"...ส่องทรัพย์สิน สส.ทายาทบ้านใหญ่ ‘เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์’ สส.อุทัยธานี หลาน ‘ชาดา’ 38 ล้าน-‘วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์’ สส.อุบลฯ ลูก ‘เกรียง’ 260 ล้าน..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกรณีเข้ารับตำแหน่ง สส. เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 โดยบุคคลที่น่าสนใจ คือ นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส. อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) บุตรชายของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น้องสาวของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย บ้านใหญ่อุทัยธานี
เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์
นาย เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ อายุ 35 ปี พร้อมด้วย น.ส.อัสมา ไทยเศรษฐ์ คู่สมรส อายุ 28 ปี ระบุเป็นเจ้าของกิจการร้านอาหารและเครื่องดี่ม ใน จ.อุทัยธานี
มีทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้น 38,551,464 บาท หนี้สิน 1,741,971 บาท
โดยเป็นทรัพย์สินของนายเจเศรษฐ์ 23,694,140 บาท ได้แก่ เงินสด 800,000 บาท เงินฝาก 118,944 บาท ทั้งหมด 4 บัญชี เงินลงทุน 2,500,000 บาท เป็นโค-กระบือ 50 ตัว
ที่ดิน 13 แปลง 5,635,600 บาท เป็นที่ดินใน อ.เมือง จ.อุทัยธานี 11 แปลง ที่ดินใน อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท 1 แปลง และที่ดินใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 1 แปลง โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6,820,000 บาท เป็นอาคารพาณิชย์ และบ้านพักอาศัย ใน อ.เมือง จ.อุทัยธานี ยานพาหนะ 100,000 บาท เป็นรถจักรยานยนต์ 1 คัน
สิทธิและสัมปทาน 6,913,096 บาท เป็นประกันชีวิตเอไอเอ 2 รายการ และโฉนดที่ดิน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และโฉนดที่ดิน ต.ทุ่งนนทรี อ.เขาสมิง จ.ตราด ระบุอยู่ในระหว่างขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก
ทรัพย์สินอื่น 806,500 บาท อาทิ ปืน 2 กระบอก นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน เป็นต้น
ส่วนทรัพย์สินของ น.ส.อัสมา คู่สมรส 14,857,323 บาท ได้แก่ เงินฝาก 202,323 บาท ทั้งหมด 4 บัญชี
เงินนลงทุน 2 รายการ 2,000,000 บาท เป็นบริษัทพอล ออฟ พรอพเพอที บายทวีสุข กรุ๊ป จำกัด 1,500,000 บาท และร้านเดลาโรตี 500,000 บาท
ยานพาหนะ 9,110,000 บาท เป็นรถยนต์ 3 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถตู้ ป้ายแดง 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน
และทรัพย์สินอื่น 3,545,000 บาท อาทิ แหวนเพชร 2 วง สร้อยเพชร 1 เส้น กำไลเพชร 1 เส้น สร้อยข้อมือเพชร 1 เส้น สร้อยทองรูปพรรณ หนัก 12 บาท และสร้อยทองกับสร้อยข้อมือรูปพรรณ หนัก 49 บาท
ส่วนหนี้สิน 1,741,971 บาท เป็นหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับตอนนายเจเศรษฐ์ ยื่นทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. กรณี พ้นตำแหน่ง สส. สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ทรัพย์สินรวมลดลง 1,777,073 บาท จาก 40,328,537 บาท เหลือ 38,551,464 บาท
ข้อมูลรายได้ต่อปีและรายจ่ายต่อปี (โดยประมาณ)
นายเจเศรษฐ์ แจ้งมีรายได้ต่อปี 3,862,720 บาท เป็นค่าตอบแทน(สมาชิกฯ) 1,362,720 บาท และขายโค-กระบือ 50 ตัว 2,500,000 บาท ส่วนรายจ่ายต่อปี 750,000 บาท
น.ส.อัสมา แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,800,000 บาท เป็นค่าตอบแทน 1,200,000 บาท และสามีให้ 600,000 บาท ส่วนรายจ่ายต่อปี 1,450,000 บาท
นายเจเศรษฐ์ แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,632,720 บาท
น.ส.อัสมา แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,020,270 บาท
และทายาทนักการเมืองที่น่าสนใจอีก 1 ราย คือ นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ลูกชายของ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย บ้านใหญ่อุบลราชธานี
นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ อายุ 45 ปี พร้อมด้วย น.ส.พิศทยา ไชยสงคราม อายุ 44 ปี คู่สมรส ระบุเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุบลราชธานี
วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์
มีทรัพย์สินรวมกัน พร้อมบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทั้งสิ้น 260,570,130 บาท ไม่มีหนี้สิน
โดยเป็นทรัพย์สินของนายวรสิทธิ์ 149,010,904 บาท ได้แก่ เงินฝาก 35,004 บาท ทั้งหมด 2 บัญชี
เงินลงทุน 3 รายการ 99,500,000 บาท อาทิ บริษัท สวนหิน 2020 จำกัด มูลค่า 48,000,000 บาท ระบุวันที่ได้มา 30 เม.ย. 2566 บริษัท กัลป์ตินันท์ จำกัด มูลค่า 47,500,000 บาท ระบุวันที่ได้มา 30 เม.ย. 2566 และห้างหุ้นส่วนจำกัด นภวรรณ มูลค่า 4,000,000 บาท ระบุวันที่ได้มา 15 ส.ค. 2565
ที่ดิน 11 แปลง 47,210,780 บาท เป็นที่ดินใน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 9 แปลง และที่ดินในเขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1 รายการ 2,225,120 บาท เป็นตึกแถว 2 ชั้นใน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
ส่วนทรัพย์สินของ น.ส.พิศทยา คู่สมรส 107,059,226 บาท ได้แก่ เงินฝาก 22,206,248 บาท ทั้งหมด 8 บัญชี
ที่ดิน 136 แปลง 64,786,210 บาท ที่ดินส่วนใหญ่ใน จ.อุบลราชธานี โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4 รายการ 12,080,768 บาท เป็นตึกแถว 3 ชั้น 1 หลัง บ้านไม้เดี่ยว 2 ชั้น 1 ห้อง 1 หลัง ตึกเดี่ยว 1 ชั้น 1 ห้อง ใน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี และห้องชุด 1 ห้องในเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ
ยานพาหนะ 1,596,000 บาท เป็นรถยนต์ 3 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ทรัพย์สินอื่น 6,390,000 บาท เช่น ชุดสร้อยเพชร แหวน ต่างหู 1 ชุด ชุดสร้อยไพลิน แหวน ต่างหู 1 ชึด ชุดสร้อยไพลิน แหวน 1 ชุด แหวนเพชร 1 วง ชุดกำไลเพชร แหวน ต่างหู 1 ชุด และนาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร 2 เรือน
สำหรับทรัพย์สินของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เป็นเงินลงทุน 4,500,000 บาท โดยลงทุนใน บริษัท สวนหิน 2020 จำกัด มูลค่า 2,000,000 บาท ระบุวันที่ได้มา 23 ธ.ค. 2565 บริษัท กัลป์ตินันท์ จำกัด มูลค่า 2,500,000 บาท ระบุวันที่ได้มา 23 ธ.ค. 2565
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับตอนนายวรสิทธิ์ ยื่นทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. กรณี พ้นตำแหน่ง สส. สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ทรัพย์สินรวมเพิ่มขึ้น 98,597,050 บาท จาก 161,973,080 บาท เหลือ 260,570,130 บาท
ข้อมูลรายได้ต่อปีและรายจ่ายต่อปี (โดยประมาณ)
นายวรสิทธิ์ แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,362,720 บาท เป็นเงินเดือนทั้งหมด ส่วนรายจ่ายต่อปี 150,000 บาท
น.ส.พิศทยา คู่สมรส แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,249,348 บาท เป็นเงินเดือน 78,988 บาท เบี้ยประชุม 906,360 บาท และค่าเช่า 264,000 บาท ส่วนรายจ่ายต่อปี 60,000 บาท
นายวรสิทธิ์ แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,362,720 บาท
น.ส.พิศทยา แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,249,348 บาท