เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติพื้นที่อ่าวไทย-อันดามัน ยกระดับข้อร้องเรียนปมสะพานลิงเดิน คอนกรีตปริศนาโผล่ ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ไม่ระบุหน่วยงานใดก่อสร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์ ยื่นเรื่อง ป.ป.ช.สอบแล้ว เผยทนไม่ได้กลุ่มผู้มีอิทธิพลใช้อำนาจหน้าที่กลั่นแกล้งชาวบ้านพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ดูงาน -ด้าน ผอ.การเจ้าท่า ภูมิภาค 4 - ผู้ทรงคุณวุฒิ คกก.นโยบายจัดการทรัพยากรทางทะเล รับลูกพร้อมตรวจสอบด้วย
...........................
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต. ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กรณีมีการก่อสร้างสะพานเดินชมธรรมชาติ ที่อาจจะมีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตและน่าจะก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบแปลนไม่ตรงตามความประสงค์ต้องการของชุมชน ที่แทบไม่มีใครใช้ประโยชน์ ยกเว้นลิง จนถูกเรียกขานว่า สะพานลิงเดิน ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
(อ่านข่าวประกอบ : สะพานคอนกรีต จ.สุราษฎร์ฯ ถูกทิ้งร้าง ไม่รู้หน่วยงานไหนสร้าง ทำลายป่าโกงกาง)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2564 นายจำรูญ เกิดดำ ประธาน เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติพื้นที่อ่าวไทย-อันดามัน สมาชิกเครือข่าย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) เปิดเผย สำนักข่าวอิศราว่า ได้รับประสานงานจากทีมนักอนุรักษ์ในพื้นที่ตำบลลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้ประสานงานเพื่อที่จะเดินทางไปร้องทุกข์กล่าวโทษเรื่องนี้ต่อสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ป.ป.ช. ภาค 8 เพราะภายหลังจากเรื่องนี้ปรากฎเป็นข่าวต่อสาธารณชน ได้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในคราบเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจหน้าที่การกลั่นแกล้งประชาชนที่นำสื่อมวลชนลงไปดูพื้นที่ จึงมีความรู้สึกว่าผู้ที่กระทำความผิดหรืออยู่ในข่ายกระทำความผิดใช้อำนาจหน้าที่เพื่อแสวงประโยชน์ให้กลุ่มของตนเองและพวกฟ้องโดยอาศัยทรัพยากรธรรมชาติ กำลังใช้อำนาจหน้าที่ข่มเห่งประชาชนผู้บริสุทธิ์ จึงมีความจำเป็นที่จะออกมาช่วยเหลือนักอนุรักษ์ด้วยกัน เพื่อให้เกิดการทวงดุลและเพื่อให้การจัดสรรการใช้ทรัพยากรเป็นไปอย่างลงตัว
นายจำรูญ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ได้ประสานกับสำนักงาน ป.ป.ช.แล้ว ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ขอให้ส่งรายละเอียดมาเป็นเอกสารร้องทุกข์ก่อน และเมื่อเจ้าหน้าที่เรียกหรือมีหลังฐานเพิ่ม หรือสถานการณ์โรคระบาดซาลง ก็จะเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่พร้อมให้สอบปากคำเป็นพยาน หรือมีเอกสารอื่นใดจะส่งเพิ่มให้ในภายหลัง
“เป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษแบบ NEW NORMAL และเชื่อว่าส่วนราชการหรือ หน่วยงานองค์กรอิสระ จะให้ความสำคัญในการชี้เบาะแสผู้ที่ทุจริตต่อหน้าที่หรือปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในกรณีนี้หากองค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช. ไม่ขยับรับลูกในการตั้งเรื่องสืบสวนสอบสวน ก็อาจจะพัฒนาไปสู่การยื่นฟ้องเอง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 จังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป เนื่องจากนักอนุรักษ์และชาวบ้านพูดตรงกันว่าการก่อสร้างไม่ได้ประโยชน์ และพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ของชาวบ้านกันมานาน และชาวบ้านยืนยันว่า หลังจากที่ก่อสร้างสะพานนี้ไม่ได้กลายเป็นพื้นที่อนุรักษ์ต่อไปและไม่ได้รับรางวัลทางด้านการอนุรักษ์อีก เพราะชาวบ้านบอกว่า ต้องการสะพานเดินชมป่าชายเลนศึกษาความหลากหลายทางชีวะภาพป่าชายเลน ไม่ใช่สะพานริมคลองซึ่งชาวบ้านมีเรืออยู่แล้ว”
ขณะที่ นายประมวล เทศนา ผู้อำนวยการเจ้าท่า ภูมิภาคที่ 4 สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า พื้นที่ที่เจ้าท่ารับผิดชอบเป็นพื้นที่คลองที่มีอยู่ในแผนที่หรือที่ระบุว่า เป็นคลอง ยกเว้นเป็นห้วยที่ไม่มีการเดินเรือ หากการก่อสร้างเกิดขึ้นไปกระทบกับการเดินเรือหรือไม่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนผู้ใช้ประโยชน์ขอให้ส่งต้นเรื่องมาที่สำนักงานเจ้าท่า หมายเลขโทรสาร 077-272-587 หลังได้รับเรื่องจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบรายละเอียดสืบสวนสอบสวนดำเนินการต่อไป
ด้าน นายธนู แนบเนียน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการนโยบายและแผนบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในฐานะเป็นผู้ทรงคุณ มีความเห็นต่อการก่อสร้างสะพานในป่าชายเลน โดยการสนับสนุนเงินงบประมาณมาสร้างในพื้นที่ลีเล็ด มีความเห็นและมีคำถามดังนี้ 1. โครงการนี้ ถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ หมายความว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอนุญาตแล้วหรือไม่ 2. ในการจะดำเนินการก่อสร้าง ได้มีขั้นตอนของการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในพื้นที่หรือไม่ จะไปกระทบกับการฟื้นฟูนิเวศป่าชายเลนบริเวณนั้นหรือไม่ เพราะในการใช้เงินงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างควรจะมีความคุ้มค่าและคุ้มทุน 3. ควรจะให้มีการบริหารจัดการพื้นที่ที่มีการก่อสร้างให้สามารถที่จะใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งในฐานะที่รับรู้ข้อมูลแล้วจะนำเรื่องนี้เข้าไปหารือในการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งต่อไป และก่อนการประชุมจะเคลื่อนไหวรับเรื่องนี้ก่อนเพราะตรงกับหน้าที่ของตน
“จะทำหนังสือส่งไปยังอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อสอบถามที่มาที่ไปของการก่อสร้างสะพานในพื้นที่ป่าชายเลนตำบลลีเล็ด โดยจะเจาะจงถามว่าหน่วยงานที่ดำเนินการก่อสร้างมีการขออนุญาตจากกรมหรือไม่ประการใด หากไม่มีการขออนุญาตจะต้องดำเนินอะไรหรือไม่อย่างไร”
ส่วนนายเลิศเชาว์ ยศเมฆ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลีเล็ด ให้ข้อมูลยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า สะพานลิงเดินตามฉายา ที่ชาวบ้านตั้งให้ ก่อสร้างในพื้นที่ของป่าชายเลน และช่วงที่มีการก่อสร้างหรือช่วงการก่อสร้างเป็นช่วงที่ตนไม่ได้บริหาร อบต.ลีเล็ด จึงไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด ทราบแต่เพียงว่า เงินงบประมาณที่มาก่อสร้าง ได้ผ่านมาทางผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่งและนอกจากสะพานลิงเดินแล้ว ยังมีเรืออีกหนึ่งลำที่ ได้มาจากเงินงบประมาณข้างนอก แต่ปัจจุบันทราบว่า เรือลำดังกล่าว ผู้นำท้องถิ่นคนที่ได้รับมอบเรือได้ขายไปเรียบร้อยแล้ว
“การก่อสร้างในพื้นที่ป่าชายเลนจึงอยู่นอกอำนาจการอนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ที่ อบต.มีหน้าที่ ในการอนุมัติอนุญาต แต่สิ่งที่ทราบในปัจจุบันคือสะพานดังกล่าวไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่อย่างใดเลย” นายเลิศเชาว์ ยศเมฆ ระบุ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/