"... ในขณะที่ผู้ดำเนินการตามโครงการปรับปรุงช่อมแซมกนนลูกรังทั้ง 17 โครงการที่แท้จริง คือ นาย บ. และนาย พ. ซึ่งเป็นผู้ที่จัดซื้อดินลูกรัง ขนดิน และนำรถบรรทุกและรถแบ็คโฮเข้ามาปฏิบัติงานในโครงการทั้ง 17 โครงการ โดยได้รับการติดต่อและว่าจ้างจากหัวหน้าส่วนโยธา และยังได้บอกตกลงที่จะให้เครดิตค่าน้ำมันที่ใช้เติมรถยนต์บรรทุกให้แก่นาย บ. ก่อนแล้วจะนำไปหักกับเงินค่าจ้างที่นาย บ. จะได้รับในภายหลัง..."
กรณีเมื่อวันที่ 7 เม.ย.2567 เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายใต้การดำเนินงานของนายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 และเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนฯ จับกุมตัว นางสาวเจนจิรา วรรณรัตน์ อดีตผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัดภูมิเพ็ชร คอนสตรัคชั่น คู่สัญญาโดยวิธีพิเศษกับองค์การบริหารส่วนตำบลสามง่าม อ. อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ในโครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนนลูกรัง จำนวน 17 โครงการ ปีงบประมาณ 2555 โดยจับกุมได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 00.25 น. นั้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานพฤติการณ์การกระทำความผิดเบื้องต้น ของ นางสาวเจนจิรา วรรณรัตน์ ไปแล้วว่า นางสาวเจนจิรา เป็นอดีตผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัดภูมิเพ็ชร คอนสตรัคชั่น (เสร็จสิ้นการชำระบัญชี 18 พ.ค. 2560) คู่สัญญาโดยวิธีพิเศษกับองค์การบริหารส่วนตำบลสามง่าม อ. อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ในโครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนนลูกรัง จำนวน 17 โครงการ ปีงบประมาณ 2555 ขณะที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงปูนเขตรุ่งเรือง และห้างหุ้นส่วนจำกัดธรรมฤทัยก่อสร้าง คู่เทียบของห้างหุ้นส่วนจำกัดภูมิเพ็ชร คอนสตรัคชั่น ไม่เคยเข้ายื่นเสนอราคาในโครงการปรับปรุง ซ่อมแซมถนนลูกรังทั้ง 17 โครงการแต่อย่างใดและไม่อาจเข้าร่วมได้ เนื่องจากขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างทั้ง 17 โครงการดังกล่าว มิได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ,เอกสารประกอบใบเสนอราคาเป็นเอกสารของทั้งสองห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นเอกสารเก่า,ลายมือชื่อและตราประทับที่ปรากฏต่างไม่ใช่ลายมือชื่อของตัวแทนของทั้ง 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด,เอกสารของผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย (รวมถึงห้างหุ้นส่วนจำกัดภูมิเพ็ชร คอนสตรัคชั่น) นายจิรัฐิติภัค คลังเพ็ชร์ รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลสามง่าม เป็นผู้นำมาให้ผู้ช่วยเจ้าหน้าพัสดุจัดพิมพ์เอกสารเพื่อใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังพบว่านางสาวเจนจิราเป็นภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสของนายจิรัฐิติภัค ด้วย
พฤติการณ์ดังกล่าวจึงนำไปสู่การจับกุมจตัว นางสาวเจนจิรา ซึ่งเป็นไปตามตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ จ.11/2565 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ที่ระบุว่า น.ส.เจนจิราได้กระทำความผิด ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับพฤติการณ์ในการกระทำความผิดคดีนี้ของนางสาวเจนจิรา ว่า คดีนี้เกิดเหตุในช่วงวันที่ 5 เม.ย.2555 - 23 ส.ค.2555 ในปีงบประมาณ 2555 องค์การบริหารส่วนตำบลสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ได้รับการจัดสรรงบกลางโครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนนลูกรัง จำนวน 17 โครงการ
องค์การบริหารส่วนตำบลสามง่าม จึงได้มีคำสั่งที่ 75/2555 ลงวันที่ 5 เมษายน 2555 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจการจ้าง มี นายจิรัฐิติภัค คลังเพ็ชร์ รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลสามง่าม ร่วมด้วย
โดย โครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนนลูกรัง จำนวน 17 โครงการ ดังกล่าว ได้รับการอนุมัติให้จ้างเหมาปรับปรุงซ่อมแซมโคยวิธีพิเศษ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2555 มีห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูมิเพ็ชร คอนสตรัคชั่น โดยนางสาวเจนจิรา วรรณรัตน์ และ ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงปูนเขตรุ่งเรืองและห้างหุ้นส่วนจำกัด ธรรมฤทัยก่อสร้าง เป็นผู้เสนอราคา ทั้ง 17 โครงการ
ปรากฎว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดภูมิเพ็ชร คอนสตรัคชั่น โดยนางสาวเจนจิรา วรรณรัตน์ ได้เป็นผู้เข้าทำสัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลสามง่าม ทั้ง 17 โครงการ ตามสัญญาจ้างเลขที่ 18-34 /2555 ลงวันที่ 18 เมษายน 2555
โครงการปรันปรุงซ่อมแซมถนนลูกรัง จำนวน 17 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 18 พฤษภาคม 2555 คณะกรรมการตรวจการจ้างตรวจรับงานจ้าง เมื่อวันที่ 21-23 พฤษภาคม 2555 และมีการเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างเป็นที่เรียนร้อย เมื่อวันที่ 28-29 มิถุนายน 2555 และเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2555 แล้วแต่กรณี
แต่ในทางไต่สวนของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. พบว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงปูนเขตรุ่งเรือง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธรรมฤทัยก่อสร้าง ไม่เคยเข้ายื่นเสนอราคาในโครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนนลูกรัง ทั้ง 17 โครงการ ขององค์การบริหารส่วนตำบลสามง่ามแต่อย่างใด และไม่อาจมีการเข้ายื่นเสนอราคาได้ เนื่องจากขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างทั้ง 17 โครงการดังกล่าว มิได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ เอกสารประกอบใบเสนอราคาเป็นเอกสารเก่า ลายมือชื่อและตราประทับที่ปรากฏต่างไม่ใช่ของห้างฯ ทั้งสองแห่ง
เอกสารของผู้เสนอราคาทั้ง 3 ราย นายจิรัฐิติภัค คลังเพ็ชร์ รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลสามง่าม เป็นผู้นำมาให้ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พัสดุจัดพิมพ์เอกสารเพื่อใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูมิเพ็ชร คอนสตรัคชั่น ผู้เสนอราคาที่ได้รับการพิจารณาให้เข้าทำสัญญากับองค์การบริหารส่วนตำบลสามง่ามในโครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนนลูกรัง ทั้ง 17 โครงการนั้น มีหุ้นส่วนผู้จัดการคือ นางสาวเจนจิรา วรรณรัตน์ ซึ่งเป็นภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสของนายจิรัฐิติภัค อีกด้วย
@ ไม่ได้ทำงานเองให้ ผู้ที่จัดซื้อดินลูกรังทำให้
ในขณะที่ผู้ดำเนินการตามโครงการปรับปรุงช่อมแซมกนนลูกรังทั้ง 17 โครงการที่แท้จริง คือ นาย บ. และนาย พ. ซึ่งเป็นผู้ที่จัดซื้อดินลูกรัง ขนดิน และนำรถบรรทุกและรถแบ็คโฮเข้ามาปฏิบัติงานในโครงการทั้ง 17 โครงการ โดยได้รับการติดต่อและว่าจ้างจากหัวหน้าส่วนโยธา และยังได้บอกตกลงที่จะให้เครดิตค่าน้ำมันที่ใช้เติมรถยนต์บรรทุกให้แก่นาย บ. ก่อนแล้วจะนำไปหักกับเงินค่าจ้างที่นาย บ. จะได้รับในภายหลัง
โดยได้แจ้งให้นาย บ. ไปเติมน้ำมันที่สหกรณ์ผู้ใช้น้ำสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านวังลูกช้าง จำกัด ที่มี นาย ว. เป็นผู้ลงนามในหนังสือกู้เงิน ชื้อเชื่อสิ่งของกับสหกรณ์ และนายจิรัฐิติภัค เป็นผู้ทำสัญญาค้ำประกันการซื้อเชื่อดังกล่าวไว้ให้นาย บ. ใช้ในการปฏิบัติงานในโครงการดังกล่าวอีกด้วย
@ สถานะล่าสุด หจก.เมียนอกสมรส ชำระบัญชีเลิกห้างแล้ว
สำหรับข้อมูล ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภูมิเพ็ชร คอนสตรัคชั่น นั้น ในฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า จดทะเบียนจัดตั้ง 4 กันยายน 2544 ทุน 1,500,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 70/13 ถนนศรีมาลา ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร แจ้งประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง
ได้จดทะเบียนเลิกห้าง ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560
ณ วันจดทะเบียนเลิกห้าง ไม่ปรากฏชื่อ นางสาวเจนจิรา วรรณรัตน์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและร่วมถือหุ้น
ขณะที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 อนุมัติหมายจับ นางสาวเจนจิรา วรรณรัตน์ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา
@ หลบหนีไปอยู่บาห์เรน
ต่อมาสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช.ได้ประสานกับกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ในการเฝ้าระวังบุคคลตามหมายจับของสำนักงาน ป.ป.ช. จนสืบทราบว่าผู้ถูกกล่าวหารายดังกล่าว ซึ่งหลบหนีอยู่ต่างประเทศ (ราชอาณาจักรบาห์เรน) และกำลังจะเดินทางกลับเข้ามาภายในราชอาณาจักรไทย ในวันที่ 7 เมษายน 2567 เวลา 00.25 น. ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเมื่อถึงเวลาดังกล่าว นางสาวเจนจิรา ได้เดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 และเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนฯ จึงได้ทำการแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน แสดงหมายจับ แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิตามกฎหมาย และควบคุมตัวไปทำบันทึกการจับกุม พิมพ์ลายนิ้วมือจัดทำทะเบียนประวัติผู้ถูกกล่าวหา และดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 จากนั้น เจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนฯ ได้ควบคุมตัวผู้ถูกกล่าวหาไปส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 6 เพื่อดำเนินการฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6
แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ พนักงานอัยการ จึงได้ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 6 และผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อสู้คดีต่อไป
ขณะที่คดีนี้ ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด นายจิรัฐิติภัค คลังเพ็ชร์ นางสาวเจนจิรา วรรณรัตน์ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่