ตร.เตรียมเรียกสอบ 35 รายคดีรุกคลองชลฯ อ.หนองเสือ-วิหารแดง / อบต.โดนด้วย

ตร.เตรียมเรียกสอบ 35 ราย คดีถมดิน-ทำทางเชื่อม-ปลูกสร้างโรงเรือน รุกคลองกรมชลประทาน พื้นที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี - อ.วิหารแดง จ.สระบุรี หลังหน่วยงานแจ้งความจับ เผยมี อบต.หนองหมูด้วย ทำถนนเข้า สนง.ไม่ขออนุญาต ขณะที่นายก อบต.บอกไม่ทราบเรื่อง พลิกข้อกม. พ.ร.บ.การชลประทานหลวงฯ โทษทั้งจำคุก-ปรับเงิน 

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า กรณีเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 นายคณพศ วัตอักษร วิศวกรชลประทานปฏิบัติ ได้รับมอบอำนาจจากนายสุภชัย ยังพึ่ง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี และ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ดำเนินคดีเอาผิดบุคคล รวม 35 ราย ภายหลังที่ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการขุดลอก-ถมดิน ลงในทางน้ำชลประทานเพื่อทำทางเชื่อมเข้าออก และปลูกสร้างโรงเรือนโดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ตำบลศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และ ตำบลหนองหมู อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี 

เบื้องต้นได้มีการหารือทำความเข้าใจและปิดประกาศโครงการฯแจ้งให้เจ้าของหรือผู้กระทำได้รับทราบและแก้ไขภายใน 30 วันซึ่งครบกำหนดเวลาแล้ว แต่ยังไม่มีการรื้อถอนหรือแก้ไข จึงเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจภูธรหนองเสือและสถานีตำรวจภูธรวิหารแดงตามกฎหมาย พระราชบัญญัติการชลประทานหลวง ปี 2485 มาตรา 23, 25, 30 ประกอบมาตรา 37 

• สระบุรีอีกแล้ว! ร้องจนท.รัฐปล่อยถมร่องน้ำสร้างโรงเรือนนับสิบปี-กรมชลฯ แจงเตรียมดำเนินคดี
• กรมชลฯส่ง จนท.แจ้งจับ 35 ราย ถมดิน/ปลูกบ้านทับร่องน้ำ จ.สระบุรี-หลังไม่รื้อถอน

ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.สุวิทย์ นันทกอบกุล ผกก.สภ.วิหารแดง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราว่า ได้รับหนังสือจากทางกรมชลประทานแล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการสืบสวนต่อเพื่อยืนยันรายละเอียด จะต้องมีการรังวัดเพื่อหาแนวเขตที่ชัดเจน และจะต้องติดตามเจ้าของที่ดิน เพื่อประสานเข้ามารับทราบความผิดและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.วรยุทธ พงษ์ตัน ผกก.สภ.หนองเสือ กล่าวว่า ปัญหารุกล้ำที่ดินชลประทาน มีทุกท้องที่ และพื้นที่ปทุมธานี ในทุกอำเภอจะมีระบบชลประทานในพื้นที่ค่อนข้างมาก ดังนั้น เรื่องที่ชาวบ้านรุกล้ำที่ดินจึงมีตลอด ขึ้นอยู่กับว่าจะพบที่ไหน หรือจะมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการเข้าแจ้งความหรือไม่

พ.ต.อ.วรยุทธ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า ทางกรมชลประทานได้เข้ามาแจ้งความ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย ยังไม่มีการยืนยันว่าจะดำเนินคดีแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสืบสวนสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ถูกแจ้งความดำเนินคดี 35 ราย  จำแนกเป็น สภ.หนองเสือ 17 ราย และ สภ.วิหารแดง 18 ราย  กรณีแจ้งความ สภ.วิหารแดง เอาผิด 18 รายนั้น ในจำนวนนี้ 1 ราย เป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี โดย อบต.ได้ทำถนนเชื่อมเข้าที่ทำการ อบต. ทับคลองสาธารณะของสำนักงานชลประทาน โดยไม่แจ้งขออนุญาตต่อทางกรมชลประทานซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้ว 

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อ นางอภิญญา มาลินันท์ ผู้อำนวยการกองคลัง รักษาราชการแทนปลัด อบต.หนองหมู เพื่อสอบถามถึงกรณีการรุกล้ำที่ดินของกรมชลประทาน 

นางอภิญญา กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องมาก่อน โดยได้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่แล้ว ไม่พบว่าเคยมีการร้องเรียนหรือแจ้งปัญหาเรื่องการรุกล้ำพื้นที่ของกรมชลประทานเข้ามา

ด้าน นายสุชาติ น้อยคำมูล นายก อบต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี เปิดเผยว่า ทราบเรื่องตอนที่เจ้าหน้าที่กรมชลประทานมาติดประกาศที่บ้านของชาวบ้านคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนกรณีอื่นๆ ไม่เคยได้รับการร้องเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับพระราชบัญญัติ การชลประทานหลวง พ.ศ. 2485

• มาตรา 23 ห้ามมิให้ผู้ใดเพาะปลูกหรือปลูกสร้างสิ่งหนึ่งสิ่งใดในทางน้ำชลประทาน หรือรุกล้ำทางน้ำชลประทาน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากนายช่างชลประทาน

• มาตรา 25 ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นการกีดขว้างแก่ทางน้ำชลประทาน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากเจ้าพนักงานเป็นการชั่วคราว

• มาตรา 30 ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันจะทำให้เสียหายแก่คันคลอง ชานคลอง ทำนบ พนัง หรือหมุดระดับหลักฐานที่ใช้ในการชลประทาน

• มาตรา 37 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 30 มาตรา 26 มาตรา 30 หรือมาตรา 31 มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ