"...รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2562 มี น.ส.ธัญญา ถือหุ้นใหญ่สุด 40% (2 แสนหุ้น) น.ส.นิฏฐา 35% (1.75 แสนหุ้น) และ น.ส.วัฒนา เกษภู 25% (1.25 แสนหุ้น) แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2561 มีรายได้รวม 223,341 บาท ต้นทุนการขาย 136,407 บาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ 307,819 บาท รายจ่ายรวม 444,226 บาท ขาดทุนสุทธิ 220,885 บาท…”
........................................
เวียนมาถึงวันเสาร์อีกครั้ง กับการตรวจสอบทรัพย์สิน-ธุรกิจของ ‘คนเด่น-คนดัง’ ในรอบสัปดาห์
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องราวของ ‘ลูกสาวฝาแฝด’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ หลังจากมีบุคคล ‘บางฝ่าย’ นำเสนอข้อมูลวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการรับโอนเงินจากการขายที่ดินของ ‘บิดา’ พล.อ.ประยุทธ์ ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตำแหน่งนายกฯ เมื่อปี 2557 ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ประเด็นการขายที่ดินของ พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา บิดา พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงการจัดสรรเงินต่าง ๆ จากการขายที่ดินนั้น สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอไปครบถ้วนแล้วตั้งแต่ปี 2557 (อ่านประกอบ : เบื้องหลังข่าวเจาะ“ประยุทธ์”ขายที่ดิน 600 ล. โยงใย 22 บ.ลับ 7 หมื่นล.“เสี่ยเจริญ”)
เบื้องต้นเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง รับมอบอำนาจจาก น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา เข้าแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง ดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง กรณีมีการใช้ #ตามหาลูกประยุทธ์ ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายอภิวัฒน์ อ้างแถลงการณ์จาก น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา ชี้แจงข้อเท็จจริง 10 ข้อ เช่น ไม่เคยเปลี่ยนชื่อนามสกุล อยู่ประเทศไทยตลอด ใช้ชีวิตปกติเช่นประชาชนทั่วไป ไม่เคยเรียนที่ออสเตรเลีย ไม่เคยเรียนอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้เรียนปริญญาโท และไม่เคยสอบตก ไม่เคยพำนักในประเทศอังกฤษหรือประเทศอื่นใดเป็นเวลานาน ไม่เคยมีบัญชีธนาคารที่ต่างประเทศ
ส่วนประเด็นการโอนเงินจากการขายที่ดินดังกล่าวนั้น แถลงการณ์ น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา ระบุว่า บิดา (พล.อ.ประยุทธ์) โอนเงินให้ตั้งแต่ปี 2556 ไม่ใช่เรื่องใหม่หรือความลับใด บิดาเป็นผู้ชี้แจงเองและแจกแจงที่มาที่ไปของเงินอย่างชัดเจนในการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อย่างเปิดเผย ตั้งแต่เมื่อครั้งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2557 และยังปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อทั่วไปหลายครั้งแล้ว โดยเงินส่วนนี้มีที่มาจากการขายที่ดินของ พันเอก ประพัฒน์ จันทร์โอชา และมีการแบ่งทรัพย์สินภายในครอบครัว ซึ่งที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดของครอบครัวมามากกว่า 50 ปี (อ้างอิงแถลงการณ์ 10 ข้อดังกล่าวจาก บีบีซีไทย : https://www.bbc.com/thai/thailand-53995972)
ปัจจุบัน น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวฝาแฝดของ พล.อ.ประยุทธ์ ประกอบอาชีพอะไร-มีธุรกิจอะไรบ้าง ?
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา เป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นในบริษัทอย่างน้อย 1 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ได้แก่ บริษัท พอว์พอว์ อีโคเพ็ท จำกัด
บริษัทแห่งนี้จดทะเบียนเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2561 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจร้านขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ที่ตั้งบริษัทอยู่บริเวณ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
ปรากฏชื่อ น.ส.วัฒนา เกษภู น.ส.ธัญญา จันทร์โอชา และ น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา เป็นกรรมการ
รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2562 มี น.ส.ธัญญา ถือหุ้นใหญ่สุด 40% (2 แสนหุ้น) น.ส.นิฏฐา 35% (1.75 แสนหุ้น) และ น.ส.วัฒนา เกษภู 25% (1.25 แสนหุ้น)
แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2561 มีรายได้รวม 223,341 บาท ต้นทุนการขาย 136,407 บาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ 307,819 บาท รายจ่ายรวม 444,226 บาท ขาดทุนสุทธิ 220,885 บาท
มีสินทรัพย์รวม 484,887 บาท เป็นลูกหนี้การค้าสุทธิ 23,154 บาท สินค้าคงเหลือ 258,475 บาท สินทรัพย์หมุนเวียน 473,978 บาท ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 10,909 บาท สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 10,909 บาท มีหนี้สินรวม 205,772 บาท เป็นหนี้สินไม่หมุนเวียน 205,772 บาท
นี่คือข้อมูลทางธุรกิจของ น.ส.ธัญญา และ น.ส.นิฏฐา เท่าที่พอจะสืบค้นได้ในขณะนี้
ส่วนกรณีการแจ้งความฟ้องร้องเรื่องหมิ่นประมาทคงต้องรอผลสอบสวนจากตำรวจต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage