
ป.ป.ช.เผยแพร่ผลคดีกล่าวหา 'ยงยศ ปาละนิติเสนา' อดีตรองปธ.อคส. ฮั้วประมูลไซโลเก็บข้าวช่วงปี 52 เอื้อประโยชน์ให้เอกชน เป็นทางการ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาลงโทษจำคุก 15 ปี พร้อมพวก 1 ราย ที่เหลือโดนคนละ 10 ปี-ปรับเอกชน 2 แสน
จากกรณีปรากฏข่าวในช่วงเดือนกรกฏาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 อ่านคําพิพากษาในคดีหมายเลขดําที่ อท109, 112/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อท70, 21 /2568 หรือคดีฮั้วประมูลการจัดหาไซโลเก็บข้าว เมื่อปี 2552 เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ระหว่างอัยการสูงสุด โดยพนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 โจทก์ นายยงยศ ปาละนิติเสนา อดีตรองประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า(อคส.) จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 7 คน ลงโทษจำคุกคนละหลายปีนั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายยงยศ ปาละนิติเสนา กับพวกรวม 7 คน ในคดีนี้ เป็นทางการ ระบุข้อกล่าวหา คือ กำหนดคุณสมบัติและขอบเขตการดำเนินงานของโครงการ (TOR) และคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการจัดหาไซโลเพื่อเก็บรักษาข้าวขององค์กรคลังสินค้าเพื่อช่วยเหลือผู้เสนอราคาบางราย ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2501 มาตรา 8 และ 11 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อ หน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 12 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา
รายชื่อจำเลย ทั้ง 7 ราย ได้แก่ นายยงยศ ปาละนิติเสนา จำเลยที่ 1 นางสาวผ่องผิว เด่นดวง จำเลยที่ 2 นายสุวิช ศรบัลลังก์ จำเลยที่ 3 นางสาวสุจิตรา ทิพย์อักษร หรือนางสาวศิพิมพ์ ศรบัลลังก์ จำเลยที่ 4 นางสาวณัฐฐิรา ลิ่ววรุณพันธ์ จำเลยที่ 5 นางสาวเคียงจันทร์ หาญเพชรสกุล จำเลยที่ 6 และบริษัทจีจีเอฟ (ไทยแลนด์) จำกัด จำเลยที่ 7
โดยเมื่อวันที่ 16 กรกฏาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาดังนี้
1.จำเลยทั้ง 7 ราย มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 และจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2501 มาตรา 8,11 จำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 มีความผิดตามมาตรา 8 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86 จำเลยที่ 5 กับที่ 6 มีความผิดตาม มาตรา 8 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86 และมาตรา 11
2. การกระทำของจำเลยทั้งเจ็ดเป็นการกระทำเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามมาตรา 12 ลงโทษ จำเลยที่ 3 ถึงที่ 7 ตาม มาตรา 12 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีบทลงโทษหนักที่สุด ตาม ป.อ. มาตรา 90
จำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 15 ปี
จำคุกจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 คนละ 10 ปี และปรับจำเลยที่ 7 จำนวน 200,000 บาท
ถ้าจำเลยที่ 7 ไม่ชำระค่าปรับให้ดำเนินการตาม ป.อ. มาตรา 29
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 เห็นชอบตามที่อัยการสูงสุดจะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้อีก
สำหรับ พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ มีความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

