เปิดบทสนทนา"ลับ" ในคำพิพากษาคดี ‘อนุรักษ์ ตั้งปณิธนนท์’ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย กมธ.พิจารณาร่างงบประมาณ เรียกรับเงิน 5 ล. ขอเป็นเงินสดแลกไม่ตัดงบฯ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ลั่น“พรุ่งนี้ขอเงิน 5,000,000 บาท” , “ไม่ได้ตัดงบประมาณ แต่ขอเป็นเงินสด” “ถ้าไม่ให้ก็จะตัดงบประมาณของกรม 10 เปอร์เซ็นต์”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : ในคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินคดีหมายเลขดำที่ อม. 4/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 8/2566 ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย จำเลย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 กรณีเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลแลกกับการไม่ตัดงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
ที่ศาลฯ พิพากษาจำคุก จำเลย 6 ปี ให้พ้นจากตำแหน่งตั้งแต่ 19 เม.ย. 2565 ซึ่งเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพิกถอนสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งและเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป และไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ
ตามที่สำนักข่าวอิศรา นำรายละเอียดมามาเสนอต่อสาธารณชนไปแล้วนั้น
มีการระบุข้อมูล บทสนทนาสำคัญ ระหว่าง นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย และ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เกี่ยวกับการเรียกรับสินบน 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ตัดงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
สำนักข่าวอิศรา สรุปรายละเอียดผ่านภาพอินโฟกราฟฟิก ดังนี้
ทั้งนี้ ในคำพิพากษายังมีการระบุข้อมูลว่า ในคืนนั้นเวลา 21.25 นาฬิกา พยานโทรศัพท์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ไปหานายภาดล ถาวรกฤซรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เล่าให้นายภาดลฟังว่า จำเลยโทรศัพท์มาเรียกเงินพยาน 5,000.000 บาท และโทรศัพท์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ไปเล่าเรื่องดังกล่าวให้นายสุรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาน้ำบาดาลฟังด้วย บอกให้นายสุรินทร์เตรียมข้อมูลเพื่อไปชี้แจงให้พร้อม นอกจากนี้วันรุ่งขึ้นเวลา 7.55 นาฬิกา พยานยังได้โทรศัพท์ไปเล่าให้นายนริศ ขำนุรักษ์ ซึ่งเป็นเพื่อนพยานและเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฟังอีกคนด้วย
ก่อนที่ในช่วงเช้า วันที่ 5 สิงหาคม 2563 คณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ประชุมพิจารณางบประมาณกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จำเลยเข้าร่วมประชุมตั้งข้อสังเกตและซักถามเกี่ยวกับโครงการที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นผู้ดำเนินการเองเกี่ยวกับค่าเจาะบ่อบาดาลราคา 171,000 บาทการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ และการกำหนดอัตราราคางานต่อหน่วยที่เท่ากันทุกจังหวัด ในช่วงแรกพยานเป็นผู้ชี้แจงด้วยตัวเอง แล้วให้นายกุศล โซติรัตน์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และนายสุรินทร์เป็นผู้ชี้แจงเกี่ยวกับงานด้านเทคนิคการขุดเจาะบ่อบาดาลที่หน่วยงานดำเนินการเอง แต่จำเลยยังคงติดใจซักถามว่ามีการกำหนดราคาแพง และซักถามเกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่าน้ำมันกับค่าเบี้ยเลี้ยงต่าง ๆ ระหว่างนั้นพยานลุกเดินออกจากห้องประชุมไปเข้าห้องน้ำ ได้พบกับนางวันทนา อาชีววิทย์ ผู้อำนวยการส่วนงบประมาณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1 สำนักงบประมาณพยานพูดกับนางวันทนาว่า ตนอายที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลถูกคณะอนุกรรมาธิการซักถามเยอะเล่าให้นางวันทนาฟังว่า คืนวันที่ 4 สิงหาคม 2563 มีอนุกรรมาธิการโทรศัพท์มาเรียกเงิน 5,000,000 บาท จากนั้นพยานกลับเข้าห้องประชุม และยืนขึ้นพูดว่า “พูดกันไม่รู้เรื่องหรอก เพราะเมื่อคืนนี้มีอนุกรรมาธิการคนหนึ่งโทรไปหาผม ตบทรัพย์ผม 5,000,000 บาท ผมจะไปแถลงข่าว” และมีนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 พูดขึ้นว่าจะพาพยานไปแถลงข่าว ประธานจึงสั่งพักการประชุม
@ ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์
ในช่วงบ่ายจำเลยไม่เข้าร่วมประชุม บรรยากาศในการประชุมเปลี่ยนไปจากช่วงเช้า คณะอนุกรรมาธิการสอบถามพยานว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะตัดลดงบประมาณเท่าใด พยานขอตัดร้อยละ 1 เป็นเงินประมาณ 12,000,000 บาท แต่ประธานคณะอนุกรรมาธิการขอให้ตัดงบประมาณ 15,000,000 บาท และพยานยินยอมให้ปรับลดงบประมาณตามจำนวนดังกล่าว ตามรายงานการประชุมเอกสารหมาย จ.21 หน้า 1157/1 ถึง 1168/1 และเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการสอบสวนคดีนี้ ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนนำมาสู่การชี้มูลและฟ้องร้องคดีความต่อศาลฯ ในเวลาต่อไป
สำหรับรายละเอียดข้อมูลคำพิพากษาทั้งหมด อ่านได้ใน: “พรุ่งนี้ขอเงิน 5,000,000 บาท”! เปิดคำพิพากษาคดี ส.ส.‘อนุรักษ์’เรียกทรัพย์แลกไม่ตัดงบฯ