ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์อ่าวกุ้ง ร้องผู้สื่อข่าวหลัง “ต้นปู่ทวดลำแพนทะเล” บริเวณอ่าวกุ้ง-อ่าวท่าเล จ.ภูเก็ต ถูกตัดทำลาย
.........................................
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์อ่าวกุ้ง ได้ร้องเรียนว่าหลังจากที่มีการประชุมโครงการขุดลอกร่องน้ำไม่นาน ได้มีมือมืดซึ่งน่าจะมุ่งทำลายหลักฐานคือต้นไม้ป่าชายเลนออกจากพื้นที่ที่เตรียมจะทำการขุดลอก ส่งผลกระทบทางด้านจิตใจของประชาชนในพื้นที่และนักอนุรักษ์เป็นอย่างมากเนื่องจากต้นไม้ที่ถูกรอยโซ่เครื่องเลื่อยตัดบริเวณโคนต้น เป็นต้นลำแพนขนาดใหญ่ น่าจะมีอายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งมีคุณค่าทางด้านการอนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลนที่หาค่ามิได้
ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 เวลา 14.00.นายวุฒิพงศ์ ภริงคาร ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการป่าชายเลนภูเก็ต และคณะเข้าตรวจสอบพื้นที่อ่าวท่าเล หรือ อ่าวกุ้ง พบการตัดโค่นต้นปู่ทวดลำแพนทะเล และตัดทำลายไม้ป่าชายเลนชนิดอื่นๆ บริเวณ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ในเบื้องต้นทางคณะเจ้าหน้าที่ แจ้งกับคณะชาวบ้านและนักอนุรักษ์ทราบว่าจะนำหลักฐานที่เกิดขึ้น ไปสรุปและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
“ก่อนหน้าที่จะมีการทำลายต้นลำแพนขนาดใหญ่ที่ถือว่าเป็นต้นไม้ชายเลนที่มีความผูกพันธ์กับชาวบ้านที่เติบโตมากับพื้นที่และการทำมาหากินมาตั้งแต่ชั่วอายุปู่ยายนับ 100 ปี ที่ผ่านมา เพราะเคยถาม ปู่ว่าต้นลำแพนนี้มีมานานแล้ว หรือไม่ ปู่ตอบว่า เมื่อตอนที่ปู่โตมาและสามารถออกทะเลได้ก็พบต้นลำแพนต้นนี้แล้ว และ ขณะนี้ถ้า ปู่ยังมีชีวิตอยู่ก็อายุนับร้อยปีแล้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับอายุปู่แล้วจะเห็นว่าต้นลำแพนต้นนี้อายุต้องมากกว่า 100 ปี เป็นแน่แท้ ชาวบ้านย่านนี้จึงเรียกต้นลำแพนต้นนี้ว่า ต้นปูทวดลำแพน ส่วนประเด็นที่มีการทำลายน่าจะไปเกี่ยวข้องกับความประสงค์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่น่าจะรับเงื่อนไงในการพัฒนาพื้นที่ไว้รองรับการเจริญเติบโตและการพัฒนาที่นำไปสู่ท่าเรือสำราญ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีความพยายามที่จะต่อต้านของกลุ่มตัวแทนนายทุนไม่ให้มีการปลูกต้นไม้ชายเลนในวันสำคัญๆที่พวกเรานักอนุรักษ์และชาวบ้านทั้งหลายที่เห็นประโยชน์คุณค่าของป่าชายเลน”
รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 64 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ว่าที่ ร.ต. วิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อศึกษาข้อกฏหมายเกี่ยวกับการขุดลอกร่องน้ำสาธารณประโยชน์อ่าวกุ้ง (ท่าเล) โดยมีนายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัวแทนประชาชนเข้าร่วม
ว่าที่ ร.ต. วิกรม กล่าวในที่ประชุมในวันนั้นว่า การพิจารณาของคณะกรรมการฯ เป็นไปตามคำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 7468/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาข้อกฏหมายเกี่ยวกับการขุดลอกร่องน้ำสาธารณประโยชน์อ่าวกุ้ง (ท่าเล) ซึ่งเมื่อวันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม 2564 เวลา 13.30 น. คณะกรรมการฯ ได้ร่วมออกตรวจพื้นที่บริเวณที่จะดำเนินการขุดลอกอ่าวกุ้ง (ท่าเล) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตได้ส่งรายงานผลการอ่านแปล ตีความและวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศให้กับคณะกรรมการฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามหนังสือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตด่วนที่สุดที่ คค 0315.2/ว 479 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 สำหรับวาระการประชุมเพื่อพิจารณาในครั้งนี้มีการพิจารณามี 2 วาระได้แก่การพิจารณาให้ความเห็นชอบผลการแปลภาพถ่ายทางอากาศจากผู้เชี่ยวชาญ ผลการแปรภาพถ่ายทางอากาศข้างต้น ซึ่งระบุว่าร่องน้ำอ่าวกุ้ง (ท่าเล) มีสภาพเป็นร่องน้ำเดิมและให้ถือเป็นข้อยุติในประเด็นการพิจารณาว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นร่องน้ำเดิมหรือไม่และพิจารณาให้ความเห็นชอบให้มีการดำเนินการสำรวจและออกแบบการขุดลอกร่องน้ำอ่าวกุ้ง (ท่าเล) และในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปซึ่งมติที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการในการที่จะดำเนินการสำรวจและออกแบบการขุดลอกร่องน้ำดังกล่าว ทั้งนี้ก่อนการประชุมมีประชาชนในพื้นที่ส่วนหนึ่งมาถือป้ายคัดค้านการขุดลอกร่องน้ำดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องจะได้มีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า มติที่ประชุม กับการอนุรักษ์พื้นที่ขัดแย้งกันในรายละเอียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยและคัดค้านความเคลื่อนไหวในการโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่จึงเป็นเหมื่อนกับการแทงตรงหัวใจของนักอนุรักษ์และชาวบ้านและถือว่าเป็นเหตุสลดใจของนักอนุรักษ์และชาวบ้านอย่างยิ่ง ส่วนการโค่นต้นลำแพนขนาดใหญ่ในครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใดจะต้องติดตามกันต่อไป