สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 จ.สุราษฎร์ธานี ส่งหนังสือแจง 'อิศรา' เป็นทางการ ปมชาวบ้านร้องเรียนโครงการก่อสร้าง สะพานลิงเดิน ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เผย อบต. ยืนยันไม่ได้เข้าทําประโยชน์ ไม่ทราบหน่วยงานใดทำ ตรวจสอบเบื้องต้นพบอยู่ในเขตป่าชายเลนพื้นที่รับผิดชอบกรมทรัพยากรทางทะเลชายฝั่ง
................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีชาวบ้านในพื้นที่ตำบลลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ร้องเรียนการก่อสร้างสะพานทางเดินไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่และอาจจะส่อไปในทางที่ทำให้ราชการเสียหายไม่มีประชาชนไปใช้คงมีแต่ลิงเดินจนชาวบ้านตั้งชื่อให้ว่า "สะพานลิงเดิน" และหลังจากเรื่องนี้ปรากฎเป็นข่าวต่อสาธารณะไปแล้ว มีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานเคลื่อนไหวข่มขู่ประชาชน ทำให้เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติพื้นที่อ่าวไทย-อันดามัน เข้ายื่นเรื่องต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ป.ป.ช. ภาค 8 ให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้เป็นทางการนั้น
(อ่านข่าวประกอบ : สะพานคอนกรีต จ.สุราษฎร์ฯ ถูกทิ้งร้าง ไม่รู้หน่วยงานไหนสร้าง ทำลายป่าโกงกาง,ชาวบ้านโดนกลั่นแกล้ง! เครือข่ายอนุรักษ์ฯ ลุยยื่น ป.ป.ช.สอบสะพานลิงเดิน จ.สุราษฎร์ฯ,อบต.โดนแจ้งเซ็นขออนุญาตสร้างย้อนหลัง! ป.ป.ช. ลุยสอบ 'สะพานลิงเดิน' จ.สุราษฎร์ฯ แล้ว)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 ได้ส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงการดำเนินงานก่อสร้างสะพานลิงเดินให้สำนักข่าวอิศรา รับทราบเป็นทางการ ระบุว่า องค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.) ลีเล็ด ได้มีหนังสือแจ้งสํานักจัดการทรัพยากร ป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ว่าการเข้าทําประโยชน์ในเขตป่าในพื้นที่ป่าของตําบลลีเล็ด หน่วยงานที่เข้าทําประโยชน์มิใช่ อบต. และไม่ทราบว่าหน่วยงานใดเป็นผู้เข้าทําประโยชน์ แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น พื้นที่ที่มีการก่อสร้างทางเดินดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าชายเลน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
โดยหนังสือชี้แจงดังกล่าว มีรายละเอียดดังนี้
ตามรายงานข่าวที่อ้างถึง ได้รายงานข่าวสรุปความว่า การก่อสร้างทางเดินศึกษาธรรมชาติ ป่าชายเลน ท้องที่ตําบลลีเล็ด อําเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน และส่อไป ในทางที่ทําให้ราชการเสียหาย ไม่มีประชาชนไปใช้ มีแต่ลิงเดิน จนชาวบ้านตั้งชื่อให้ว่า “สะพานลิงเดิน” และสํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ได้แจ้งให้องค์การบริหารส่วนตําบลลีเล็ด ไปดําเนินการ ขออนุญาตย้อนหลัง ความแจ้งแล้วนั้น
สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ขอเรียนว่า การที่สํานักจัดการทรัพยากร ป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ได้แจ้งให้องค์การบริหารส่วนตําบลลีเล็ด ดําเนินการขออนุญาตย้อนหลังนั้น สืบเนื่องมาจากได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 เรื่อง ขอให้ส่วนราชการหรือหน่วยงาน ของรัฐ ที่เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ที่ยังไม่ดําเนินการขออนุญาตให้ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย ว่าด้วย การป่าไม้ ให้ดําเนินการขออนุญาต ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหากรณีที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ เข้าไปดําเดินการในเขตพื้นที่ป่าไม้ โดยมิได้ขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย ให้ดําเนินการยื่นคําขออนุญาต เข้าทําประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ และเพื่อให้การดําเนินการ ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวบรรลุผล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยกรมป่าไม้ จึงได้แจ้ง ประชาสัมพันธ์ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐต่างๆ ที่ได้เข้าทําประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ให้มายื่นคําขอ อนุญาตภายในกําหนดระยะเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ซึ่งครบกําหนดในวันที่ 19 ธันวาคม 2560 และสําหรับในส่วนของสํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัด กรมป่าไม้ ได้มีส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ มายื่นคําขออนุญาตเข้าทําประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ รวม 2,246 คําขอ ประกอบด้วย คําขอของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จํานวน 1,066 คําขอ จังหวัดชุมพร จํานวน 445 คําขอ และจังหวัดระนอง จํานวน 735 คําขอ
และสําหรับสะพานที่เป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนดังกล่าว สํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ได้รับหนังสือองค์การบริหารส่วนตําบลลีเล็ด ส่งเรื่องราวคําขออนุญาตเข้าทําประโยชน์ในเขตป่าฯ และต่อมาองค์การบริหารส่วนตําบลลีเล็ด ได้มีหนังสือแจ้งสํานักจัดการทรัพยากร ป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ว่าการเข้าทําประโยชน์ในเขตป่าในพื้นที่ป่าของตําบลลีเล็ดหน่วยงานที่เข้าทําประโยชน์มิใช่องค์การบริหารส่วนตําบลลีเล็ด และไม่ทราบว่าหน่วยงานใดเป็นผู้เข้าทําประโยชน์ และจากการตรวจสอบเบื้องต้น พื้นที่ที่มีการก่อสร้างทางเดินดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าชายเลน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ดูหนังสือประกอบ)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/