"...นายสมบูรณ์ ให้การรับสารภาพเป็นประโยชนแ์ก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 78 คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวมสามกระทง เป็นจำคุก 6 ปี 18 เดือน พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจพฤติการณ์แห่งคดี รวมทั้งเหตุอื่นประกอบกันทั้งหมดแล้ว ไม่มีเหตุรอการลงโทษ..."
นายสมบูรณ์ อินไชยา อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ถ้ำเจริญ อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดคดีกล่าวหากลั่นแกล้งออกคำสั่งเลิกจ้างพนักงานจ้างตามภารกิจโดยมิชอบ และเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการให้เข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าหน้าที่พัสดุ และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ก่อนที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 จะมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา หลังเจ้าตัวรับสารภาพ
ล่าสุด นายสมบูรณ์ อินไชยา ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุกคดีทุจริตเพิ่มอีกหนึ่งคดี เป็นเวลา 6 ปี 18 เดือน
สำหรับคดีใหม่ของ นายสมบูรณ์ อินไชยา เป็นกรณีกล่าวหาร่วมกับพวก ดำเนินโครงการจ้างเหมาซ่อมแซมถนนลูกรังเพื่อการเกษตร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 โครงการก่อสร้างถมดินปรับพื้นที่ อบต.ถ้ำเจริญ โครงการก่อสร้างรางระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กบ้านถ้ำเจริญ หมู่ที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 โดยมิชอบ และสั่งการให้ตัดไม้พะยูงแล้วนำไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 151 , 157 และพ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 และ พ.ร.บ.ว่าด้วย ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย
เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2567 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่พิพากษาตัดสินลงโทษ นายสมบูรณ์ อินไชยา รวมสองกระทง จำคุก 5 ปี
นายสมบูรณ์ ให้การรับสารภาพเป็นประโยชนแ์ก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามมาตรา 78 คงจำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวมสามกระทง เป็นจำคุก 6 ปี 18 เดือน
พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจพฤติการณ์แห่งคดี รวมทั้งเหตุอื่นประกอบกันทั้งหมดแล้ว ไม่มีเหตุรอการลงโทษ
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามที่อัยการสูงสุด (อสส.) หารือไม่ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ เห็นควรไม่ฎีกาคำพิพากษา
เท่ากับว่า นายสมบูรณ์ อินไชยา ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจากคดีทุจริต ไปแล้ว 2 คดี คดีแรก จำคุก 5 ปี 12 เดือน, คดีสอง จำคุก 6 ปี 18 เดือน
อย่างไรก็ดี คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
แต่ไม่ว่าบทสรุปการต่อสู้คดีในชั้นศาล จะออกมาเป็นอย่างไร กรณีนายสมบูรณ์ อินไชยา นับเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาสำคัญของผู้บริหาร อปท.และเจ้าหน้าที่รัฐทั่วประเทศ ไม่ให้กระทำผิดซ้ำรอย เอาเป็นเยี่ยงอย่างทั้งในปัจจุบัน และอนาคต สืบไป
อันเป็นผลสืบเนื่องจากวิบากกรรมการทุจริตที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยเด็ดขาด
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ในช่วงปี 2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาตัดสิน นายสมบูรณ์ อินไชยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ถ้ำเจริญ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุก ให้รอการลงโทษ 1 ปี อีกหนึ่งคดี