ป.ป.ช. เปิดบัญชีทรัพย์สิน 'พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์' พ้น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) และสมาชิกวุฒิสภา สว. มีทรัพย์สินรวมกว่า 34 ล้าน ไร้หนี้สิน มีอาวุธปืน 7 กระบอก ที่ดิน 1 แปลงใน จ.สระบุรี รายได้ 1.4 ล./ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ กรณีพ้นตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองบัญชาการกองทัพไทย และกรณีพ้นตำแหน่ง สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2566
โดย พลเอก เฉลิมพล พร้อมด้วย นางบุษกร ศรีสวัสดิ์ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 34,224,895 บาท ไร้หนี้สิน
พลเอก เฉลิมพล แจ้งมีทรัพย์สิน 14,958,360 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 3,298,885 บาท ทั้งหมด 4 บัญชี เงินลงทุน 4 รายการ 1,390,260 บาท เช่น J825 LTF, TMBMF, TMBRMF, สหกรณ์กองบัญชาการกองทัพไทย
ที่ดิน 1 แปลง 53,750 บาท ใน อ.หนองแค จ.สระบุรี สิทธิและสัมปทาน 9,749,964 บาท ส่วนใหญ่เป็นประกันชีวิต-อุบัติเหตุ และทรัพย์สินอื่น 465,000 บาท เป็นอาวุธปืน 7 กระบอก
ส่วน นางบุษกร คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สิน 19,266,535 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 2,474,058 บาท ทั้งหมด 4 บัญชี ที่ดิน 8 แปลง 11,333,055 บาท ใน จ.เชียงใหม่, กรุงเทพฯ, ปทุมธานี
โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1 รายการ 2,000,000 บาท เป็นบ้าน 2 ชั้นในเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ยานพาหนะ 1,400,000 บาท เป็นรถยนต์ 1 คัน ยีห้อ BMW
และทรัพย์สินอื่น 2,059,422 บาท เช่น นาฬิกาข้อมือ 3 เรือน มูลค่า 657,200 บาท พระทองคำเลี่ยมทอง และทองคำแท่ง 2 ชิ้น 116,000 บาท สร้อยข้อมือทองคำ และสร้อยคอทองคำ 3 เส้น มูลค่า 200,000 บาท แหวนทองประดับเพชร มูลค่า 210,000 บาท สร้อยคอเพชร และสร้อยคอทองคำขาวจี้เพชร 2 เส้น มูลค่า 175,000 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้ พลเอก เฉลิมพล แจ้งมีรายได้ต่อปี 1,477,814 บาท เป็นเงินเดือนข้าราชการทหาร ส่วนรายจ่ายต่อปี 920,000 บาท
ส่วนนางบุษกร ไม่ได้แจ้งรายได้ต่อปีไว้ แต่แจ้งรายจ่ายต่อปี 142,000 บาท
พลเอก เฉลิมพล แจ้งยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา เงินได้พึงประเมิน ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (1)-(8) จำนวน 1,477,814 บาท
สำหรับ พลเอก เฉลิมพล ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ระหว่างปี 2560-2561 ดำรงตำแหน่งรองเสนาธิการทหารบก ระหว่างปี 2561-2562 ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในปี 2562 ก่อนจะดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารบก ระหว่างปี 2562-2563 และดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดตั้งแต่ปี 2563 – 2566