พลิกปูม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส จากวีรบุรุษนาแก สู่มือปราบ ‘กำนันเป๊าะ’ ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.แต่สอบตก เข้าพรรคเสรีรวมไทยได้เป็น ส.ส. สับเละ ‘บิ๊กตู่’ กลางสภา เคยนั่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง ยุค ‘ชวน-ทักษิณ’ ปัจจุบันนั่ง ปธ.กก.ตรวจสอบ บ.บีจีที คอร์ปอเรชั่นฯ ของคนสกุล ‘ธรรมวัฒนะ’
ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ชื่อของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ดูท่าจะได้รับการจับตาเป็นพิเศษ
เนื่องจากในช่วงอภิปรายคุณสมบัติผู้ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พูดจาได้อย่างดุเดือด อธิบายหว่านล้อมถึงพฤติการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในช่วงเป็นรัฐบาลเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาเป็นฉาก ๆ
โดยเฉพาะประโยคทอง “หากมีทหารมาเยี่ยมที่บ้านจะยิงใส่ เพราะมีปืนถูกกฎหมาย” รวมถึง “ผมรุ่นก่อนคุณประยุทธ์ 4 ปี จะมากลัวอะไรล่ะ ถ้ามาเรียกผม (ปรับทัศนคติ) ผมจะรับทัศนคติมันให้ดู”
เรียกเสียงฮือฮาในสภา-ได้ใจกองเชียร์ฝั่ง 7 พรรคร่วม ‘เพื่อไทย-อนาคตใหม่’ เป็นอย่างมาก
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org พลิกปูมบางแง่มุมที่หลายคนอาจยังไม่เคยทราบของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สาธารณชนรับทราบ ดังนี้
เบื้องต้น ประวัติโดยสังเขป พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ชื่อเล่นว่า ‘ตู่’ โด่งดังเป็นอย่างมากกับวีรกรรมช่วงรับราชการอยู่ที่ อ.นาแก จ.นครพนม ระหว่างปี 2515-2524 ได้ต่อสู้ปราบปรามฝ่ายคอมมิวนิสต์อย่างเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ จนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญรามมาลา เข็มกล้ากลางสมร และเหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1 ทำให้ประชาชนจำนวนมากยกย่องตั้งฉายาว่า ‘วีรบุรุษนาแก’
ชื่อเสียงของเขาขจรไกลอีกครั้ง เมื่อ 2537 พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์’ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ (ตำแหน่งขณะนั้น) สร้างวีรกรรมตรวจสอบ ‘กำนันเป๊าะ’ นายสมชาย คุณปลื้ม ผู้มากบารมีภาคตะวันออก ในคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินทิ้งขยะเขาไม้แก้ว ของเทศบาลตำบลแสนสุข จ.ชลบุรี ที่นายสมชายเป็นนายกเทศมนตรีอยู่ในขณะนั้น ส่งผลให้กลายเป็นข่าวโด่งดัง คดีความขึ้นโรงขึ้นศาล จนท้ายที่สุดศาลฎีกาพิพากษาจำคุก ‘กำนันเป๊าะ’ เป็นเวลา 5 ปี 4 เดือน
หลังจากนั้นบทบาทของเขาก็มีขึ้นมีลงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดในชีวิตตำรวจเมื่อปี 2550 ขึ้นแท่น ‘เบอร์ 1 กรมปทุมวัน’ ต่อมาปี 2551 ได้ถูกนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ออกจากราช กรณีถูกร้องเรียนเรื่องโยกย้ายตำรวจ อย่างไรก็ดีในปี 2553 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ยกเลิกคำสั่งของนายสมัครที่ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากราชการไว้ก่อน
ต่อมาปี 2555 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยไร้สังกัดพรรคในนาม ‘กลุ่มพลังกรุงเทพ’ แต่แพ้ให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กลับมามีบทบาทอย่างมากภายหลังรัฐประหารปี 2557 เนื่องจากได้วิพากษ์วิจารณ์ คสช. หลายประเด็น หลังจากนั้นเมื่อปี 2561 ได้ถูกเชิญเข้าพรรคเสรีรวมไทย และดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค กระทั่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคเสรีรวมไทย เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา
ข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี ในช่วงระหว่างปี 2537-2544 พล.ต.อ.เสรี เตมียเวส (ชื่อขณะนั้น) ถูกคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจอย่างน้อย 3 แห่ง ได้แก่
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2537 รัฐบาลนายชวน หลีกภัย (1) แต่งตั้ง พล.ต.ต.เสรี เตมียเวส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ชื่อ ยศ และตำแหน่งขณะนั้น) ดำรงตำแหน่งกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2544 รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (1) แต่งตั้ง พล.ต.ท.เสรี เตมียเวส (ชื่อ และยศขณะนั้น) ดำรงตำแหน่งกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2544 รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (1) แต่งตั้ง พล.ต.ท.เสรี เตมียเวส (ชื่อ และยศขณะนั้น) ดำรงตำแหน่งกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2562 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธานกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ บริษัท บีจีที คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แปรสภาพมาเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2550 ทุนปัจจุบัน 256,659,032 บาท แจ้งประกอบธุรกิจขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปและของใช้เบ็ดเตล็ด
มีนายนพดล ธรรมวัฒนะ (น้องชายนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีต ส.ส.พรรคประชากรไทย ปัจจุบันเสียชีวิต) เป็นประธานกรรมการ นายเกา โก๊ะ เชง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการ นางมัลลิการ์ ธรรมวัฒนะ นางนันทริกา ชันซื่อ น.ส.ดลนภา ธรรมวัฒนะ (บุตรนายนพดล) เป็นกรรมการ นายสุรพล วิรุฬหรักษ์ นายภาณุ คงแท่น และนายอุ้ยจิน ตัน เป็นกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ
รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด น.ส.ดลนภา ธรรมวัฒนะ ถือหุ้นใหญ่สุด 21.48% นายนพดล ธรรมวัฒนะ 13.13%
แจ้งงบการเงินล่าสุด เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2562 ไตรมาสที่ 1/2562 มีรายได้รวม 163 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 3.13 ล้านบาท
นี่เป็นเพียงเครื่องเคียงข้อมูลในอีกแง่มุมหนึ่งของการทำหน้าที่บอร์ดรัฐวิสาหกิจ และประธานกรรมการตรวจสอบบริษัทเอกชนในตลาดหลักทรัพย์ ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นอกเหนือจากเรื่องการรับราชการตำรวจ และต่อยอดมาเป็นนักการเมืองที่ใช้ถ้อยคำได้เผ็ดร้อนที่สุดในสภาผู้แทนราษฎรตอนนี้!
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/