สมาคมการค้ายาสูบไทย ทวงถามความคืบหน้า หลังผ่านมา 4 เดือน กรมการปกครองบุก 3 ร้านขายบุหรี่เถื่อนชื่อดัง จ.สงขลา พบร้านกลับมาเปิดใหม่หลังจากการตรวจค้นไม่กี่วัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นร้านค้าดัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1.ร้าน ฟาสต์ สโตร์ ตั้งอยู่ บนถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1 ต.หาดใหญ่ 2.ร้าน Gin ตั้งอยู่ บนถนนตันรัตนากร ต.หาดใหญ่ และ 3.เป็นร้านไม่มีชื่อ ตั้งอยู่บนถนนตันรัตนากร ต.หาดใหญ่ ซึ่งหลังจากการตรวจค้นทั้ง 3 ร้าน พบของกลางบุหรี่หนีภาษี สุราหนีภาษี และบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด และพบว่าร้านกลับมาเปิดใหม่หลังจากการตรวจค้นไม่กี่วัน
นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า จากข่าวใหญ่เหตุการณ์ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองเข้าจับกุมร้านค้าดังในจังหวัดสงขลา ที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่หนีภาษี สุราหนีภาษี และบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางสมาคมฯ ได้มีการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พบว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันร้านค้าดังกล่าวก็สามารถกลับมาเปิดจำหน่ายบุหรี่หนีภาษี สุราหนีภาษีได้เหมือนเดิม นอกจากนี้ยังได้รับการแจ้งถึงความเดือดร้อนจากสมาชิกของสมาคมฯ ว่ามีร้านค้าแบบนี้อีกเป็นจำนวนมากในละแวกเดียวกัน ซึ่งเป็นการจำหน่ายที่ไม่เป็นธรรมในการแข่งขันทางการค้า และยังเป็นการกระทำที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จึงขอความช่วยเหลือจากภาครัฐให้มีการเร่งดำเนินดคีอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ร้านเหล่านี้กลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง
สมาคมฯ ในฐานะตัวแทนร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายบุหรี่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ที่ปัจจุบันมีประมาณ 500,000 ราย โดยมีสมาชิกที่เป็นร้านค้าโซห่วยกว่า 1,100 ราย พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนดำเนินการปราบปรามและดำเนินคดีเพื่อติดตามสืบหาเบาะแสต้นตอของขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษีอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าในขณะนี้จะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล แต่ก็เชื่อมั่นว่าปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าอย่างผิดกฎหมายส่งผลกระทบและสร้างความเดือดร้อนให้สภาพเศรษฐกิจของทุกรัฐบาลไม่ต่างกัน และความเดือดร้อนของร้านค้าถูกกฎหมายก็ยังคงไม่หายไปเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากจากปัญหาการลักลอบนำสินค้าหนีภาษีเข้ามาขายภายในประเทศ โดยสำหรับบุหรี่เถื่อน หรือบุหรี่หนีภาษีนั้น มีนักวิชาการคาดการณ์มูลค่าความเสียหายต่อปี ไม่ต่ำกว่า 13,000 ล้านบาท
“ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันเข้าจับกุมจนถึงขณะนี้ ยังไม่ปรากฏข่าวเกี่ยวกับคดีนี้อีกและร้านดังกล่าวก็กลับมาเปิดเช่นเดิม ทำให้มีความกังวลจึงอยากร้องขอให้ภาครัฐรีบดำเนินการโดยด่วน รวมถึงให้กระทรวงการคัง กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลามีแนวทางการปราบปรามและจับกุมคดีเกี่ยวกับสินค้าหนีภาษี โดยเฉพาะบุหรี่เถื่อนอย่างชัดเจน เนื่องจากกรณีดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานฟอกเงินด้วย” นางสาวธัญญศรัณ กล่าว