‘ภัตตาคาร-ร้านอาหาร’ ร้อง ‘อิศรา’ ไม่สามารถนำเข้า ‘ปูขนจีน’ กระทบเมนูที่มีปูขนเป็นวัตถุดิบ ขณะที่ ‘กรมประมง’ แจงไม่เคยสั่งห้ามนำเข้า แต่ระบุหากต้องการนำเข้าจะต้องให้ ‘บอร์ด IBC’ อนุญาตก่อน และต้องทำตามเงื่อนที่กำหนด
.......................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการภัตตาคารและร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเมนูที่ต้องใช้ ‘ปูขนจีน’ เป็นวัตถุดิบ ได้ร้องเรียนมายังสำนักข่าวอิศรา ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการภัตตาคารและร้านอาหาร ที่มีเมนูอาหารที่มีวัตถุดิบเป็นปูขนจีน ไม่สามารถนำเข้าปูขนจากต่างประเทศได้ ทั้งๆที่ไม่มีกฎหมายหรือประกาศฉบับใดที่สั่งห้ามหรือไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการนำเข้าปูขนเข้ามาในประเทศไทยแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามเพาะเลี้ยงในราชอาณาจักร พ.ศ.2564 ฉบับลงวันที่ 17 พ.ค.2564 เพื่อป้องกันอันตรายมิให้เกิดแก่สัตว์น้ำและระบบนิเวศ ซึ่งกำหนดห้ามเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเพิ่มเติม 13 ชนิดในประเทศไทย ซึ่งรวมถึง ‘ปูขนจีน’ นั้น ก็ไม่ได้สั่งห้ามการนำเข้าปูขนจีนเช่นกัน
นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราเกี่ยวกับประเด็นปัญหาดังกล่าว ว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงเกษตรฯออกประกาศห้ามเพาะเลี้ยงปูขนจีน ซึ่งเป็นสัตว์ต่างถิ่น ในประเทศไทย เนื่องจากหากปูขนหลุดรอดไปสู่ธรรมชาติ ก็จะเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำในท้องถิ่น และเป็นปัญหาต่อความหลากลายทางชีวภาพในประเทศไทย เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ที่ประเทศไทยเคยมีปัญหาปลาซัคเกอร์ หรือหอยเชอรี่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนการนำเข้าปูขนจีนนั้น ภาครัฐ โดยคณะกรรมการระดับสถาบันด้านความปลอดภัยและความหลากหลายทางชีวภาพของกรมประมง (IBC) ซึ่งมีอำนาจกำกับดูแลเกี่ยวกับการอนุญาตนำเข้าสัตว์ต่างถิ่น ได้มีมติว่า การนำเข้าปูขนจีน จะต้องได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการ IBC ก่อน และต้องนำเข้าภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งเป็นอำนาจตามมาตรา 65 แห่ง พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
“ไม่ใช่ว่าเราไม่ให้นำเข้าปูขนจีน แต่ต้องนำเข้าภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด เช่น ต้องมีใบรับรองจากประเทศต้นทาง เช่น เรื่องโรค ต้องนำมาบริโภคเท่านั้น ต้องระบุจำนวนที่นำเข้ามาให้ชัดเจน ต้องจัดเก็บอย่างไรเพื่อไม่ให้หลุดรอดไปสู่ธรรมชาติ ต้องมีแผนการใช้ และต้องจำหน่ายให้หมดภายใน 7 วัน เป็นต้น” นายบัญชา กล่าว
สำหรับมาตรา 65 แห่งพ.ร.ก.ประมง บัญญัติว่า “เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองพันธุ์สัตว์น้ำที่หายาก หรือป้องกันอันตรายจากโรคระบาด รัฐมนตรีมีอำนาจประกาศกำหนดห้ามการนําเข้า ส่งออก นําผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ใครอบครองซึ่งสัตว์น้ำบางชนิดได้
ห้ามมิให้ผู้ใดนําเข้า ส่งออก นําผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำตามวรรคหนึ่งเว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย”
นายบัญชา ยังระบุว่า เมื่อสัปดาห์แล้ว คณะกรรมการ IBC มีมติอนุญาตให้ผู้ประกอบการ 4 ราย สามารถนำเข้าปูขนจีนได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดและเป็นแผนที่ผู้ประกอบการเสนอเข้ามาให้คณะกรรมการฯพิจารณา ขณะที่ในการประชุมคณะกรรมการฯวันพรุ่งนี้ (27 ต.ค.) จะมีการพิจารณาข้อเสนอและแผนการนำเข้าปูขนของผู้ประกอบการอีก 10 ราย และที่ผ่านมากรมประมงได้หารือเรื่องนี้กับสมาคมต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ข้อสรุปแนวทางแก้ปัญหาร่วมกันแล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้ประกอบการภัตตาคารในประเทศไทยมีการนำเข้าปูขนจีนปีละหลายสิบตัน ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 19-20 ล้านบาท
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/