โชว์คำสั่งลงโทษไล่ออก 'เกียรติขจร แซ่ไต่-มูรธาธร คำบุศย์' 2 จนท. อคส. คดีถุงมือยางแสนล้าน ส่วน 'พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์' ส่งหนังสือแจ้งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว เนื่องจากถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย.2563 เผยบุคคลทั้ง 3 ยังมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ทราบเรื่อง

"...ข้อต่อสู้ของ นายนำพล ที่ระบุว่าเหตุที่ต้องยึดสมุดบัญชีธนาคาร เอทีเอ็มพร้อมรหัสกดบัตร เพื่อนำมาชำระหนี้ค่าวัสดุ ก่อสร้าง ในกรณีที่ นายสมพงษ์ ไม่ชำระเงิน ก็เป็นเรื่องผิดปรกติวิสัย หารับฟังเป็นจริงไม่ เช่นเดียวกับข้อนำสืบต่อสู้ของจำเลยทั้งสามในข้ออื่น ๆ ก็มีน้ำหนักน้อยไม่อาจรับฟังหักล้างพยานโจทก์ได้..."

"...จากนิติสัมพันธ์ในการเช่าโกดังระหว่าง อคส. กับบริษัทค้าข้าวชื่อดังแห่งนี้ อดีตผู้บริหาร อคส. กับพวก ได้ใช้โอกาสที่ตนมีอำนาจการจัดการองค์การคลังสินค้าตามกฎหมาย โดยการทำสัญญาเช่าคลังสินค้าและบันทึกต่อท้ายสัญญาเช่าคลังย้อนหลัง คือ ปี 2562 ย้อนหลังไปปี 2557 ณ วันที่มีคำสั่งให้ยุติโครงการข้าวสารบรรจุถุง ซึ่งการทำสัญญาย้อนหลังดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนปฏิบัติ..."

"...ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า บริษัท ทราโฟพาร์ท จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงแบบระบายความร้อนด้วยน้ำมัน ภายใต้แบรนด์สินค้าของ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด แต่เพียงผู้เดียว เพิ่งได้รับงานจัดซื้อหม้อแปลง จำนวน 2 รายการ จาก กฟภ. หลังจากที่ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด และนายประภาส จันทรังษี จะถูกแจ้งเวียนเป็นผู้ทิ้งงาน แค่เพียง 1 วันเท่านั้น ..."

"...นางสาวประไพศรี เผ่าพันธุ์ หรือนางสาวภคภร เรขะกมลพร จำเลยที่ 1 มีความผิด จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 161 กระทง จำคุก 805 ปี มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม), 157 (เดิม), 161(เดิม)ประกอบมาตรา 83 เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกร ...