เป็นทางการ! ป.ป.ช.มีมติชี้มูลผิดอาญา-วินัยร้ายแรง 2 อัยการภูเก็ต คดีคลิปเสียงฉาวเรียกรับเงินนักธุรกิจแลกวิ่งเต้นไม่ทำความเห็นแย้งฟ้องคดีบุกรุกที่สาธารณะอุทยานแห่งชาติสิรินาถ
..........................
จากกรณีนายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด 2 อัยการใน จ.ภูเก็ต กรณีปรากฎคลิปเสียงเจรจาต่อรองเรียกรับเงินจากนักธุรกิจเพื่อแลกเปลี่ยนกับการช่วยวิ่งเต้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ไม่ทำความเห็นแย้งเห็นตามความเห็นของอัยการที่จะไม่สั่งฟ้องในคดีกระทำความผิดบุกรุกที่สาธารณะในอุทยานแห่งชาติสิรินาถจังหวัดภูเก็ต ในวงเงิน 10 ล้านบาท โดยอัยการที่ถูกชี้มูลความผิดในคดีนี้ มีจำนวน 2 ราย รายแรกคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด 9 : 0 เสียง ส่วนรายที่ 2 มีมติชี้มูลความผิด 5:4 เสียง (อ่านประกอบ : ยืนยันมติ ป.ป.ช. ชี้มูลอัยการภูเก็ต 2 ราย คดีคลิปเสียงฉาวเรียกเงินนักธุรกิจ 10 ล.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 สำนักงาน ป.ป.ช. เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 8 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดภูเก็ต กับพวก ร่วมกันเรียกรับเงินจากตัวแทนของบริษัทเอกชน เพื่อช่วยเหลือทางคดี
ตามสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ระบุว่า เรื่องกล่าวหานายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 8 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดภูเก็ต กับพวก ร่วมกันเรียกรับเงินจากตัวแทนของบริษัทเอกชน เพื่อช่วยเหลือทางคดี คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติมอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน จากการไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2555 กรมอุทยานแห่งชาติได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย กล่าวหาบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต และกรรมการของบริษัทดังกล่าว ว่ากระทำความผิดในข้อหาร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าและเข้ายึดถือครอบครองป่าโดยตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมาเมื่อคณะทำงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง และได้ส่งสำนวนไปให้อัยการจังหวัดภูเก็ตเพื่อพิจารณามีคำสั่ง ต่อมาบริษัทเอกชนและกรรมการของบริษัทดังกล่าวได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการเจ้าของสำนวน จึงได้มีการเสนอสำนวนคดีไปยังอธิบดีอัยการภาค 8ซึ่งอธิบดีอัยการภาค 8 มีคำสั่งไม่ฟ้องบริษัทเอกชนและกรรมการของบริษัทดังกล่าว และได้ส่งสำนวนคดีไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8แต่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ โดยเสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดซึ่งอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีดังกล่าวนายอำเภอเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนจึงอยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 จึงส่งสำนวนกลับคืนมาให้สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตเพื่อที่สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตจะได้ส่งสำนวนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพิจารณาความเห็นของพนักงานอัยการ โดยสำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตได้รับหนังสือดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 นายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ ในฐานะอัยการผู้เชี่ยวชาญ รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดภูเก็ตในขณะนั้นได้โทรศัพท์แจ้งพนักงานอัยการซึ่งเคยเป็นพนักงานอัยการเจ้าของสำนวนคดีดังกล่าวให้นัดหมายตัวแทนของบริษัทเอกชนเพื่อให้มาพบในวันที่ 2 กรกฎาคม 2562 หลังจากนั้นตัวแทนของบริษัทเอกชนได้มาพบนายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ ที่ห้องทำงานอัยการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีนายวันฉัตร ชุณหถนอมในฐานะอัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตในขณะนั้น อยู่ในห้องและร่วมสนทนาด้วย โดยนายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจเสนอว่าจะไปพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตให้มีคำสั่งไม่เห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการ ซึ่งหลังจากนั้นยังได้มีการติดต่อกันอีกครั้งหนึ่งและได้มีการเรียกรับเงินจำนวนหนึ่งจากบริษัทดังกล่าว เพื่อกระทำการช่วยเหลือคดี
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่า การกระทำของนายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 201 ประกอบมาตรา 83 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมาตรา 173 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
การกระทำของนายวันฉัตร ชุณหถนอม มีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 157 และมาตรา 201 ประกอบมาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 171 มาตรา 172 และมาตรา 173 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังประธานกรรมการอัยการ เพื่อพิจารณาดำเนินการทางวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการกับนายธรรมะ หรือชินโชติ สอนใจ และนายวันฉัตร ชุณหถนอม ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) และ (2) ประกอบมาตรา 98 วรรคสอง แล้วแต่กรณีต่อไป
อ่านประกอบ :
ยืนยันมติ ป.ป.ช. ชี้มูลอัยการภูเก็ต 2 ราย คดีคลิปเสียงฉาวเรียกเงินนักธุรกิจ 10 ล.
อสส. เช็นคำสั่งย้าย 11 ขรก. -อัยการภูเก็ต เชียงราย ติดโผ สะพัด นอกฤดู
แฉคลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10 ล.วิ่งเต้นผู้ว่าฯ ไม่สั่งฟ้องคดีรุกที่สาธารณะ
EXCLUSIVE : ฉบับเต็ม! คลิปเสียงอ้างชื่อ'อัยการ' จว.ดัง เรียก10ล.วิ่งเต้นคดีรุกที่สาธารณะ
โวยแอบอ้างชื่อ! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต มอบรองฯ แจ้งความร้องทุกข์ปมคลิปเสียงเรียกเงิน 10ล.
โชว์บันทึกตร.! ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ร้องทุกข์คลิปเสียงแอบอ้างเรียก10ล. - ตัวละครเอกชื่อ 'การ์ตูน'
ก่อนโดนขอ10ล.! เปิดตัวเอกชนคลิปเรียกเงินล้มคดีรุกที่อุทยานฯสิรินาถ โชว์รายได้ 738 ล.
ขอพบผู้ว่าฯ ภูเก็ตแล้ว! อสส.ตั้งกก.สอบอัยการคลิปเรียกเงิน10ล.ภายใน30วัน-ย้ายด่วน 24ชม.
แฉคลิปเรียก10ล.ชุดสอง! เรียกตัวพบห้องทำงาน อ้าง อสส. ตั้งธงฟ้องแล้ว มีอัยการนั่งคุย 2 ราย
อ้างทำแผลอยู่! อัยการคดีคลิป10 ล. ปัดแจง 'อิศรา' ด้าน คกก.สอบปากคำผู้ว่า-รองฯ ภูเก็ตแล้ว
'วัชรพล' เผย ป.ป.ช. ลุยสอบคลิปเสียงอัยการ10ล.แล้ว-'การ์ตูน' แฉอีกโทรเจรจาขอยุติเรื่อง
เปิดเนื้อหาสุดท้ายคลิปเรียก10ล.! ลีลา 'อัยการ B' ชี้ช่องหยุดคดี100%-อ้างธงผู้ว่าฯ ฟ้องแน่
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/