"... จากการสอบสวนเส้นทางการเงินซื้อข้าว ของ ปปง.พบว่า มีบัญชีที่มีการรับโอนเงินจากโรงสีหรือกลุ่มผู้ค้าข้าว ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคลังสินค้าที่เก็บข้าวของรัฐบาลไทยในโครงการรับจำนำข้าว และได้มีการระบายข้าวจากคลังสินค้าดังกล่าว ตามสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีจำนวนมาก โดยที่บุคคลเจ้าของบัญชีดังกล่าว ไม่ได้จ่ายเงินค่าข้าวให้กับกรมการค้าต่างประเทศโดยตรง และบัญชีที่มียอดการนำฝากเงินมูลค่าสูง คือ บัญชีของนายสุธี บัญชีของนายนิมล รักดี และบัญชีของนางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์..."
นับตั้งแต่ปี 2559-2562 คณะกรรมการธุรกรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจํานําข้าวและการระบายข้าว แบบรัฐต่อรัฐ รายนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง กับพวก ไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 15 ครั้ง รวมทรัพย์สินทั้งสิ้น 2,192 รายการ มูลค่า 16,139,343,528.07 บาท กับอีก 2,632,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (1 ดอลล่าร์ต่อ 33 บาท = 86,856,000 บาท) เบ็ดเสร็จประมาณ 16,226,199528 บาท
คือ ข้อมูลสำคัญที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว
ในปัจจุบัน มีทรัพย์สินหลายส่วน ของ 'นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง กับพวก ที่ ปปง. ทยอยยื่นเรื่องให้อัยการฟ้องร้องต่อศาลแพ่งให้ยึดทรัพย์ตกเป็นสมบัติของแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจคือ ภายใต้แผนปฏิบัติการไล่ล่าเงินทรัพย์สมบัติที่นายอภิชาติ และพวก ได้รับไปจากคดีทุจริตจำนำข้าวให้คืนกลับมาเป็นสมบัติของแผ่นดินของ ปปง.ดังกล่าว มีตรวจสอบพบข้อมูลพฤติการณ์ของ บุคคลและนิติบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินจำนวนมาก ในลักษณะที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย
และมีข้อมูลสำคัญหลายส่วนที่สาธารณชนอาจไม่เคยรับทราบมาก่อน รวมถึงบทบาทสถานะที่แท้จริง ของบุคคลและนิติบุคคลบางรายว่าทำไมถึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับโครงการทุจริตจำนำข้าวได้
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบรวบรวมข้อมูลเชิงลึกส่วนนี้ มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบเป็นทางการอีกครั้ง
ในตอนแรกนี้ ขอเปิดประเดิมเริ่มต้น ที่ตัวละครหลักสำคัญในคดีนี้ คือ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด
@ บทบาท 'สยามอินดิก้า-ลูกน้อง-คนใกล้ชิด' เสี่ยเปี๋ยง
ในการสอบสวนคดีทุจริตโครงการระบายข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อสาธารณชนกันไปแล้ว ว่า บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ถูกก่อตั้งขึ้นโดย นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง ก่อนจะถอนชื่อออกไปในภายหลัง
บทบาทสำคัญของ บริษัท สยามอินดิก้า ฯ ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ถูกระบุว่า เป็นบริษัทที่ถูกจัดตั้งขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวจักรสำคัญในการนำข้าวจากสต็อกรัฐ แทนรัฐวิสาหกิจจากประเทศจีน ในราคาถูก ก่อนจะมาปล่อยขายให้กับเอกชนไทยราคาแพง ฟันกำไรส่วนต่างจำนวนมหาศาล
หลักฐานสำคัญ ที่บ่งชี้ให้เห็นว่า รัฐวิสาหกิจจากประเทศจีน ไม่ได้เป็นผู้รับซื้อข้าวตามข้อตกลง จีทูจี ที่ทำไว้กับรัฐบาลไทย คือ เส้นทางการเงินซื้อข้าว ที่พบว่าล้วนแล้วมีที่มาจากคนในบริษัทสยามอินดิก้าแทบทั้งสิ้น
คนในบริษัทสยามอินดิก้า ที่ว่าก็คือ นายลิตร พอใจ นายสุธี เชื่อมไธสง และนายสมคิด เอื้อนสุภา
จากการสอบสวนของ ปปง.พบว่า นายลิตร พอใจ นายสุธี เชื่อมไธสง และนายสมคิด เอื้อนสุภา เป็นพนักงานในบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด
นายลิตร พอใจ มีสถานะเป็นพนักงานขับรถให้กับนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร อีกด้วย
@ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร
นอกจากนี้ นายลิตร และนายสมคิด ยังปรากฎชื่อเป็นตัวแทนของบริษัท ไห่หนาน เกรน แอนด์ ออยล์ อินดัสเทรียล เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท Guangdong Stationery & Sporting Goods Import & Export Corporation รัฐวิสาหกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวจีทูจี ของรัฐบาลไทย โดยได้รับมอบอำนาจในการเข้ามารับข้าวในสต็อกรัฐบาลออกไปขายต่อให้กับกลุ่มผู้ส่งออกข้าวในประเทศด้วย
@ เส้นทางการเงินซื้อข้าว
จากการสอบสวนเส้นทางการเงินซื้อข้าว ของ ปปง.พบว่า มีบัญชีที่มีการรับโอนเงินจากโรงสีหรือกลุ่มผู้ค้าข้าว ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับคลังสินค้าที่เก็บข้าวของรัฐบาลไทยในโครงการรับจำนำข้าว และได้มีการระบายข้าวจากคลังสินค้าดังกล่าว ตามสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีจำนวนมาก โดยที่บุคคลเจ้าของบัญชีดังกล่าว ไม่ได้จ่ายเงินค่าข้าวให้กับกรมการค้าต่างประเทศโดยตรง และบัญชีที่มียอดการนำฝากเงินมูลค่าสูง คือ บัญชีของนายสุธี บัญชีของนายนิมล รักดี และบัญชีของนางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์
ซึ่งสอดคล้องกับการตรวจสอบที่พบว่า แคชเชียร์เช็คที่สั่งจ่ายเงินกรมการค้าต่างประเทศที่มีนายสมคิดเป็นผู้ซื้อ มีการนำเงินมาจากบัญชีของนายสุธี บัญชีของนายนิมล บัญชีของนางสางเรืองวัน และบัญชีของบริษัทสิราลัย ด้วย
ขณะที่ นายนิมล รักดี หรือ ที่คนในวงการข้าวเรียกกันว่า "เสี่ยโจ" เป็นมือขวาของ นายอภิชาติ
นางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์ เป็นลูกน้องนายอภิชาติ เคยถือหุ้นในบริษัท บริษัท เพรซิเดนท์ เกรนไซโล จำกัด ในเครือ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง และเข้ามาร่วมถือหุ้นในบริษัท สยามอินดิก้า
ส่วนบริษัท สิราลัย จำกัด ปัจจุบันมีชื่อว่า บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด เป็นบริษัท ที่ก่อตั้งขึ้นด้วยลูกและภรรยาของ นายอภิชาติ ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งจากข้อมูลส่วนนี้ ชี้ให้เห็นว่า เส้นทางเงินที่นำมาใช้ในการซื้อข้าว ล้วนมาจาก คนในบริษัท สยามอินดิก้า และคนใกล้ชิด นายอภิชาติ แทบทั้งสิ้น
จากการสอบสวนของ ปปง. ยังพบข้อมูลทางการเงินที่สำคัญของ บริษัท สยามอินดิก้าฯ ด้วย กล่าวคือ
ในช่วงปี 2552 -2555 บริษัทฯ มีเงินฝากเข้าบัญชีเพียงปีละ 700 ถึง 2,700 ล้านบาท
ในปี 2556 มีเงินฝากเข้าบัญชีเพิ่มขึ้นมากเป็นปีละ 4,400 ล้านบาท
ปี 2557 มีเงินฝากเข้าบัญชีสูงที่สุดปีละประมาณ 17,705 ล้านบาท
ในปี 2558 เฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก มีเงินฝากเข้าบัญชี 5,200 ล้านบาท
และเมื่อตามไปตรวจสอบงบการเงินของบริษัท พบว่า
ในงบการเงินปี 2553 มีรายได้ประมาณ 4,820 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 184 ล้านบาท
ในงบการเงินปี 2554 มีรายได้ 4,444 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 150 ล้านบาท
ในงบการเงินปี 2555 มีรายได้ประมาณ 10,530 ล้านบาท กำไรสุทธิ 76 ล้านบาท
ในงบการเงินปี 2556 มีรายได้ประมาณ 14,189 ล้านบาท กำไรสุทธิ 130 ล้านบาท
ทำให้เห็นว่าก่อนช่วงปี 2555 บริษัทฯ มีการเคลื่อนไหวทางการเงินมูลค่าโดยรวมน้อย เมื่อเทียบกับการเคลื่อนไหวทางการเงินในช่วงปี 2556 -2557 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มโครงการระบายข้าวจีทูจี
เมื่อพิจารณาประกอบยอดเงินหมุนเวียนของกลุ่มผู้กระทำความผิด พบว่า มีจำนวนเงินสูงกว่าจำนวนที่จ่ายให้กับกรมการค้าต่างประเทศ เป็นจำนวนมาก
ยิ่งไปกว่านั้น จากการสอบถามผู้ประกอบการค้าข้าวรายอื่น ให้การยืนยันว่า ในช่วงที่มีการรับจำนำข้าว ผู้ค้าข้าวในประเทศรายอื่น ไม่สามารถซื้อข้าวได้เนื่องจากข้าวไปอยู่ในโครงการรับจำนำทั้งหมด
แต่กลับพบว่า บริษัท สยามอินดิก้า มียอดเงินจากการประกอบธุรกิจหมุนเวียนในบัญชีเป็นยอดที่เพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนที่จะมีโครงการรับจำนำข้าว
และจากการสอบสวนเส้นทางการเงินในบัญชีธนาคารต่างๆ ของนายสุธี พบว่า มีเงินที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการระบายข้าวจำนวนมากเป็นหลักหมื่นล้านบาท และจากการตรวจสอบช่วงระหว่างวันที่ 20 พ.ย.2555 -25 กุมภาพันธ์ 2557 น่าเชื่อว่ามีการถอนเงินสดจากบัญชีนายสุธี และทำธุรกรรมต่อเนื่องโดย ฝากเข้าบัญชีของบริษัทสยามอินดิก้าด้วย (ปัจจุบันนายสุธี อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมตัวคดีระบายข้าวจีทูจี)
ปปง. จึงเชื่อว่า บริษัท สยามอินดิก้า ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากการกระทำความผิดในโครงการรับจำนำข้าว และต้องมีการยื่นฟ้องศาล ขอยึดทรัพย์ตกคืนกลับมาเป็นสมบัติของแผ่นดินต่อไป
ส่วนจะติดตามกลับคืนมาได้แค่ไหน ต้องดูรอตัวเลขที่ชัดเจนกันอีกครั้ง
(ติดตามเจาะปฏิบัติล่าเงินทุจริตจำนำข้าวหมื่นล้านคืนจากกลุ่มเสี่ยเปี๋ยง : เครือข่ายสยามอินดิก้า (2) ในสัปดาห์หน้า)
อ่านประกอบ :
พฤติการณ์‘ลิตร พอใจ’จากคนขับรถ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ถึงผู้รับมอบอำนาจ-มือจ่ายเช็คคดีจีทูจีเก๊
เจาะคำพิพากษาดูบทบาท‘สุธิดา’ตัวละครสำคัญดูแลถุงเงินสยามอินฯคดีข้าวจีทูจีเก๊
ถึงคิว‘สยามอินดิก้า’!เช็คหมื่นล.มัดจีทูจีเก๊-คำพิพากษาชี้ซื้อข้าวต่อ บ.ไฟน์ฯฟังไม่ขึ้น
INFO:จำแนกครบ17จำเลย-โทษเรียงคนคดีทุจริตข้าวจีทูจีเจ๊งหมื่นล.ยกฟ้อง 8-ออกหมายจับ3
ส่งเอกสารครั้งละ2พันบ.!พฤติการณ์ ‘ปาล์ม’ผู้รับมอบอำนาจรัฐวิสาหกิจจีนคดีจีทูจีเก๊
‘โจ’ดีล‘วีระวุฒิ’ขาย‘สมคิด’เบิกข้าวให้!ล้วงคำวินิจฉัยองค์คณะฯทำไมต้องลงโทษโรงสีคดีจีทูจีเก๊?
ไม่รู้‘หมอโด่ง’เอาข้าวจีทูจีมาขาย!ล้วงเหตุผลศาลฎีกาฯยกฟ้อง7โรงสี-เอกชน
ไม่เอกฉันท์ยกฟ้องโรงสีคดีจีทูจีเก๊ คำวินิจฉัยองค์คณะฯชี้ซื้อต่อ‘โจ’ผิดปกติ-อัยการจ่ออุทธรณ์
คำพิพากษาชำแหละ‘โจ’มือขวา‘เสี่ยเปี๋ยง’ ตัวละครสำคัญรับบทนายหน้าเบิกข้าวคดีจีทูจีเก๊
ชัดๆคำพิพากษาศาลฉบับเต็ม!ชำแหละพฤติการณ์‘ภูมิ-บุญทรง’คดีจีทูจีเก๊
จนท.พาณิชย์เล่าหมดเปลือก!คำพิพากษาฉบับเต็มพฤติการณ์‘บิ๊ก ขรก.’คดีข้าวจีทูจีเก๊
ยอมให้‘เสี่ยเปี๋ยง’เชิด!เจาะคำพิพากษา ‘รัตนา-เรืองวัน’2กก.สยามอินฯคดีข้าวจีทูจีเก๊
เช็คพันล.จ่ายค่าข้าว!พฤติการณ์‘ลูกเสี่ยเปี๋ยง’ คดีจีทูจีเก๊-ก่อนล่องหนในค่ายสุรสีห์?
ยอมให้‘เสี่ยเปี๋ยง’เชิด!เจาะคำพิพากษา ‘รัตนา-เรืองวัน’2กก.สยามอินฯคดีข้าวจีทูจีเก๊
ชัดๆคำพิพากษาศาลฉบับเต็ม!ชำแหละพฤติการณ์‘ภูมิ-บุญทรง’คดีจีทูจีเก๊
จนท.พาณิชย์เล่าหมดเปลือก!คำพิพากษาฉบับเต็มพฤติการณ์‘บิ๊ก ขรก.’คดีข้าวจีทูจีเก๊
ถึงคิว‘สยามอินดิก้า’!เช็คหมื่นล.มัดจีทูจีเก๊-คำพิพากษาชี้ซื้อข้าวต่อ บ.ไฟน์ฯฟังไม่ขึ้น
ลูกน้องผู้ยอม‘นาย’จนติดคุก!เจาะพฤติการณ์‘สมคิด เอื้อนสุภา’คนซื้อเช็คหมื่นล.คดีจีทูจีเก๊
รูดม่านคดีจีทูจีเก๊ชาติเจ๊งหมื่นล.!คำพิพากษาชำแหละ‘ภูมิ-บุญทรง-บิ๊ก ขรก.-ก๊วนเปี๋ยง’
INFO:จำแนกครบ17จำเลย-โทษเรียงคนคดีทุจริตข้าวจีทูจีเจ๊งหมื่นล.ยกฟ้อง 8-ออกหมายจับ3
ไม่ขายผ่านCOFCO-หลักฐานศุลกากรมัดจีทูจีเก๊!พลิกคำพิพากษาฉบับเต็มคดี‘ภูมิ-บุญทรง’
ต้นฉบับหาย-ปิดชื่อ‘วีระวุฒิ’ไม่ส่ง ป.ป.ช.สอบ!ความพยายามกรมการค้า ตปท.อุ้มจำเลยจีทูจีเก๊?
กรมการค้า ตปท.ปิดชื่อ‘วีระวุฒิ’!ข้อมูลใหม่คดีจีทูจีเก๊ก่อนศาลคุกหนักบิ๊ก รมต.-เสี่ยเปี๋ยง
ศาลฎีกาฯ จำคุก บุญทรง 42 ปี ภูมิ 36 ปี เสี่ยเปี๋ยงอ่วม 48 ปี ชดใช้ 1.6 หมื่นล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/