เปิดสมบัติ ‘มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์’ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แจ้งสมรส ‘พัทธนันท์’ เมียคนแรกปี’52 หย่าปี’53 ก่อนไปสมรส ‘ภคอร’ แต่หย่าปี’61 กลับไปแต่งเมียเก่าปี’62 แจ้งทรัพย์สินรวม 2 เมีย 193 ล้าน - พระเครื่องเพียบกว่าร้อยล้าน
จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ส.ส. ล็อตสุดท้าย จำนวน 80 ราย โดยรายชื่อที่น่าสนใจเช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แจ้งทรัพย์สิน 5.6 พันล้านบาทเศษ ให้เงินกู้ยืมแก่พรรคอนาคตใหม่ 191 ล้านบาทเศษ หรือแม้แต่นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย แจ้งของขลังเป็น ‘โคตรเหล็กไหล’ มูลค่า 1 พันล้านบาทนั้น (อ่านประกอบ : ยลโฉมของขลังพันล.! ‘โคตรเหล็กไหล’ 2 ก้อน ส.ส.คฑาเทพ หน.พลังไทยรักไทย, ทรัพย์สิน‘ธนาธร’ 5.6 พันล.ปล่อยกู้อนาคตใหม่ 191 ล.-'คฑาเทพ'มีโคตรเหล็กไหล พันล.)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2562 ระบุสถานะว่า สมรส แต่ที่น่าสนใจคือแจ้งทรัพย์สินของคู่สมรส และหญิงสาวที่เคยแต่งงานเมื่อปี 2556 และหย่าเมื่อปี 2561 ด้วย
นายมงคลกิตติ์ แจ้งในเอกสารประกอบบัญชีทรัพย์สินว่า จดทะเบียนสมรสครั้งแรกเมื่อปี 2552 กับ นางพัทธนันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช ต่อมาหย่ากันในปี 2554 หลังจากนั้นนายมงคลกิตติ์จดทะเบียนกับ น.ส.ภคอร จันทรคณา (ไม่ระบุว่าสมรสกันปีใด) หลังจากนั้นจดทะเบียนหย่าเมื่อปี 2561 และกลับไปจดทะเบียนกับนางพัทธ์นันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช อีกครั้งในปี 2562 อย่างไรก็ดียังแจ้งว่าบัญชีทรัพย์สินของ น.ส.ภคอร ด้วย ทั้งนี้นายมงคลกิตติแจ้งอีกว่า มีบุตร 4 คน
นายมงคลกิตติ์ แจ้งทรัพย์สิน 180,546,539 บาท เป็นเงินสด 4 แสนบาท เงินฝาก+เวนคืนกรมธรรม์ 273,923 บาท เงินให้กู้ยืม 4,301,015 บาท ที่ดิน 13.8 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6.2 ล้านบาท รถยนต์ 4.6 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน (หุ้น) 3 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 147,971,500 บาท มีหนี้สิน 14,517,527 บาท
โดยทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ เช่น พระกริ่งปวเรศทองคำ หนัก 3 บาท มูลค่า 50 ล้านบาท พระร่วงหลังรางปืน จ.สุโขทัย เลี่ยมทองคำ 2 บาท มูลค่า 12 ล้านบาท พระสมเด็จไกเซอร์ เลี่ยมทองคำ 2 บาท มูลค่า 30 ล้านบาท พระพุทธชินราชใบเสมา เลี่ยมทองคำ 2 บาท มูลค่า 2,540,000 บาท พระสมเด็จวัดระฆัง เลี่ยมทองคำ 1 บาท มูลค่า 40,020,000 บาท พระรอดลำพูน เลี่ยมทองคำ 1 บาท (ฐานบิ่น) มูลค่า 10,020,000 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่นของ น.ส.พัทธนันท์ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับ เหรียญกษาปณ์โบราณ ธนบัตรโบราณ รวมถึงสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล 2 ตัว ขณะที่ น.ส.ภคอร แจ้งทรัพย์สินอื่นว่า มีกลุ่มพระเครื่อง ครอบครองอยู่ 6 รายการ เช่น พระเสาร์ 5 รุ่นพระครูไกร วัดหนองกลับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เลี่ยมกรองทองคำ พระพุทธชินราช (องค์สัมฤทธิ์) ปี 2512 เครื่องประดับสตรี อาทิ สร้อยคอเพชรปีกหงส์ ต่างหูเพชรชาแนล
นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์มีการแจ้งทรัพย์สินภายในบ้านอย่างละเอียด ทั้งแอร์เก่า โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ตู้เย็น เตรียงนอน ทีวีพานาโซนิก ตี่จู้เอี้ย โต๊ะปิงปอง เครื่องทำน้ำร้อน เครื่องเล่นคาราโอเกะ กระติกน้ำ หม้อหุงข้าว พัดลม ที่ซ้อมต่อยมวย และกรงสุนัข เป็นต้น
มีรายได้ (ไม่ระบุว่าเป็นต่อปี หรือระหว่างดำรงตำแหน่ง หรือ 1 ปีหลังพ้นตำแหน่ง) รวม 6,309,906 บาท เป็นเงินเดือน 1,320,562 บาท ค่าเช่ายานพาหนะ 489,444 บาท ขายหุ้นบริษัทจำกัด 4,499,900 บาท แจ้งรายจ่าย 4,799,544 บาท เป็นค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถยนต์ 1,869,544 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 2.4 แสนบาท ค่าอุปการะมารดา บุตร ธิดา 5.4 แสนบาท เงินช่วยสาธารณะ เงินทำบุญ 1.5 แสนบาท เงินบริจาคพรรคไทยศรีวิไลย์ 2 ล้านบาท
ส่วนนางพัทธนันท์ ฤทธิ์ชัย แจ้งทรัพย์สิน 12,349,227 บาท เป็นเงินสด 3 ล้านบาท เงินฝาก 191,441 บาท เงินลงทุน 137,786 บาท ที่ดิน 5,150,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,850,000 บาท รถยนต์ 1.1 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 9.2 แสนบาท มีหนี้สิน 4,651,285 บาท
มีรายได้ 5,522,786 บาท เป็นเงินเดือน 1,650,000 บาท ค่าจัดหาบุคลากร 1.8 แสนบาท ค่าเลี้ยงดู 3.6 แสนบาท ค่าเช่ายานพาหนะ 315,324 บาท ค่าเช่าบ้าน 645,400 บาท ขายหุ้นบริษัท 1,989,000 บาท ขายหุ้น SISB 68,062 บาท รายจ่าย 3,200,724 บาท เป็นค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถยนต์ 960,724 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 3.6 แสนบาท ค่าอุปการะ มารดา บุตร ธิดา 8.4 แสนบาท เงินช่วยสาธารณะ ทำบุญ 1 แสนบาท เงินบริจาคพรรคไทยศรีวิไลย์ 3 แสนบาท ค่าประกัน ค่าจิปาถะ 6.4 แสนบาท
ส่วน น.ส.ภคอร จันทรคณา มีทรัพย์สิน 5,263,770 บาท เป็นเงินสด 5 แสนบาท เงินฝาก 62,720 บาท เงินให้กู้ยืม 3 แสนบาท ที่ดิน 2,150,000 บาท รถยนต์ 1,729,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 100 บาท ทรัพย์สินอื่น 521,950 บาทมีหนี้สิน 350,625 บาท
มีรายได้ (ไม่ระบุว่าต่อปี หรือระหว่างดำรงตำแหน่ง หรือ 1 ปีหลังพ้นตำแหน่ง) รวม 2,836,580 บาท เป็นเงินเดือน 1,386,580 บาท ขายหุ้น 1,450,000 บาท มีรายจ่าย 1,636,500 บาท เป็นค่าผ่อนบ้าน 1 หลัง 325,500 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 531,000 บาท ค่าอุปการะมารดา 1.2 แสนบาท ค่าทำบุญ บริจาค 6 แสนบาท ประกันชีวิต 60,000 บาท
หากรวมทรัพย์สินของนายมงคลกิตติ์ นางพัทธนันท์ และ น.ส.ภคอร รวมกันทั้งสิ้น 198,159,536 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 19,519,437 บาท
นายมงคลกิตติ์ ก่อนหน้านี้เคยเป็น ประธานกรรมการบริษัท ที.เอ.อี.มาร์ท กรุ๊ป จำกัด และประธานกรรมการ บริษัท เอกลักษณ์สมุนไพรไทย จำกัด
ส่วนนางพัทธนันท์ ฤทธิ์ชัย (คู่สมรสตามกฎหมาย) ระบุว่า ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัคเซส อินเตอร์เอ็ดเทรน จำกัด
ขณะที่ น.ส.ภคอร จันทรคณา (บุคคลที่อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา) ระบุว่า เคยเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ชีวานันท์ กรุ๊ป จำกัด และรองประธานกรรมการ บริษัท ที.เอ.อี.มาร์ท กรุ๊ป จำกัด
อนึ่ง เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2562 รายการเรื่องลับมาก ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ดำเนินรายการโดย น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี สัมภาษณ์นายมงคลกิตติ์ สุขสิธารานนท์ ตอนหนึ่งถึงกรณีการกลับไปแต่งงานใหม่กับภรรยาคนแรกว่า เป็นความชอบธรรมด้านกฎหมาย แล้วเป็นการให้เกียรติเขาด้วย อีกอย่างมีลูกด้วยกันตั้ง 4 คน ตอนเลิกกันก็ดูแลตลอด ช่วงที่เลิกมา 10 ปี เคยจดทะเบียนไปปี 51 แล้วหย่ากันประมาณต้นปี 53 แล้วก็มาแต่งงานกับอีกคนนึงปี 56 มาหย่าเมื่อปี 61
ส่วนทำไมกลับไปจดทะเบียนกับคนแรกนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ควรทำ ก็กลับไปคบกันเหมือนเดิม กับคนที่สองหย่ากันแล้วแต่ก็ทำงานด้วยกัน ต้องอย่าลืมว่าปกติเวลาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เวลายื่นบัญชีทรัพย์สิน ก็เกี่ยวเรื่องนี้ด้วย เกี่ยวเรื่องสถานะ ได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามกฎหมายของคนเป็นภรรยาของคนที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สถานภาพทางสังคมก็ต้องให้เกียรติผู้หญิงเขา ผมก็ยอมรับว่าผมผิดกับภรรยาคนแรก แต่ผิดไปแล้วจะให้ผมชดเชยด้วยอะไร ผมก็ต้องชดเชยด้วยการทำให้มันดีขึ้น ผมไม่ใช่ผู้ชายที่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผมไม่ได้เป็นคนเลว ผู้ชายไม่มีใครทำถูกหมด (ดูคลิปประกอบ)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/