
ตำรวจ สภ.วิหารแดง นัดแจ้งข้อกล่าวคดีปลูกสร้างรุกคลองสาธารณะ วันที่ 15 ต.ค. หลังได้กรมชลฯส่งหลักฐานยืนยันแนวเขต ชี้ชัดว่ามีการรุกล้ำจริง ส่วนกรณีถมทำทาง-ฝังท่อ ให้ชาวบ้านแก้ไข-ขออนุญาตให้ถูกต้อง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากกรณีร่องน้ำสาธารณะริมถนนทางหลวงชนบท ในพื้นที่หมู่ 6 บ้านหัวถนน ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี (บ้านคลอง 33 ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อ ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี) ถูกชาวบ้านถมดินและทิ้งวัสดุเพื่อปลูกสิ่งก่อสร้างโรงเรือน ร้านซ่อมรถและบ้านพักอาศัยในลักษณะถาวร เกิดขึ้นเป็นเวลานานนับสิบปี และมีแนวโน้มถมมากขึ้นเพื่อให้เต็มพื้นที่ ทั้งที่มีประตูระบายน้ำและศาลาพัก
ต่อมาเจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังษิตเหนือ สำนักงานชลระทานที่ 11 ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคล รวม 35 ราย ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอวิหารแดง จ.สระบุรี และสถานีตำรวจภูธรอำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี แล้ว
ล่าสุด นายคณพศ วัตอักษร วิศวกรชลประทานปฏิบัติ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ เปิดเผยว่า ในส่วนของกรณีชาวบ้านถมทำทาง-ฝังท่อ กรณีนี้ให้มีการดำเนินการแก้ไขและขออนุญาตให้ถูกต้อง ให้เวลา 180 วัน มีปลัดอำเภอเป็นหัวโต๊ะในการประสานดำเนินการ
ส่วนกรณีปลูกบ้านรุกล้ำทับคลอง นายคณพศ กล่าวว่า ในกรณีนี้จะต้องส่งฟ้องดำเนินคดี อยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ทางกรมชลประทานได้ยื่นหลักฐานยืนยันหลักเขตให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.ปิติกรณ์ ชูพร้อม รอง ผกก.สอบสวน.สภ.วิหารแดง เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา ถึงความคืบหน้าคดีปลูกบ้านรุกล้ำทับคลอง ว่า พนักงานสอบสวน (ร้อยเวร) ได้กำหนดวันนัดหมายให้ผู้ถูกกล่าวหาเดินทางมาเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยการนัดแจ้งข้อหาครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กรมชลประทาน ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา ได้นำส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้แก่พนักงานสอบสวนนำมาประมวลในสำนวนคดี โดยหลักฐานดังกล่าวมีความชัดเจนเพียงพอที่จะบ่งชี้ว่ามีที่ดินบางส่วนของผู้ถูกกล่าวหาได้รุกล้ำเข้าไปในแนวเขตคลองชลประทานจริง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าการบุกรุกอาจไม่ใช่ที่ดินทั้งหมด แต่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น
พ.ต.ท.ปิติกรณ์ กล่าวว่า ทางผู้ถูกกล่าวหายังคงยืนกรานต่อสู้ในคดี โดยอ้างกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินพิพาท แต่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐมีความเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน โดยเฉพาะแผนที่ที่จัดทำโดยหน่วยงานราชการซึ่งไม่มีส่วนได้เสีย นอกจากนี้ ยังเคยเกิดกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มาพบตามหนังสือเรียกของกรมชลประทาน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปเชิญตัวมาด้วยตนเอง
พ.ต.ท.ปิติกรณ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการดำเนินการแจ้งข้อหาอาจมีความล่าช้าไปบ้างในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากพนักงานสอบสวนมีภารกิจต้องจัดการคดีเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก แต่ล่าสุดได้มีการนัดหมายเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านที่ถูกแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ 1 ราย ชื่อ นายเปี๊ยก มีการก่อสร้างโรงเรือน โรงจอดรถ ทำเป็นอู่ซ่อมรถ และโรงเรือนทำการเกษตร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สระบุรีอีกแล้ว! ร้องจนท.รัฐปล่อยถมร่องน้ำสร้างโรงเรือนนับสิบปี-กรมชลฯ แจงเตรียมดำเนินคดี
- กรมชลฯส่ง จนท.แจ้งจับ 35 ราย ถมดิน/ปลูกบ้านทับร่องน้ำ จ.สระบุรี-หลังไม่รื้อถอน
- ตร.เตรียมเรียกสอบ 35 รายคดีรุกคลองชลฯ อ.หนองเสือ-วิหารแดง / อบต.โดนด้วย
- มีคนใกล้ชิดนักการเมืองด้วย! จนท.เผยคดีรุกคลองชลฯ อ.หนองเสือ-วิหารแดง รอ ตร.เรียกสอบ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา