,900 บาท จำนวน 19 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 16.10 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด
ขณะที่ ในจังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัด ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดซื้อเรือในราคาแตกต่างกันค่อนข้างมากถึง 7 ช่วงราคา โดยมีราคาจัดซื้อต่ำสุดในช่วง 71,000 -71,900 บาท และราคาจัดซื้อสูงสุด 80,000 บาท
เท่ากับราคากลาง
จากการตรวจสอบพบว่า มีบริษัทเอกชน รายหนึ่ง เป็นผู้จำหน่ายเรือตามโครงการฯ ให้กับองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทั้ง 6 จังหวัด มากที่สุดจำนวน 58 แห่ง โดยมีการจำหน่ายเรือตามโครงการฯ ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในราคาที่แตกต่างกันถึง 7 ราคา มีราคาจำหน่ายต่ำสุดอยู่ที่ลำละ 72,000 บาท และจำหน่ายในราคาสูงสุดลำละ 79,800 บาท ทั้งที่เป็นการขายเรือที่มีลักษณะเหมือนกันทุกประการให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเดียวกันและจังหวัดใกล้เคียง ที่ไม่ได้มีความแตกต่างในเรื่องระยะทางการขนส่งมากนัก
ส่วนรูปแบบการดำเนินการจัดซื้อเรือตามโครงการฯ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมดจะใช้วิธีการเฉพาะเจาะจง โดยจากการตรวจสอบการหาผู้ประกอบการหรือการจัดทำราคากลางเพื่อจัดซื้อเรือตามโครงการฯ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 119 แห่ง พบว่า มีองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นจำนวน 50 แห่ง ของจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด มีการหาผู้ประกอบการหรือกำหนดราคากลางจากเอกสารใบเสนอราคาจากผู้ประกอบการเพียงรายเดียว
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 69 แห่ง ของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด มีการหาผู้ประกอบการหรือกำหนดราคากลางจากใบเสนอราคาของผู้ประกอบการมากกว่า 1 ราย และส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการกลุ่มเดียวกันที่เสนอราคาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลาย ๆ แห่ง โดยมีการเสนอราคาเท่ากับราคากลางหรือต่ำกว่าราคากลางเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 6 จังหวัดที่ตรวจสอบ จำนวน 78 แห่ง ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด มีการจัดซื้อเรืออยู่ในช่วงราคา ลำละ 79,000 ถึง 79,800 บาท ต่ำกว่าราคากลางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จากข้อมูลดังกล่าว จะเห็นว่ามีความแตกต่างของราคาในการจัดซื้อเรือตามโครงการฯ ทั้งที่เป็นสินค้าที่มีคุณลักษณะเหมือนกันทุกประการ ส่งผลกระทบทำให้เกิดความไม่ประหยัดและรัฐต้องเสียงบประมาณสูงกว่าที่ควรจะเป็น หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดซื้อเรือตาม โครงการฯ ได้ในราคาต่ำสุดที่ลำละ 72,000 บาท ก็จะสามารถประหยัดงบประมาณได้เป็นเงินมากกว่า 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ความแตกต่างของราคาในการจัดซื้ออาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ แต่สาเหตุสำคัญประการหนึ่งเกิดจากการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประกอบการจำหน่ายเรือในแต่ละพื้นที่หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีข้อมูลของผู้ประกอบการจำหน่ายเรือตามโครงการฯ หลายรายและทำการสืบราคาจากผู้ประกอบการทั้งหมดที่มีอยู่ หรือทราบข้อมูลราคาของผู้ประกอบการแต่ละรายที่ขายให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ประกอบการพิจารณาจัดซื้อก็อาจจะทำให้จัดซื้อเรือได้ในราคาต่ำและอยู่ในช่วงราคาที่ใกล้เคียงกันเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐในการด้าเนินโครงการในลักษณะจัดสรรงบประมาณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ที่มีคุณลักษณะเหมือนกันทุกประการที่จะดำเนินการในโอกาสต่อไป ให้เป็นไปอย่างประหยัด และคุ้มค่า
ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหา สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด ควรทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ผลิต หรือผู้จำหน่าย และราคาจำหน่ายครุภัณฑ์ตามโครงการ และมีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับจัดสรรงบประมาณตามโครงการได้รับทราบผ่านช่องทางสื่อสารออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการ
เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและผู้ขายจำนวนมาก ก็จะสามารถสร้างอำนาจต่อรองในฐานะผู้ซื้อสินค้าได้มากกว่าการดำเนินการลำพังเพียงหน่วยงานเดียว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/