ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) สั่ง 'พิธา' หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ตั้งแต่ 19 ก.ค. 66 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย หลังรับคำร้อง 'กกต.' คดีหุ้นไอทีวี
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก (7 ต่อ 2) เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้อง ประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกร้องอาจก่อให้เกิดปัญหาข้อกฎหมายและการคัดค้านโต้แย้งเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานสำคัญของที่ประชุมรัฐสภาและที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ จึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
รายละเอียดที่ปรากฏอยู่ในเอกสารเผยแพร่ข่าวศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 23/2566) เกี่ยวกับการเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ตามที่ปรากฏข่าวต่อสาธารณชนไปแล้ว
สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 เสียงข้างน้อย ที่เห็นว่า นายพิธา ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
คือ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ และ นายนภดล เทพพิทักษ์
ส่วน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 7 เสียงข้างมาก ที่เห็นว่า นายพิธา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
คือ นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ , นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ , นายปัญญา อุดชาชน , นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม , นายวิรุฬห์ แสงเทียน , นายจิรนิติ หะวานนท์ , นายอุดม รัฐอมฤต