
เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา ‘เรืออากาศเอกชรินทร์’ อดีตวิศวกรโยธา บ.วิทยุการบินฯ อนุมัติจัดซื้อจัดจ้างวิธีพิเศษเอื้อประโยชน์ให้เอกชนเข้าเป็นคู่สัญญา ป.ป.ช.ฟ้องเอง ล่าสุด ศาลฏีกายืนยกฟ้องหลังศาลชั้นต้น สั่งลงโทษจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา -พวก 1 รายโดน 4 ปี ตามเดิม คดีถึงที่สุดแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา เรืออากาศเอกชรินทร์ ทองเปี่ยม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งวิศวกรโยธา บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 3 ราย กรณีกล่าวหาว่าทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารสถานีเรดาร์ปฐมภูมิ พร้อมโครงสร้างเสาเหล็ก ท่าอากาศยานหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 ว่า มีมูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีเอง หลังจากอัยการมีความเห็นแย้งในสำนวนไม่ฟ้องคดีให้
โดยศาลฎีกา มีคำพิพากษายืน ยกฟ้องตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาว่า เรืออากาศเอกชรินทร์ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90 ลงโทษจำคุก 6 ปี ไม่รอการลงโทษ
ส่วนจำเลยที่ 2 (ไม่เปิดเผยรายชื่อ) และจำเลยที่ 3 (ไม่เปิดเผยรายชื่อ) มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และ พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 90 ลงโทษจำคุกรายละ 4 ปี ไม่รอการลงโทษ
ทั้งนี้ให้นับโทษจำคุกของ เรืออากาศเอกชรินทร์ และจำเลยที่ 3 (ไม่เปิดเผยรายชื่อ) ต่อจากโทษคดีหมายเลขแดงที่ อต 2/2561 ของศาลอาญากรุงเทพใต้
โดยศาลชั้นต้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกับพวก รู้อยู่แล้วว่ามีเอกชนได้เข้าไปทำการก่อสร้างก่อนที่จะมีการอนุมัติโรงการ และอนุมัติให้จัดจ้าง แต่กลับสั่งการให้ดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษขึ้นภายหลัง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนรายดังกล่าวเป็นผู้มีสิทธิเข้าทำสัญญา กับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
ต่อมา ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง เรืออากาศเอกชรินทร์ จำเลยที่ 1 ในความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กร หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และยกฟ้องจำเลยที่ 2 (ไม่เปิดเผยรายชื่อ) นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น
ก่อนที่ ศาลฎีกา จะมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวข้างต้น
ปัจจุบันคดีถึงที่สุดแล้ว
เท่ากับว่าคดีนี้ จำเลยที่ 3 (ไม่เปิดเผยรายชื่อ) ถูกลงโทษจำคุก 4 ปี เพียงรายเดียว
อ่านประกอบ :
