
เผยความคืบหน้าล่าสุด คดีทุจริตจ้างออกแบบตึก สตง.ใหม่ ปี 52 วงเงิน 25.8 ล้าน หลัง ป.ป.ช.ชี้มูล 'คุณหญิงจารุวรรณ-พวก' ส่งเรื่องฟ้องร้องดำเนินตามขั้นตอนทางกฏหมาย แต่ฝ่ายอัยการเห็นแย้งตั้งข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวน อยู่ระหว่างตั้งคณะทำงานร่วม 2 ฝ่าย
จากกรณี สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่า ในช่วงปี 2567 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กับพวก กรณีทุจริตจ้างออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ วงเงิน 25.8 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ. 2552 อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่ง
ขณะที่งานว่าจ้างโครงการฯ นี้ มีวงเงิน 25,800,000 บาท เกิดขึ้นในช่วงที่ สตง. เริ่มต้นทำโครงการเดิมบนที่ดินของกรมธนารักษ์ เนื้อที่ 15 ไร่ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองปทุมธานี ก่อนที่จะย้ายการก่อสร้างมาที่ ย่านจัตุจักร และเกิดถล่มพังถล่มลงมาหลังเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา

ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศราถึงความคืบหน้าคดีนี้ ว่า ภายหลังจากที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงมติชี้มูลความผิด คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กับพวก และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี
ปรากฏว่าฝ่ายอัยการมีความเห็นแย้งว่า สำนวนการไต่สวนคดีนี้ยังมีข้อไม่สมบูรณ์ จึงจะต้องมีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างฝ่ายอัยการและฝ่าย ป.ป.ช. ขึ้นมาเพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ร่วมกันต่อไป แต่ถ้าหากไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ ป.ป.ช. ก็มีสิทธิที่จะยื่นเรื่องฟ้องร้องคดีนี้เอง
สำหรับคดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมพิจารณาสำนวนไต่สวนและมีมติดังนี้
1. การกระทำของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12
2. การกระทำของนายอุทัย ทองคุ้ม มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
3. การกระทำของกิจการร่วมค้า คาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น และนายตระกูล เฮงบำรุง ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันกิจการร่วมค้าฯ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด
นอกจากการส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี ป.ป.ช.ยังให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสองรวมทั้งแจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับกระทำของกิจการร่วมค้าคาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น และนายตระกูล เฮงบำรุง ให้กรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้เป็นผู้มีลักษณะเป็นการทิ้งงาน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
