ชาวบ้าน ร้องกลุ่มทุนจาก จ.ชายแดนภาคใต้ รุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เผยที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐไม่จริงจังที่ปราบปราม จี้หน่วยงานรัฐจัดการอย่างจริงจัง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2565 นายสังข์ ปอดมี ชาวบ้านหมู่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าพื้นที่ที่มีการบุกรุกของกลุ่มทุนและกลุ่มบุคคลที่เดินทางมาจากจังหวัดชายแดนใต้ โดยยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอนุรักษ์ป่าชายเลน ในสุดซอยบางกา ม.8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
นายสังข์ กล่าวว่า ตนอยู่ในพื้นที่และทำงานร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมาเป็นเวลานาน แต่ไม่สามารถรักษาพื้นที่ป่าชายเลนบริเวณละแวกบ้านตนไว้ได้ เคยร้องเรียนไปหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ ศูนย์ดำรงธรรม กรมและกระทรวงที่เกี่ยวของ รวมถึงองค์กรอิสระเป็นเวลาต่อเนื่องหลายปี แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการยึดคืนพื้นที่ป่าให้เป็นพื้นที่สาธารณะ และยังคงเป็นพื้นที่ที่ถูกปิดกั้นการเข้าถึงพื้นที่ ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ ประชาชนชาวไทยควรที่จะมีสิทธิ์เข้าไปใช้ร่วมกัน
นายสังข์ กล่าวอีกว่า ชาวบ้านบริเวณนี้ไม่มีใครประสงค์จะเอาที่ดินป่าชายเลนบริเวณนี้เป็นที่ดินส่วนตน แต่มาใช้ร่วมกันเพื่อเป็นช่องทางออกทะเลเพื่อทำมาหากินเลี้ยงชีพแบบวิถีของชาวประมงพื้นบ้าน และในสภาวะที่ของแพงการดำรงชีพในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นๆในพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้วยกัน
นายสังข์ กล่าวต่อว่า ในสภาพปัจจุบันนอกจากหน่วยงานราชการหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ไม่จริงจังที่จะปราบปรามหรือป้องปรามไม่ให้มีการทำลายป่าชายเลนบุกรุกป่าชายเลนแล้ว และบุคคลที่มาบุกรุกเป็นบุคคลที่มาจากพื้นที่ชายแดนใต้ จึงทำให้มีความรู้สึกว่า มีความไม่ปลอดภัยมากขึ้นเนื่องจากชาวบ้านละแวกนี้ไม่ทราบที่มาที่ไปถิ่นฐานจริงของผู้บุกรุกรายใหม่ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดในพื้นที่นี้ที่เดียว แต่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าหลายแห่งของจ.ภูเก็ต เช่น พื้นที่ป่าเขานาคเกิด มีการบุกรุกรุนแรงและพัฒนาไปสู่การยังชีพด้วยการสร้างเป็นฟาร์มแพะใหญ่โต สำหรับในพื้นที่ อ.ถลาง มีการบุกรุกเพิ่มมากขึ้นก็ในพื้นที่ป่าบางขนุน กลุ่มที่บุกรุกใหม่จะเป็นกลุ่มที่มาจากชายแดนใต้
"จะสังเกตได้ว่า จ.ภูเก็ตมีน้ำท่วมรุนแรงในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ในเมือง ภูเก็ต และสนามบินภูเก็ต เชื่อว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่มีน้ำท่วมมาจากปัจจัยการทำลายทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ต่าง ๆ ของ จ.ภูเก็ต การทำลายทรัพยากรป่าไม้เป็นการทำลายระบบนิเวศเกาะอย่างรุนแรง และการที่หน่วยงานรัฐปล่อยให้มีการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ทรัพยากรธรรมชาติ ถือว่าเป็นการปล่อยให้ทำลายระบบนิเวศเกาะ จึงต้องการเรียกร้องอีกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนดั่งเดิมที่อยู่ในพื้นที่มาหลายอายุคนและขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐผนึกกำลังกันป้องปรามปราบปรามการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของ จ.ภูเก็ตจริงจังสักครั้ง” นายสังข์ กล่าว