"...สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง บริษัท ปิ่นนิล รีไซเคิล จำกัด เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น เบื้องต้น นายสรพงษ์ ปิ่นนิล ยอมรับว่า รถขนขยะที่ถูกกทม.จับกุมดังกล่าว เป็นรถของบริษัท แต่บริษัทไม่เกี่ยวข้อง ลูกน้องเอาไปใช้นอกเวลาทำงาน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สะดวกชี้แจงในขณะนี้..."
กลายเป็นประเด็นร้อนเรื่องสิ่งแวดล้อมขึ้นมาทันที!
เมื่อปรากฎข่าวต่อสาธารณะว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้นำคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซุ่มจับรถขยะที่ลักลอบขนขยะมาทิ้งภายในโรงกำจัดขยะหนองแขม เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2563 หลังตรวจสอบพบความผิดปกติการใช้จ่ายงบประมาณ ในการกำจัดขยะที่ศูนย์กำจัดขยะหนองแขม ซึ่งปกติแล้วศูนย์กำจัดขยะที่หนองแขมจะรับขยะจาก 16 เขตในพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งธนบุรี ประมาณ 3,500 ตันต่อวัน โดยใช้งบประมาณ 2,100,000 บาท แต่ในเวลาต่อมาพบว่า มีการของบประมาณเพิ่มขึ้น วันละกว่า 1 แสนบาท จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศกิจ เฝ้าสังเกตการณ์รถที่ไม่ใช่ของกทม. นำขยะเข้ามาทิ้ง โดยไม่ได้ผ่านเครื่องตราชั่งน้ำหนัก เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
จนพบว่ามีรถที่ไม่ใช่ของกทม. นำขยะเข้ามาทิ้ง โดยไม่ได้ผ่านเครื่องตราชั่งน้ำหนัก เฉลี่ยวันละ 30 คัน ขนขยะเข้ามาทิ้ง ประมาณ 5 ตันต่อคัน รวมขยะที่นำมาทิ้ง 150 ตันต่อวัน ทำให้กทม.ได้รับความเสียหาย
เพราะกทม. จ้างเอกชนขนขยะมูลฝอย เพื่อนำไปกำจัดโดยการฝังกลบ โดยค่าขน ที่กทม.ต้องจ่าย อยู่ที่ราคาตันละ 680 บาท ซึ่งกทม. จะต้องรับภาระจ่ายค่าขนขยะ จำนวน 150 ตัน คิดเป็นเงิน 1 แสนกว่าบาทต่อวัน เดือนละ 3-4 ล้านบาท ปีละ 30-40 ล้านบาท
พล.ต.อ.อัศวิน ยังระบุด้วยว่า จากการตรวจยึดรถที่นำขยะมาทิ้งเป็นรถที่ขนขยะมาจากจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียง นำขยะมาทิ้ง จำนวน 9 คัน จึงมอบหมายให้นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม ไปแจ้งความร้องทุกข์ ที่สน.หนองค้างพลู เรียกค่าเสียหายกับผู้ทำสัญญา เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล หรือ เทศบาล ที่ว่าจ้างบริษัท ให้นำขยะมาทิ้ง รวมทั้งดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตลอดจนดำเนินการทางวินัย เนื่องจากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบ ถ้ามีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน มีส่วนร่วมในการทุจริตครั้งนี้ด้วย ซึ่งกทม. จะดำเนินการทั้งทางวินัยและดำเนินคดีอาญาให้ถึงที่สุดเช่นกัน เพราะเรื่องดังกล่าว นับเป็นเรื่องทุจริต มีการทำเป็นขบวนการโกงกินชาติบ้านเมือง ซึ่งไม่รู้ว่าทำมานานแค่ไหนแล้ว จากนี้กทม.จะตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมด เพื่อหยุดขบวนการนี้ให้ได้
อย่างไรก็ตามหลังการตรวจยึดและจับกุม คนขับรถยอมรับว่านำขยะมาทิ้งที่ศูนย์ดังกล่าวทุกวัน วันละ 1 เที่ยว ติดต่อกันมาประมาณ 4-5 ปีแล้ว กทม.จึงได้มีการเปรียบเทียบปรับคนขับรถทันทีเป็นเงิน 2,000 บาท ตามพ.ร.บ. รักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองปี 2535 ในข้อหาทิ้งขยะในที่สาธารณะ และจะดำเนินการตรวจสัญชาติหากพบว่าเป็นแรงงานต่างด้าว จะดำเนินคดีและส่งกลับประเทศต่อไป (อ่านประกอบ : ผู้ว่าฯ อัศวิน ลุยจับทุจริตลอบขนขยะทิ้งโรงกำจัดหนองแขม หลังพบงบพุ่งกว่า 3 ล้าน/เดือน)
@ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กำลังนำคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจสอบรถขยะที่ลักลอบขนขยะมาทิ้งภายในโรงกำจัดขยะหนองแขม เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2563
ล่าสุด ในช่วงเช้าวันที่ 17 ม.ค.2563 สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม เพื่อตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
ได้รับแจ้งจาก นายชาตรี ว่า ขณะนี้สำนักสิ่งแวดล้อมอยู่ระหว่างมอบหมายให้เจ้าหน้าที่สอบสวนติดตามรถขยะ ที่ขนขยะเข้ามาทิ้งโดยไม่ได้รับอนุญาต ว่าเป็นของเอกชนรายใดบ้าง หลังตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า เป็นรถที่ขนขยะมาจากจังหวัดสมุทรสาครทั้งหมด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
นายชาตรี ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตามระเบียบปฏิบัติการทิ้งขยะในศูนย์กำจัดขยะหนองแขม จะอนุญาตให้เฉพาะรถขยะของกทม. และรถขยะของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ที่ได้รับอนุญาตเสียค่าใช้จ่ายในการทิ้งขยะอย่างถูกต้องเข้ามาทิ้งได้เท่านั้น ไม่อนุญาตให้รถขยะภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาตนำขยะเข้ามาทิ้ง
"สำหรับรถขยะภายนอก ที่ตรวจสอบพบว่า ลักลอบขนขยะเข้ามาทิ้งนั้น กำลังให้เจ้าหน้าที่ไปดูต้นทางว่า รถขนขยะเหล่านี้ เข้าไปรับสัญญาขนขยะจากบริษัท เทศบาลหรือ อบต.แห่งใด เพื่อนำขยะไปทิ้ง ณ จุดปลายทาง แต่ไปไม่ถึงจุดนั้น เพราะใช้วิธีขนขยะเข้ามาทิ้งที่ศูนย์กำจัดขยะหนองแขม เพื่อให้ต้นทุนการทำธุรกิจถูกลงและจ่ายค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่หรือไม่"
เมื่อถามว่า บริษัท ปิ่นนิล รีไซเคิล จำกัด ที่ปรากฎชื่อในสติกเกอร์ หน้ารถขนขยะ ที่ถูกจับกุมได้ ระหว่าง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. นำคณะผู้บริหารสำนักสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสอบข้อมูล เป็นเจ้าของรถขนขยะที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบด้วยหรือไม่
นายชาตรี ตอบว่า "ก็เป็นหนึ่งในเอกชนที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบด้วย"
@ ภาพถ่ายรถขนขยะบริษัท ปิ่นนิล รีไซเคิล จำกัด ที่ถูกตรวจยึดและจับกุม เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น บริษัท ปิ่นนิล รีไซเคิล จำกัด จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ทุน 1,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 3/1 หมู่ที่ 6 ตำบลสวนหลวง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร แจ้งประกอบธุรกิจ รับซื้อและขายขยะทั่วไป เศษวัสดุที่ไม่ใช้แล้วและกากอุตสาหกรรมทุกประเภท นายสรพงษ์ ปิ่นนิล เป็นเจ้าของ ซึ่งมีรายงานข่าวในพื้นที่ว่า นายสรพงษ์เคยเป็นพนักงานดับเพลิงงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลสวนหลวงด้วย
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง บริษัท ปิ่นนิล รีไซเคิล จำกัด เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น
เบื้องต้น นายสรพงษ์ ปิ่นนิล ยอมรับว่า รถขนขยะที่ถูกกทม.จับกุมดังกล่าว เป็นรถของบริษัท แต่บริษัทไม่เกี่ยวข้อง ลูกน้องเอาไปใช้นอกเวลาทำงาน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สะดวกชี้แจงในขณะนี้
ข้อมูลในเฟซบุ๊ก ปิ่นนิล รีไซเคิล ของ บริษัท ปิ่นนิล รีไซเคิล จำกัด แจ้งว่า ประกอบธุรกิจ รับจ้างกำจัดขยะทั่วไปและรับกำจัดขยะกากอุตสาหกรรมทุกชนิดพร้อมใบ รง.4 ประเภท.106 จากกระทรวงอุตสาหกรรม..ประเภทเศษผ้าปนเปื้อนสารเคมีและน้ำมัน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/