"...มีจำนวนสำนักงานเขตในกทม. ที่เกิดปัญหาคดีทุจริตการจัดซื้อของขวัญวันเด็กปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และศาลมีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ถึง 7 เขต รวมจำนวนจำเลยหลายสิบคน โดนคุกคนละหลายปี ไม่รอลงอาญา ขณะที่ทั้ง 7 คดี มีจำเลยคนเดียวกันเข้าไปเกี่ยวข้อง คือ "นายพศิน หมอกยา"..."
คดีทุจริตการจัดซื้อของขวัญวันเด็กปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาบางราย ของสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.)
กำลังถูกจับตามองมากขึ้นว่า กระบวนการทุจริตที่เกิดขึ้น อาจจะไม่ใช่แค่เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มบุคคลเท่านั้น หากแต่รูปแบบการดำเนินการอาจจะมีการวางแผนทำเป็นขบวนการใหญ่ ภายใต้ฝีมือของบุคคลกลุ่มเดียวกัน
ภายหลังสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบฐานข้อมูลคดีทุจริตสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า ปัจจุบันศาลมีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำเลยในคดีนี้ไปแล้ว 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มแรก : สำนักงานเขตดุสิต
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาตัดสินคดีกล่าวหา นายสมชาย เลี่ยวชวลิต อดีตผู้อำนวยการเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และพวก จัดซื้อของขวัญวันเด็กปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาบางราย ปรากฏชื่อ นางเรวดี จันทเวช เป็นจำเลยที่ 1, นางสุจิตรา นิลกานุวงศ์ จำเลยที่ 2 , นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 และ นางสาววิชุดา อ่วมจิตร์ จำเลยที่ 4 (ไม่ปรากฏชื่อ นายสมชาย เลี่ยวชวลิต เป็นจำเลยด้วย)
คดีนี้ จำเลยทั้ง 4 ราย ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 11 , 12 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2566
ส่วนการพิจารณาตัดสินคดีของศาลฯ เห็นว่า นางเรวดี จันทเวช จำเลยที่ 1 , นางสุจิตรา นิลกานุวงศ์ จำเลยที่ 2 , นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 และนางสาววิชุดา อ่วมจิตร์ จำเลยที่ 4 มีความผิดตามกฎหมาย ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 11
ลงโทษ นางเรวดี จันทเวช จำเลยที่ 1 , นางสุจิตรา นิลกานุวงศ์ จำเลยที่ 2 จำคุกคนละ 5 ปี ส่วน นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 และนางสาววิชุดา อ่วมจิตร์ จำเลยที่ 4 จำคุก คนละ 3 ปี 4 เดือน
นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 และนางสาววิชุดา อ่วมจิตร์ จำเลยที่ 4 ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้คนละหนึ่งใน 3 ลงโทษ จำคุก คนละ 2 ปี 2 เดือน 20 วัน ให้นับโทษต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่น
กลุ่มสอง : สำนักงานเขตพระโขนง
เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาตัดสินคดีกล่าวหา นายเกรียงพล พัฒนรัฐ อดีตผู้อำนวยการเขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร และพวก ทุจริตการจัดซื้อของขวัญวันเด็กปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาบางราย ปรากฏชื่อ นายนพดลหรือชนธัญ พืชสิงห์ เป็นจำเลยที่ 1 นางปณณพร แผ้วสกุณี จำเลยที่ 2 นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 นายยุทธนา อ่วมวจิตร์ จำเลยที่ 4 นายเดชา บุญญาภิรมย์ จำเลยที่ 5 และ นายสุเชษฐ์ มณีไกร จำเลยที่ 6 (ไม่ปรากฏชื่อ นายเกรียงพล พัฒนรัฐ เป็นจำเลยด้วย)
คดีนี้ จำเลยทั้ง 6 ราย ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา 157 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 4 , 11 , 12 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2566
ส่วนการพิจารณาตัดสินคดีของศาลฯ เห็นว่า นายนพดลหรือชนธัญ พืชสิงห์ จำเลยที่ 1 นางปณณพร แผ้วสกุณี จำเลยที่ 2 มีความผิดตาม พ.ร.บ. ฮั้ว มาตรา 11, 12 ประกอบ ป.อ. มาตรา 83 นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 นายยุทธนา อ่วมวจิตร์ จำเลยที่ 4 นายเดชา บุญญาภิรมย์ จำเลยที่ 5 และ นายสุเชษฐ์ มณีไกร จำเลยที่ 6 มีความผิดตามพ.ร.บ. ฮั้ว มาตรา 11 และ 12 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86
การกระทำของจำเลยทั้งหกเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทแต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามพ.ร.บ. ฮั้ว มาตรา 11 ประกอบ ป.อ.มาตรา 83 และลงโทษจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 ตาม พ.ร.บ. ฮั้ว มาตรา 11 ประกอบ ป.อ. มาตรา 86 เพียงบทเดียวตาม ป.อ.มาตรา 90
ลงโทษจำคุก นายนพดลหรือชนธัญ พืชสิงห์ จำเลยที่ 1 และนางปณณพร แผ้วสกุณี จำเลยที่ 2 คนละ 5 ปี
ลงโทษจำคุกนายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 , นายยุทธนา อ่วมวิจิตร์ จำเลยที่ 4 นายเดชา บุญญาภริมย์ จำเลยที่ 5 , นายสุเชษฐ์ มณีไกร จำเลยที่ 6 คนละ 3 ปี 4 เดือน
นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 นายเดชา บุญญาภิรมย์ จำเลยที่ 5 และนายสุเชษฐ์ มณีไกร จำเลยที่ 6 ให้การเป็นประโยชน์ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม
ลดโทษให้ นายพศิน หมอกยา จำเลยที่ 3 นายเดชา บุญญาภริมย์ จำเลยที่ 5 และนายสุเชษฐ์ มณีไกร จำเลยที่ 6 เหลือคนละ 2 ปี 2 เดือน 20 วัน
เมื่อพิจารณารายละเอียดทั้ง 2 คดี จะพบว่ามีความเหมือนกัน ดังนี้
1. ข้อกล่าวหาเหมือนกันคือ จัดซื้อของขวัญวันเด็กปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาบางราย
2. นายพศิน หมอกยา ปรากฏชื่อเป็นจำเลยทั้ง 2 คดี นางสาววิชุดา อ่วมจิตร์ จำเลยคดีแรก และ นายยุทธนา อ่วมวิจิตร์ จำเลยคดีสอง มีนามสกุลเดียวกัน
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นฐานข้อมูลคดีทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช. ย้อนหลัง พบว่า นอกจากคดีในส่วนของ สำนักงานเขตดุสิต และ สำนักงานเขตพระโขนง ที่เกิดปัญหาคดีทุจริตการจัดซื้อของขวัญวันเด็กปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ดังกล่าวข้างต้นแล้ว
ในส่วนสำนักงานเขตดอนเมือง สำนักงานเขตหนองจอก สำนักงานเขตลาดกระบัง สำนักงานเขตบางกอกน้อย สำนักงานเขตวัฒนา ก็เกิดปัญหาคดีทุจริตการจัดซื้อของขวัญวันเด็กปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เช่นเดียวกัน (ดูข้อมูลในตารางประกอบ)
จากข้อมูลตามตารางข้างบน จะเห็นได้ว่า มีจำนวนสำนักงานเขตในกทม. ที่เกิดปัญหาคดีทุจริตการจัดซื้อของขวัญวันเด็กปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และศาลมีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ถึง 7 เขต รวมจำนวนจำเลยหลายสิบคน โดนคุกคนละหลายปี ไม่รอลงอาญา
ขณะที่ทั้ง 7 คดี มีจำเลยคนเดียวกันเข้าไปเกี่ยวข้อง คือ "นายพศิน หมอกยา" (ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเป็นใครมาจากไหน?)
ชี้ให้เห็นว่ากระบวนการทุจริตที่เกิดขึ้นคดีนี้ ไม่ใช่เรื่องเฉพาะกลุ่มบุคคล หากแต่รูปแบบการดำเนินการน่าจะมีการวางแผนทำเป็นขบวนการใหญ่ ภายใต้ฝีมือของบุคคลกลุ่มเดียวกันอย่างชัดเจน ซึ่งนับเป็นข้อมูลสำคัญที่ไม่เคยถูกเปิดเผยเป็นทางการมาก่อน
ส่วนข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมานำเสนอต่อไป