"...คดีนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 2555 ฝ่ายปกครองเข้าไปจับกุมผู้กระทำความผิด ในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นฝ่ายปกครองก็มีการส่งสำนวนคดีให้อัยการฟ้องตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่อัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง ซึ่งตามขั้นตอนกฎหมาย ป.วิอาญา จะต้องส่งเรื่องให้ผู้ว่าฯ พิจารณาสั่งสำนวนตามความเห็นอัยการว่าจะไม่สั่งฟ้องหรือจะทำความเห็นแย้งสั่งฟ้อง แต่อัยการกลับส่งสำนวนไปให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8... ซึ่งในส่วนของผม เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ไม่เคยทราบเรื่องเกี่ยวกับขั้นตอนการส่งเรื่องที่ผิดพลาดดังกล่าว และปัจจุบันสำนวนการสอบสวนคดีนี้ ก็ยังไม่ถูกส่งมาที่ผมเลย ช่องโหว่ที่ผิดพลาดนี้ จึงอาจทำให้คนบางกลุ่ม ใช้เป็นช่องทางในการเข้าไปแอบอ้างชื่อเพื่อเรียกรับเงินวิ่งเต้นคดีได้.."
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบกรณีมีผู้นำคลิปเสียงสนทนาความยาวกว่า 21 นาที ของผู้หญิงรายหนึ่ง ระบุสถานะตนเองในคลิปเสียงว่า เป็นลูกน้องนักธุรกิจต่างประเทศ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกระทำความผิดบุกรุกที่สาธารณะในจังหวัดแห่งหนึ่ง กับผู้ชายรายหนึ่ง กำลังเจรจาต่อรองเรื่องการจ่ายเงินเพื่อแลกเปลี่ยนกับการช่วยวิ่งเต้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ทำความเห็นแย้งเห็นตามความเห็นของอัยการที่จะไม่สั่งฟ้องคดีนี้ ในวงเงิน 10 ล้านบาท ไปร้องเรียนต่ออัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อให้สอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่คลิปเสียงสนทนาดังกล่าว ถูกนำไปเผยแพร่ส่งแชร์ต่อตามห้องกลุ่มไลน์อัยการด้วย (อ่านประกอบ : EXCLUSIVE : ฉบับเต็ม! คลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10ล.วิ่งเต้นคดีรุกที่สาธารณะ, แฉคลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10 ล.วิ่งเต้นผู้ว่าฯ ไม่สั่งฟ้องคดีรุกที่สาธารณะ)
ขณะที่ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ออกมายืนยันกับสื่อมวลชน ว่า ถูกแอบอ้างชื่อในคลิปเสียงดังกล่าว และมอบหมายให้นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ. เมือง ภูเก็ต แล้ว (อ่านประกอบ : โวยแอบอ้างชื่อ! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต มอบรองฯ แจ้งความร้องทุกข์ปมคลิปเสียงเรียกเงิน 10ล.)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ. เมือง ภูเก็ต ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2562 ที่ผ่านมา และมีการลงบันทึกรายงานประจำวันรับแจ้งความไว้เป็นหลักฐานด้วย
โดยเนื้อหาบันทึกรายงานประจำวัน ระบุสาระสำคัญว่า นายภัคพงศ์ และ นายสุพจน์ ถูกแอบอ้างชื่อ จากบุคคลคนหนึ่ง ที่ไปเจรจาต่อรองเรียกเงินจากตัวแทนบริษัทเอกชน ที่ถูกจับกุมในข้อหาร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง อันเป็นการทำลายป่าและยึดถือครอบครอง ให้เป็นอันตรายแก่ที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางอัยการจังหวัดภูเก็ตได้เสนอสำนวนกรณีสั่งไม่ฟ้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพิจารณา ระบุตัวเลขเงินที่เรียกรับจำนวน 7-8 หลัก นำมาจ่ายเพื่อให้มีคำสั่งไม่ฟ้องคดี ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นเหตุให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเสียหาย ทั้งที่ไม่เคยได้รับทราบและไม่เคยเรียกร้องเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้ใด ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังจากคลิปดังกล่าว จึงมาลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแสดงความสุจริต เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนเองหรือป้องกันส่วนได้เสียของผู้เสียหาย (ดูเอกสารประกอบ)
ขณะที่ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า เกี่ยวกับกรณีนี้ มีตัวแทนบริษัทเอกชน ชื่อว่า 'การ์ตูน' มาพบตนและรองผู้ว่าฯ โดยนำคลิปเสียงสนทนามาสอบถามหาความจริงว่ามีการเรียกเงินเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ตนได้ตอบปฏิเสธไปว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ไม่เคยไปพูดคุยหรือตกลงอะไรกับใคร ก่อนจะมอบหมายให้รองผู้ว่าฯ ไปบันทึกประจำวันแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมทำรายงานแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาคือปลัดกระทรวงมหาดไทยรับทราบเรื่องไว้แล้ว
@ นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
"คดีนี้เกิดขึ้นในช่วงปี 2555 ฝ่ายปกครองเข้าไปจับกุมผู้กระทำความผิด ในคดีบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นฝ่ายปกครองก็มีการส่งสำนวนคดีให้อัยการฟ้องตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่อัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้อง ซึ่งตามขั้นตอนกฎหมาย ป.วิอาญา จะต้องส่งเรื่องให้ผู้ว่าฯ พิจารณาสั่งสำนวนตามความเห็นอัยการว่าจะไม่สั่งฟ้องหรือจะทำความเห็นแย้งสั่งฟ้อง แต่อัยการกลับส่งสำนวนไปให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เมื่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พิจารณาแล้วมีความเห็นแย้งให้สั่งฟ้อง จึงต้องมีการส่งสำนวนไปให้อัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาชี้ขาด แต่ อสส.พิจารณาแล้ว เห็นว่า อัยการส่งสำนวนไปผิดที่ แทนที่จะส่งเรื่องไปให้ผู้ว่าฯ กลับไปส่งให้ตำรวจสั่งสำนวน จึงตีเรื่องคืนกลับมาให้ดำเนินการให้ถูกต้อง ซึ่งในส่วนของผม เองเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ไม่เคยทราบเรื่องเกี่ยวกับขั้นตอนการส่งเรื่องที่ผิดพลาดดังกล่าว และปัจจุบันสำนวนการสอบสวนคดีนี้ ก็ยังไม่ถูกส่งมาที่ผมเลย ช่องโหว่ที่ผิดพลาดนี้ จึงอาจทำให้คนบางกลุ่ม ใช้เป็นช่องทางในการเข้าไปแอบอ้างชื่อเพื่อเรียกรับเงินวิ่งเต้นคดีได้"
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในบันทึกรายงานประจำวันของ สภ. เมือง ภูเก็ต ที่นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มอบหมายให้ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ มีการระบุ ชื่อ -นามสกุล ของคนชื่อ การ์ตูน ตัวแทนบริษัทเอกชน ที่อ้างว่าถูกเรียกเงินวิ่งเต้นคดีไว้ชัดเจน
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา อยู่ระหว่างตรวจสอบยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลชื่อ การ์ตูน เมื่อได้รับทราบความชัดเจนแล้ว จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบในตอนต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
แฉคลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10 ล.วิ่งเต้นผู้ว่าฯ ไม่สั่งฟ้องคดีรุกที่สาธารณะ
EXCLUSIVE : ฉบับเต็ม! คลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10ล.วิ่งเต้นคดีรุกที่สาธารณะ
โวยแอบอ้างชื่อ! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต มอบรองฯ แจ้งความร้องทุกข์ปมคลิปเสียงเรียกเงิน 10ล.