
โชว์หนังสือ ดีเอสไอ ส่งสำนวนอัยการฟ้องคดีขุดบ่อรุกที่สาธารณะอุบลฯ ในส่วน 'คนขาย' ก่อนหลบหนีถูกหมายจับ แจ้งข้อกล่าวหาหนักความผิดฐานยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐสาธารณสมบัติแผ่นดินประชาชนใช้ร่วมกัน ส่วนบริษัทครอบครัว 'สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล' รมว.อว ผู้ซื้อ แยกเป็นอีกคดี ปัจจุบันอยู่ระหว่างสอบสวนข้อมูล ยังไม่ได้มีแจ้งข้อกล่าวหา
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกการสอบสวนคดีบริษัทครอบครัว น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขุดบ่อน้ำบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พบว่า ดีเอสไอ ได้รับเรื่องสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 154/2562 ได้สรุปสำนวน การสอบสวนและมีความเห็นควรสั่งฟ้อง นายธรรมรงณ์ ทองแดง ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้ยึดถือครอบครอง สาธารณประโยชน์ “หาดสวนยา” บ่อกักเก็บน้ำบ่อที่ 1 เนื้อที่ 10-1-37.7 ไร่ ผู้ต้องหาหลบหนีถูกออกหมายจับ และส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 สำหรับผู้ถูกกล่าวหารายอื่น คือ บริษัทแป้งมันเอี่ยมอีสานอุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งมี น.ส.สุดาวรรณ และคนในครอบครัวถือหุ้นในฐานะผู้ซื้อที่ดินจาก นายธรรมรงณ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ให้แยกทำการสอบสวนเป็นอีกคดี คดีพิเศษที่ 119/2566 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อมูล ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา

- รมต.รบ.แพทองธาร ถือหุ้น! กังขา DSI สอบคดีบิ๊กเอกชนขุดบ่อน้ำรุกที่สาธารณะอุบลฯ ล่าช้า
- ป.ป.ช.ยันคืนสำนวนคดีบิ๊กเอกชนขุดบ่อรุกที่สาธารณะให้ DSI ปี 62 - รมต.ไม่ได้ถือหุ้นแล้ว
- ‘ศุภชัย’เปิดชื่อ'สุดาวรรณ' โวยDSI ดองคดี บ.ครอบครัว'รมต.’ ขุดบ่อรุกที่สาธารณะใกล้หมดอายุ
- ไม่ดองคดี! DSI ยันส่งสำนวนกล่าวหากรณีนายทุนรุกที่ทำเลเลี้ยงสัตว์อุบลฯ ให้อัยการแล้ว
- ศุภชัย ใจสมุทร: คดีบริษัท รมต.อว.รุกที่สาธารณะ DSI อาจเข้าข่ายละเว้นปฏิบัติหน้าที่
- กลัวกระทบบริษัท! 'สุดาวรรณ' ขอไม่ตอบ DSI สอบคดีธุรกิจครอบครัวขุดบ่อรุกที่สาธารณะ
- ผู้ต้องหาหนี! DSI แจงสอบคดีบ.ครอบครัวรมต.รุกที่-แยกสำนวนนายกเทศฯ สีวิเชียร-พวก เพิ่ม
- เจาะ 3 สำนวน DSI สอบคดีขุดบ่อรุกที่สาธารณะอุบลฯ รอแจ้งข้อกล่าวหา 'รมต.อว.’คนในครอบครัว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เกี่ยวกับกรณีการสั่งฟ้อง นายธรรมรงณ์ ทองแดง ผู้ขายที่ดินให้กับบริษัทแป้งมันเอี่ยมอีสานอุตสาหกรรม จำกัด นั้น ได้รับการยืนยันข้อมูลเป็นเอกสาร ว่า ดีเอสไอ ได้ทำหนังสือ ที่ ยธ 0809/903 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ถึงอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อส่งสำนวนให้อัยการฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายระบุเป็นคดีพิเศษที่ 154/2562 กล่าวหา นายธรรมรงณ์ ทองแดง ผู้ต้องหา ในความผิดฐานยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน โดยมิได้มีสิทธิครอบครอง หรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 9 ประกอบมาตรา 108 ทวิ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ความผิดฐานยึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 54 มาตรา 55 ประกอบมาตรา 72 ตรี แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และความผิดฐานทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ตามมาตรา 360 แห่งประมวลกฎหมายอาญา (ดูเอกสารประกอบ)

อนึ่ง เกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกบริษัทแป้งมันเอี่ยมอีสานอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ซื้อที่ดินต่อจากนายธรรมรงณ์ ทองแดง นั้น ดีเอสไอ พบว่าในช่วงเกิดเหตุ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ร่วมเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นด้วย ที่ผ่านมา ได้พยายามรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารและพยานวัตถุ สอบสวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ อ่านแปลภาพถ่าย ตรวจสอบตำแหน่งที่ดินและการใช้ประโยชน์ในที่ดิน นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย (เจ้าหน้าที่รัฐ และนิติบุคคล) มีการดำเนินการให้ความเป็นธรรมตามที่ผู้ต้องหาที่ 10 ร้องขอ โดยให้สอบพยานเพิ่มเติม จำนวน 1 ราย ตามที่ผู้ต้องหาที่ 1 ร้องขอ และมีการสอบพยานเพิ่มเติมตามที่ผู้ต้องหาที่ 1 ร้องขออีก 1 ราย แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาที่ 2,ที่ 3 และที่ 4 แต่ในส่วนผู้ต้องหาที่ 2-3 ขอเลื่อนเพื่อนัดหมาย
เบื้องต้น คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีการประชุมร่วมกับพนักงานอัยการสอบสวนร่วมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 เพื่อพิจารณาประเด็นขอแยกดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนายธรรมรงณ์ ทองแดง (ผู้ขาย) ซึ่งทำสัญญาซื้อขายที่ดินสาธารณประโยชน์บริเวณพื้นที่เกิดเหตุในท้องที่หมู่ที่ 3 ตำบลสีวิเชียร อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ฉบับลงวันที่ 23 ธันวาคม2556 กับบริษัท แป้งมันเอี่ยมอีสานอุตสาหกรรม จำกัด (ผู้ซื้อ)
จากพยานหลักฐานพบว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน ประกอบกับพฤติการณ์การซื้อขายที่ดินแสดงให้เห็นว่านายธรรมรงณ์ เป็นผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นกระทำความผิดฐานเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐอันเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกัน โดยไม่มีสิทธิครอบครองหรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 ทวิ
คณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นว่า การกระทำ ของนายธรรมรงณ์ เป็นการกระทำตามความผิดแยกต่างหากจากกันกับผู้ถูกกล่าวหารายอื่น
เมื่อมีการสละการครอบครองตามหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินฉบับลงวันที่ 23 ธันวาคม 2556 การกระทำของนายธรรมรงณ์ จึงขาดตอนจากการกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหารายอื่น และอายุความเริ่มนับตั้งแต่วันดังกล่าว ซึ่งกรณีดังกล่าว จะครบกำหนดอายุความสิบปีในวันที่ 23 ธันวาคม 2566 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 95 (3) ประกอบกับไม่มีพฤติการณ์ว่าผู้ต้องหาร่วมกันกระทำความผิดกับผู้ถูกกล่าวหารายอื่น
ดังนั้น คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีมติที่ประชุมเห็นควรแยกสำนวนการสอบสวนสำหรับผู้ถูกกล่าวหารายอื่นเป็นอีกเลขคดีหนึ่ง โดยต่อมาได้อนุมัติขอออกเลข เป็นคดีพิเศษที่ 119/2566 และปัจจุบันยังไม่สามารถแจ้งข้อหากับ ผู้ถูกกล่าวหารายที่ 2 ,3 และ 4 ซึ่งเป็นกลุ่มกรรมการผู้ถือหุ้นบริษัทฯ หนึ่งในนั้นมีชื่อ นางสาวสุดาวรรณ รวมอยู่ด้วย
สำหรับ ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ ที่มีการเปิดเผยไปแล้ว มีอยู่ 4 คนคือ 1.บริษัท แป้งมันเอี่ยมอีสาน จำกัด 2.นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรัฐมนตรี 3.นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และ 4.น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.อว. ในรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ทุกคนเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน
อย่างไรก็ดี คดีนี้ ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาชี้ขาดว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิด ผู้ถูกกล่าวหาทุกรายยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
