เผยมติ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ตีตกคดี 'จรัส หรือจรัสร์ ศรีมูล' อดีตนายอำเภอหนองไผ่-พวก ทุจริตโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล 4 โครงการ ชี้แค่บกพร่องเพียงเล็กน้อย - เรียกเก็บเงินผู้รับจ้างช่วง 10 เปอร์เซ็นต์ หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้ว่ากระทำความผิดไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2567 เสียงเอกฉันท์ตีกตกข้อกล่าวหา นายจรัส หรือจรัสร์ ศรีมูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ กับพวก ทุจริตโครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบลของอำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2559 จำนวน 4 โครงการ และได้เรียกเก็บเงินจากผู้รับจ้างช่วง จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินค่าจ้างแต่ละโครงการ เพื่อให้ได้เข้าทำงานตามโครงการ
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้ว่ากระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
คดีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 13 ราย ได้แก่
(1) นายจรัส หรือจรัสร์ ศรีมูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายอำเภอหนองไผ่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1
(2) นายธงชัย ทองสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเกษตรอำเภอหนองไผ่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2
(3) นางสาวจรียา ท่างาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอหนองไผ่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3
(4) นายสุภีร์ ธนะสินธุ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรสำนักงานเกษตรอำเภอหนองไผ่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4
(5) นายประเสริฐ ชาญบรรพต ผู้แทนชุมชนหมู่ที่ 2 ตำบลท่าแดง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5
(6) นางภัทราพร เมืองปู่ ผู้แทนชุมชนหมู่ที่ 2 ตำบลท่าแดง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6
(7) นายประสิทธิ์ ขัตติยะ ผู้แทนชุมชนหมู่ที่ 12 ตำบลท่าแดง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7
(8) นายสายฝน จันทร์ชุ่ม ผู้แทนชุมชนหมู่ที่ 12 ตำบลท่าแดง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8
(9) นายมะลิ ทองชุ่ม ผู้แทนชุมชนหมู่ที่ 11 ตำบลท่าแดง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9
(10) นายชาลี ทองคง ผู้แทนชุมชนหมู่ที่ 11 ตำบลท่าแดง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10
(11) นายบัวผัน มีผล ผู้แทนชุมชนหมู่ที่ 14 ตำบลท่าแดง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11
(12) นางกิมไล้ สังข์จีน ผู้แทนชุมชนหมู่ที่ 14 ตำบลท่าแดง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12
(13) นายนิพล กองเตย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองช่าง องค์การบริหารส่วนตำบลท่าแดง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ดังนี้
1. คณะกรรมการตรวจการจ้างและผู้ควบคุมงาน มีการตรวจรับงานที่ไม่เป็นไปตามสัญญาและแบบรูปรายการละเอียดในสัญญา และมีการเบิกจ่ายเงินทั้งที่งานไม่ถูกต้องครบถ้วน จำนวน 4 โครงการ คือ
(1.1) โครงการซ่อมสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก หมู่ที่ 2 ตำบลท่าแดง
(1.2) โครงการต่อเติมซ่อมแซมถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก หมู่ที่ 12 ตำบลท่าแดง
(1.3) โครงการซ่อมสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก หมู่ที่ 11 ตำบลท่าแดง
(1.4) โครงการซ่อมสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก หมู่ที่ 14 ตำบลท่าแดง
2. ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้เรียกเก็บเงินจากผู้รับจ้างช่วง จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินค่าจ้างแต่ละโครงการ เพื่อให้ได้เข้าทำงานตามโครงการ
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีดังนี้
ทางการไต่สวนรับฟังได้ว่า
1. ข้อกล่าวหาว่าคณะกรรมการตรวจการจ้างและผู้ควบคุมงาน มีการตรวจรับงานที่ไม่เป็นไปตามสัญญาและแบบรูปรายการละเอียดในสัญญา และมีการเบิกจ่ายเงินทั้งที่งานไม่ถูกต้องครบถ้วน นั้น เห็นว่า โครงการตามมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (โครงการตำบลละ 5 ล้านบาท) ในโครงการซ่อมสร้างหรือต่อเติมซ่อมแซมถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) หมู่ที่ 2, 12, 11 และ 14 ตำบลท่าแดง ทั้ง 4 โครงการ มีการตรวจรับงานที่มีปริมาณครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในสัญญา สำหรับเรื่องความชำรุดของของพื้นผิวถนนในโครงการถนน คสล. หมู่ที่ 11 และหมู่ที่ 14 เห็นว่า อาจเกิดจากการดำเนินงานที่ไม่ได้มาตรฐานของผู้รับจ้าง แต่เกิดขึ้นภายหลังจากมีการตรวจรับงานแล้ว และทั้งสองโครงการดังกล่าวผู้รับจ้างได้เข้าดำเนินการแก้ไขซ่อมแซมงานภายในระยะเวลาประกันงานตามสัญญาเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ส่วนโครงการถนน คสล. หมู่ที่ 12 แม้จะปรากฏว่ามีการก่อสร้างถนนเป็นสองช่วง แต่เป็นการก่อสร้างตามสภาพพื้นที่จริงและตามความต้องการของชาวบ้าน โดยความยาวของถนน คสล. ทั้งสองช่วงรวมกันไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในสัญญา จึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ และชาวบ้านยังได้รับประโยชน์จากถนน คสล. ดังกล่าวอย่างเต็มที่ ในส่วนประเด็นเรื่องป้ายโครงการ ซึ่งพบว่าบางโครงการไม่ระบุรายละเอียดงานและบางโครงการระบุปริมาณงานไม่ครบถ้วน นั้น เห็นว่า เป็นเพียงการไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามหนังสือแจ้งแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นความบกพร่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และกรณีดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ เนื่องจากทุกโครงการมีป้ายติดตั้งไว้ และการก่อสร้างตามโครงการมีปริมาณงานครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในสัญญาและเอกสารเกี่ยวกับการจัดจ้าง
2. ข้อกล่าวหาว่านายอำเภอหนองไผ่มีการเรียกรับเงินจากผู้รับจ้างช่วง จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินค่าจ้างแต่ละโครงการ เพื่อให้ได้เข้าทำงานตามโครงการ นั้น เห็นว่า โครงการซ่อมสร้างหรือต่อเติมซ่อมแซมถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) หมู่ที่ 2, 12, 11 และ 14 ตำบลท่าแดง ทั้ง 4 โครงการ ดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีตกลงราคา ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยผู้รับจ้างตามสัญญาเป็นผู้ดำเนินงานตามโครงการด้วยตนเอง มิได้มีการจ้างผู้รับจ้างช่วงแต่อย่างใด และในการเข้าเป็นคู่สัญญาในแต่ละโครงการนั้น ผู้รับจ้างได้ยื่นเสนอราคาโครงการต่างๆ ไปยังอำเภอหนองไผ่ ตามรายละเอียดโครงการที่อำเภอหนองไผ่ปิดประกาศไว้ ซึ่งผู้รับจ้างแต่ละรายไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้รับจ้างในทุกโครงการที่เสนอราคาไป โดยจะได้รับเลือกให้เป็นผู้รับจ้างเฉพาะโครงการที่เสนอราคาต่ำสุดเท่านั้น ซึ่งทั้ง 4 โครงการข้างต้น ไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่ามีการเรียกเก็บเงินจากผู้รับจ้าง จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินค่าจ้างแต่ละโครงการเพื่อให้ได้เข้าทำงานตามโครงการ และผู้รับจ้างทุกรายได้รับเงินค่าจ้าง รวมทั้งเงินประกันสัญญาครบถ้วน โดยสำนักงานจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นผู้รับผิดชอบในขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินดังกล่าว
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 5 เสียง ว่าจากการไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้ว่า นายจรัส หรือจรัสร์ ศรีมูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นายธงชัย ทองสุข ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นางสาวจรียา ท่างาม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นายสุภีร์ ธนะสินธุ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นายประเสริฐ ชาญบรรพต ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 นางภัทราพร เมืองปู่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 นายประสิทธิ์ ขัตติยะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 นายสายฝน จันทร์ชุ่ม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 นายชาลี ทองคง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 นายบัวผัน มีผล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11 นางกิมไล้ สังข์จีน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 12 และนายนิพล กองเตย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 13 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำหรับนายมะลิ ทองชุ่ม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้ถึงแก่ความตายแล้ว เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2561 จึงให้เพิกถอนมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 126/2564 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่มีมติให้ไต่สวนนายมะลิ ทองชุ่ม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ