‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง ป.ป.ช. สอบ ส.ส.โคตรเหล็กไหลพันล้าน ‘คฑาเทพ’ หน.พลังไทยรักไทย-‘มงคลกิตติ์’ ครอบครองพระเครื่องดังอื้อ แจ้งมูลค่าสูง ตั้งข้อสังเกตแจ้งลวงหรือไม่-มีหน่วยใดตีราคาให้ ชี้ต้องปิดช่องโหว่กันนักการเมืองเลี่ยงบาลี
จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส. โดยสื่อมวลชนตรวจสอบพบว่า นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย แจ้งทรัพย์สินอื่นเป็นโคตรเหล็กไหล และมหาเหล็กไหล รวม 2 ก้อน มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แจ้งทรัพย์สินอื่นเป็นพระเครื่องต่าง ๆ เช่น พระกริ่งปวเรศทองคำ 50 ล้านบาท พระสมเด็จวัดระฆัง 40 ล้านบาท พระสมเด็จไกเซอร์ 30 ล้านบาท เป็นต้น จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น (อ่านประกอบ : ยลโฉมของขลังพันล.! ‘โคตรเหล็กไหล’ 2 ก้อน ส.ส.คฑาเทพ หน.พลังไทยรักไทย, เดี๋ยวสมรสเดี๋ยวหย่า! ‘มงคลกิตติ์’แจ้งทรัพย์สิน 2 ‘เมีย’ 193 ล.-พระเครื่องดังเพียบ)
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวข้างต้น เป็นที่สงสัยและวิพากษ์วิจารณ์กันของสังคมไทยเป็นอย่างมากว่า มูลค่าทรัพย์สินต่าง ๆ ดังกล่าว เป็นการสร้างมูลค่าลวงขึ้นมาหรือไม่ มีหน่วยงานหรือองค์กรมาตรฐานใดให้ใบรับรองหรือไม่ หรืออาจเป็นกลเล่ห์ฉลของนักการเมืองที่อาจใช้เป็นข้ออ้างในการฟอกเงินเพื่อผ่องถ่ายทรัพย์สินแบบหลอกๆไปเป็นเงินสดในอนาคต หากมีเงินสดหรือทรัพย์สินอื่นงอกเงยขึ้นมาเกินกว่ารายรับที่พึงมีในขณะดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็จะใช้เป็นข้ออ้างได้ว่าได้จำหน่ายพระเครื่องหรือวัตถุมงคลดังกล่าวออกไปในราคาแพงตามที่ตั้งมูลค่าไว้ เป็นต้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ป.ป.ช. จะต้องมีระเบียบหรือหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการตรวจสอบมูลค่าของทรัพย์สินดังกล่าวของนักการเมือง เพื่อปิดช่องโหว่ของการเลี่ยงบาลีในการแสดงบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งหากนักการเมืองไม่สามารถแสดงหลักฐานใบรับรองมูลค่าของทรัพย์สินต่างๆได้ ก็สามารถชี้ได้เลยว่าเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ เพื่อเลี่ยงความจริงที่พึงต้องแจ้งให้ ป.ป.ช.ทราบ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน ม.109 วรรคสาม ประกอบ ม.114 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ซึ่งอาจมีโทษตาม ม.167 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ
“สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ ดําเนินการตาม ม.114 โดยการเสนอเรื่องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัย หรือ ป.ป.ช.ดำเนินการยื่นฟ้องเองตาม ม.80 โดยจะไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 23 ก.ย.62 เวลา 13.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี” นายศรีสุวรรณ กล่าว
อนึ่ง เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราถึงกรณีนี้ว่า ถือว่าเป็นมิติใหม่ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน โดย ป.ป.ช. จะจับตาเฝ้าระวังบุคคุลกลุ่มนี้เป็นพิเศษ และเตรียมวางกฎเกณฑ์ป้องกันถูกใช้เป็นแหล่งฟอกเงินด้วย (อ่านประกอบ : จับตาเป็นพิเศษ! ป.ป.ช.รับ ส.ส.แจ้งของขลังแพงเป็นมิติใหม่-วางเกณฑ์ป้องพวกหัวใสฟอกเงิน)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/